กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--ก.ไอซีที
นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุม Focus Group ครั้งที่ 2 เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวข้องกับการจัดทำหลักเกณฑ์ และวิธีการในการจัดทำหรือแปลงเอกสารหรือข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) ว่า สืบเนื่องจากพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พุทธศักราช 2544 แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2551 มาตรา 11 วรรคหนึ่ง ได้บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ปฏิเสธการรับฟังข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เป็นพยานหลักฐานในกระบวนการพิจารณาตามกฎหมายทั้งในคดีแพ่ง คดีอาญา หรือคดีอื่นใด เพียงเพราะเหตุว่าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์” นอกจากนี้ในมาตรา 12/1 ยังกล่าวถึง การนำบทบัญญัติในมาตราที่เกี่ยวข้องมาบังคับใช้กับเอกสาร และข้อมูลที่มีการจัดทำหรือแปลงเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในภายหลังด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์กำหนด
กระทรวงไอซีที ได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จึงได้ผลักดันโครงการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย แผน มาตรการ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ขึ้น ทั้งนี้ เพื่อจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายกำหนด และนำเสนอให้คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์พิจารณา
“ในพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2551) ได้กล่าวถึง “เอกสารอิเล็กทรอนิกส์” ว่าหมายถึง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ซึ่งถูกนำมาใช้ในรูปแบบที่อยู่ในคอมพิวเตอร์และไม่มีการพิมพ์ออกมาในรูปของเอกสารกระดาษ สิ่งพิมพ์ออก หรือ หมายถึงเอกสารที่แปลงโดยวิธีการสแกนหรือที่ถูกสร้างด้วยคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งตามมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติฯ ยังได้ให้ความหมายของคำว่า “ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์” ไว้ว่า ข้อความที่ได้สร้าง ส่ง รับ เก็บรักษา หรือประมวลผลด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น วิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โทรเลข โทรพิมพ์ โทรสาร โดยจากบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว ทำให้สถานะของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์นั้นถือเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีผลทำให้ต้องปฏิบัติตามหลักกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องมีความน่าเชื่อถือและมีผลในทางกฎหมายเช่นเดียวกับการทำธุรกรรมโดยวิธีการทั่วไป” นายสือ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในการจัดทำหรือแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) ยังไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อใช้อ้างอิง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการนำไปใช้เพื่อการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดทำ หลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำหรือแปลงเอกสารหรือข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) ขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 12/1 ของพระราชบัญญัติฯ
“ดังนั้น ในการดำเนินโครงการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย แผน มาตรการ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงไอซีที จึงได้จัดการประชุมสนทนาเฉพาะกลุ่ม (Focus Group Meeting) ขึ้น จำนวน 2 ครั้ง เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากตัวแทนของทุกภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อให้ได้หลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำหรือแปลงเอกสารหรือข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) ที่เป็นเอกสารอ้างอิง รวมทั้งสามารถสร้างผลลัพธ์ให้เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้โดยทั่วไป” นายสือ กล่าว
สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดประชุมสนทนาเฉพาะกลุ่ม (Focus Group Meeting) ครั้งที่ 2 นี้ จัดขึ้นเพื่อนำเสนอร่างหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำหรือแปลงเอกสารหรือข้อความให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้ปรับปรุงแล้วตามความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของตัวแทนจากทุกภาคส่วนและผู้ที่เกี่ยวข้องจากการประชุม Focus Group ครั้งที่ 1 นอกจากนี้ยังจัดเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่มีต่อร่างหลักเกณฑ์และวิธีการฯ เพิ่มเติม ตลอดจนเพื่อนำผลของการประชุมสนทนานี้ไปพิจารณาจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่เหมาะสมต่อไป