HTECH ปิดดีลขายหุ้น PP รับเงินปลายเดือนนี้ เตรียมซื้อเครื่องจักรใหม่ดันกำลังผลิตปีนี้เพิ่ม 20-50%

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 20, 2010 14:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--IR PLUS HTECH ประสบความสำเร็จในการขายหุ้นเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) “พีท ริมชลา”ระบุขายให้พันธมิตร คู่ค้าทางธุรกิจ และนักลงทุนทั่วไป รวมจำนวน 27 ราย ซึ่งมีความเชื่อมั่นในพื้นฐานของบริษัทและความสามารถของคณะผู้บริหารที่พร้อมผลักดันให้กิจการเติบโตดีต่อเนื่อง เผยเตรียมรับเงินประมาณปลายเดือนนี้ เผยเงินที่ได้ในครั้งนี้จะนำไปซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มเติม ดันกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้นอีก 25-50% ซึ่งเป็นจังหวะที่สอดรับกับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ฟื้นตัว พร้อมมั่นใจปีนี้ปั๊มยอดขายเข้าเป้า 350 ล้านบาท นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (HTECH) เปิดเผยว่าขณะนี้ประสบความสำเร็จในการเจรจาขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากทุนจดทะเบียนส่วนที่ยังไม่ได้รับชำระของบริษัทในจำนวน 20 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท ให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ได้แล้ว โดยมีนักลงทุนที่เป็นทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นพันธมิตร คู่ค้า และนักลงทุนทั่วไป ของ HTECH แจ้งความประสงค์ที่จะซื้อหุ้นดังกล่าวจำนวน 27 ราย โดยกำหนดระยะเวลาในการจองซื้อระหว่างวันที่ 21-26 มกราคมนี้ สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จำนวนประมาณ 50 ล้านบาท HTECH วางแผนที่จะนำไปซื้อเครื่องจักรใหม่ สำหรับนำมาขยายกำลังการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการเนื่องจากอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HARD DISK DRIVE (HDD) ปัจจุบันมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้นและเป็นผลบวกกับยอดขายด้วย “HTECHประสบความสำเร็จในการขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้เป็นเพราะนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง ผนวกกับคณะผู้บริหารมีความมุ่งมั่นในการบริหารกิจการเพื่อให้เกิดผลตอบแทนที่ดีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และจากการระดมทุนในครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดต่างประเทศของ HTECH มากขึ้นเนื่องจากนักลงทุนที่มาซื้อหุ้น PP ครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นพันธมิตรและคู่ค้าทางธุรกิจจากทั้งในและต่างประเทศซึ่งพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของ HTECH ในทุกๆ ด้าน เพื่อให้กิจการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไปในอนาคต รวมถึงการเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทด้วย และจากความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้ผมมั่นใจว่าปีนี้จะมียอดขายตามเป้าหมายที่วางเอาไว้คือ 350 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) คาดว่าจะไม่ต่ำกว่าปี 2552 ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 27%” เขากล่าวต่อว่าจากสถานการณ์การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HARD DISK DRIVE (HDD) ที่ฟื้นตัวตามภาวะทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังปี 2552 ส่งผลทำให้มียอดคำสั่งซื้อ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน - ต้นธันวาคมปี 2552 บริษัทได้ลงทุนติดตั้งเครื่องจักรแล้ว 3 เครื่อง มูลค่ารวมประมาณ 41 ล้านบาท ได้แก่ เครื่อง PCD Grinding จำนวน 1 เครื่อง เครื่อง Carbide Grinding จำนวน 1 เครื่อง และเครื่อง Wire cut จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตในครึ่งปีแรกของปี 2553 เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 25% เมื่อเทียบกับกำลังผลิตของปีก่อน แต่คาดว่ากำลังการผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ แม้จะเดินเครื่องเต็ม 100% ก็ตาม ดังนั้นในปี 2553 บริษัทจึงเตรียมลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มอีกจำนวน 5 เครื่อง มูลค่าประมาณ 63 ล้านบาท เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์เก่าและใหม่ที่บริษัทดำเนินการอยู่ ประกอบด้วย เครื่อง PCD Grinding จำนวน 1 เครื่องใช้ผลิต PCD cutting tools เช่น PCD Drill , เครื่อง Carbide Grinding จำนวน 2 เครื่อง เพื่อใช้ผลิต Carbide Cutting Tools และเครื่อง Wire cut อีกจำนวน 2 เครื่อง สำหรับผลิตภัณฑ์ Hollow toolsโดยจะเริ่มทยอยเข้ามาช่วงเดือนมีนาคม 2553 ซึ่งคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 50% ในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อเทียบกับกำลังผลิตของปี 2552 ข้อมูล บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิต รับจ้างผลิตและจำหน่ายเครื่องมือที่ทำมาจากเพชรสังเคราะห์ (Polycrystalline Diamond; PCD) สำหรับใช้ในการตัดเฉือนโลหะ (Cutting Tools) เพื่อใช้ได้ชิ้นงานที่มีความเที่ยงตรงสูง (High precision part) โดยบริษัทเน้นการผลิต PCD Tools เป็นส่วนใหญ่เพราะมีคุณสมบัติเด่น คือ อายุการใช้งานให้ผลที่ดีกว่าเครื่องมือประเภท Carbide ซึ่งผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภท คือ PCD boring tool, PCD endmill tool, PCD insert, PCD brazing tool, PCD reamer และ PCD hollow tool โดยทั่วไปเครื่องมือตัดเฉือนโลหะ (Cutting tools) จะมีคุณสมบัติ คือ ความแข็ง (Hardness) และความทนการต่อการเสียดสีสูง (Wear Resistance) ซึ่งเครื่องมือประเภท PCD และ Carbide จะมีคุณภาพและความสามารถในการใช้งานต่างกันตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ IR PLUS:คุณสิริวิมล สนธิ (ก้อ) โทรศัพท์ 02-554-9396 E-mail : siriwimon@irplus.in.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ