กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
กสิกรไทยแถลงผลประกอบการปี 2552 กำไรสุทธิ 14,892 ล้านบาท แสดงศักยภาพเด่นไตรมาสสี่กำไรเพิ่มถึง 31.5% สินทรัพย์พุ่งเป็น 1.35 ล้านล้านบาท หลังเข้าซื้อหุ้นเมืองไทยประกันชีวิต สินเชื่อโต 4.3% ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยโตถึง 20.77%
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานก่อนสอบทานของปี 2552 ว่า ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 14,892 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 6.22 บาท เปรียบเทียบกับปี 2551 ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 15,333 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 6.41 บาท โดยเฉพาะไตรมาส 4 ปี 2552 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจำนวน 3,668 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.53 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2551 ที่มีกำไรสุทธิ 2,790 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.17 ทำให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 878 ล้านบาท หรือคิดเป็น 31.47%
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 1,358,532 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551 จำนวน 54,487 ล้านบาท หรือ 4.18% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากที่ธนาคารขยายการลงทุนในบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ผ่านการลงทุนในบริษัท เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 ทำให้มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 70,820 ล้านบาท ส่วนเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 มีจำนวน 943,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.35%
สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การทำธุรกิจที่มุ่งเพิ่มรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย โดยปี 2552 เครือธนาคารกสิกรไทยมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย จำนวน 27,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 4,693 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20.77% โดยมีค่าธรรมเนียมรับจำนวน 19,542 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15.16%
ด้านผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin : NIM) ที่ไม่รวมธุรกิจประกันชีวิต ในปี 2552 อยู่ที่ระดับ 3.58% สำหรับไตรมาส 4 ปี อยู่ที่ระดับ 3.68% ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 อยู่ในระดับที่ 15.18% ขณะที่ปี 2551 อยู่ที่ 15.05% และเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (% NPL gross) ปี 2552 อยู่ที่ระดับ 3.76% ขณะที่ปี 2551 อยู่ที่ระดับ 3.09%