กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--บลจ.นครหลวงไทย
นายรุ่งโรจน์ นิลนพคุณ ผู้อำนวยการฝ่าย สายงานจัดการลงทุน บลจ.นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ภาวะอัตราผลตอบแทนของการลงทุนตลาดพันธบัตรเกาหลีใต้ เมื่อแปลงเป็นบาทมีการปรับตัวสูงขึ้น จากช่วงต้นปีที่ผ่านมาประมาณ 0.20-0.40% ต่อปี สืบเนื่องจากผลการประชุมของธนาคารกลางเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 8 ม.ค.53 ที่ผ่านมา ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหมือนเดิมที่ 2.00% ทำให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรเกาหลีใต้ปรับตัวลดลง และต้นทุนของการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินวอนต่อดอลล่าร์สหรัฐ ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน จึงเป็นผลบวกต่อนักลงทุนต่างประเทศที่เข้าไปลงทุนในตลาดพันธบัตรเกาหลีใต้
ส่วนปัจจัยเรื่องสภาพคล่องเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ของตลาดเงินในประเทศมีความคล่องตัวมากขึ้น ทำให้ค่าป้องกันความเสี่ยงจากสกุลดอลล่าร์ฯต่อเงินบาท (FX Hedging) มีผลเป็นบวกมากขึ้น (FX Premium) ส่งผลให้ต้นทุนโดยรวมจากการลงทุนในตลาดพันธบัตรเกาหลีใต้ เมื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนแบบเต็มทั้งจำนวนแล้ว มีการปรับตัวดีขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้การลงทุนในตลาดเกาหลีใต้กลับมามีความน่าสนใจมากขึ้นอีกครั้ง เมื่อเทียบกับการลงทุนในประเทศ
จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้กองทุนที่เปิดเสนอขายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 14-20 ม.ค.53) กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 22 เดือน1/10 (NKT FFI22M1/10) มีการปรับอัตราผลตอบแทนคาดการณ์เพิ่มขึ้น 2.20% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.50%) จากเดิม 2.00% ต่อปี เน้นลงทุนใน Korea Monetary Stabilization Bond (MSB) และ Korea Treasury Bond (KTB) ซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลและ/หรือสถาบันการเงินประเทศเกาหลีใต้ และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารระยะยาว AA จากสถาบัน Fitch Rating โดยลงทุนในสัดส่วนประมาณ 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
ในช่วงสัปดาห์นี้ถือว่าผลตอบแทนยังเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน บริษัทฯ จึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 9 เดือน2/10 (NAKORNLUANGTHAI FOREIGN FIXED INCOME 9M2/10 FUND : NKT FFI9M2/10) อายุโครงการประมาณ 9 เดือน มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ด้วยอัตราผลตอบแทนประมาณ 1.45% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่าย 0.50% ต่อปี) เน้นลงทุนใน Korea Monetary Stabilization Bond (MSB) และ Korea Treasury Bond (KTB) ซึ่งเป็นตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาลและ/หรือสถาบันการเงินประเทศเกาหลีใต้ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารระยะสั้น F-1 จากสถาบัน Fitch Rating ลงทุนในสัดส่วนประมาณ 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมูลค่าขั้นต่ำของการลงทุนเพียง 2,000 บาท ราคา 10 บาทต่อหน่วยลงทุน ลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากผลตอบแทนที่ได้รับ
นายรุ่งโรจน์ นิลนพคุณ ผู้อำนวยการฝ่าย สายงานจัดการลงทุน กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากกองทุนที่มีการเปิดเสนอขายทุกสัปดาห์แล้ว บริษัทฯ ยังมีการพัฒนาระบบบริการ “Smart Click สะดวกสบายแค่ปลายนิ้ว…คลิก” ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งนอกจากสามารถซื้อขายสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนแล้ว ยังสามารถรับคำสั่งซื้อ ขาย สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเป็นงวด ๆ ละเท่า ๆ กัน (Standing Order) โดยสามารถกำหนดการทำรายการต่อเนื่องได้เป็น รายสัปดาห์, รายเดือน, ราย 3 เดือน, ราย 6 เดือน หรือราย 1 ปี และมีอีเมลล์แจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบล่วงหน้า 1 วัน เมื่อใกล้ระยะเวลาที่กำหนด (กรณีผู้ถือหน่วยแจ้งอีเมลล์ ไว้กับทาง บลจ. เท่านั้น) รวมทั้งการขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่สั่งขายขณะที่ยังไม่ครบเงื่อนไขการลงทุน ระบบจะเตือนการขายผิดเงื่อนไข และสามารถตรวจสอบก่อนยืนยันทำรายการ
ส่วนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) นักลงทุนสามารถดูรายงานการซื้อในช่วงระยะเวลาการลงทุนว่าครบกำหนดตามเงื่อนไขหรือไม่ พร้อมเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยบริษัทฯ ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนที่สมัครบริการ Smart Click รับฟรี Smart Mouse ได้ตั้งแต่วันนี้ — มี.ค.53 นี้เท่านั้น
ผู้สนใจสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.นครหลวงไทย จำกัด Customer Service โทร. 0-2624-8555 กด 2 , www.sci-asset.com หรือ บมจ.ธนาคารนครหลวงไทย สำนักเพชรบุรี โทร. 0-2208-5000 และ SCIB Contact Center โทร.0-2828-8000 การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้