กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--เกรียวกราว พลัส
นางสาวนราทิพย์ พุ่มทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ศูนย์คุณธรรมได้จัดประชุมเพื่อหารือแนวทางการดำเนินงานโครงการส่งเสริมศาสนิก สัมพันธ์ในสถานศึกษา ในปี 2553 โดยมีผู้แทนจาก 3 ศาสนาได้แก่ มุขนายกยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ พระสังฆราชสังฆมณฑลนครราชสีมา ประธานโครงการโครงการส่งเสริมศาสนสัมพันธ์ในสถานศึกษาฯ นายมฮัมหมัดเฟาซี แยนา ผู้แทนสภายุวมุสลิมโลกสำนักงานประเทศไทย ผู้แทนศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้จัดการโรงเรียนท่าอิฐศึกษาและกลุ่มองค์กรเครือข่ายในระดับมหาวิทยาลัยร่วมประชุม เพื่อกำหนดกรอบการดำเนินงาน และขยายผลองค์ความรู้แนวทางการจัดกิจกรรมยุวฑูตศาสนิกสัมพันธ์ในสถานศึกษา เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในทุกระดับและสามารถเชื่อมโยงให้เกิดเป็น เครือข่ายศาสนิกสัมพันธ์อย่างแพร่หลาย ที่ผ่านมาเราได้ยุวฑูตศาสนิกสัมพันธ์จำนวน 49 คน บางส่วนกำลังศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย และมีเครือข่ายจำนวนมากที่นำโครงการศาสนิกสัมพันธ์ไปเป็นแนวทางจัดกิจกรรมในสถานศึกษา และชุมชนของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้คณะกรรมการฯได้กำหนดเป้าหมาย ในการจัดกิจกรรมค่ายยุวฑูตศาสนิกสัมพันธ์ และเสริมสร้างแกนนำในระดับมัธยมศึกษา และอุดมศึกษาทั่วทุกภูมิภาค รวมทั้งกลุ่มเยาวชนในชุมชนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวนทั้งสิ้น 60 คน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักศาสนาต่างๆ เพื่อสร้างเครือข่ายศาสนิกสัมพันธ์ที่สามารถทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดกิจกรรมเผยแพร่ศาสนสัมพันธ์ที่เข้มแข็ง นำมาซึ่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขอย่างยั่งยืนได้ต่อไป
มุขนายกยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ พระสังฆราชสังฆมณฑลนครราชสีมา ประธานโครงการโครงการกล่าวว่า “ที่ผ่านมาเราได้ยุวฑูตศาสนิกสัมพันธ์จากโครงการศาสนสัมพันธ์ในสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาจำนวนทั้งสิ้น 49 คน ส่วนใหญ่กำลังศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยและได้นำแนวทางการจัดกิจกรรมไปดำเนินการเผยแพร่และประยุกต์ใช้จนเป็นที่แพร่หลาย เห็นได้จากความสำเร็จของโครงการส่งเสริมกิจกรรมศาสนิกสัมพันธ์ ในโรงเรียนท่าอิฐศึกษาและมหาวิทยาลัยต่างๆอีกหลายแห่ง ซึ่งมียุวฑูตศาสนิกสัมพันธ์ศึกษาอยู่ โดยในปีนี้เรามีเป้าหมายที่จะขยายเครือข่ายไปถึงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเน้นการสร้างผู้นำยุวฑูตศาสนิกสัมพันธ์ในระดับมหาวิทยาลัย เพราะเมื่อภาวะคุณธรรมในสังคมอ่อนแอ เราต้องร่วมมือกันนำเอาสิ่งดีงามที่มีอยู่ในหลักคำสอนของแต่ละศานามาแบ่งปันให้ความรู้ เพื่อเป็นแนวทางและแบบอย่างที่ดีในการกระบวนการทางความคิด การดำรงชีวิต การศึกษาและนำไปสู่การประกอบอาชีพในอนาคต ศาสนิกที่แท้จริงต้องรู้จักหน้าที่ของตน และหน้าที่ต่อสังคม สามารถปฏิบัติตามหลักคำสอนในศาสนาได้จริง และปลอดจากอบายมุขทั้งปวง”
เยาวชนและสถานศึกษาที่สนใจเข้าร่วมโครงการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-6449900 หรือ www.moralcenter.or.th