กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น
นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทเวก้าฯปี 2552 หรือปีที่แล้วที่จัดกว่า10งาน ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ แม้จะเกิดตัวแปรหลายปัจจัยที่ทำให้ตนต้องทำงานหนักมากกว่าทุกปี ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบกล่าวคือ ผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาวิกฤติดังกล่าวจะระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ไม่กล้าลองขยายตลาดส่งออกหรือเปิดตลาดภูมิภาคอื่นๆที่ตนไม่คุ้นเคย ในขณะเดียวกันก็มีด้านดีคือตลาดใหม่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเพราะถือเป็นทางเลือกใหม่นอกเหนือจากตลาดหลักคือสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น อีกทั้งภาครัฐให้การสนับสนุนผลักดันทั้งด้านงบประมาณสนับสนุนโครงการตลาดใหม่ จากกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ และเงินทุนสนับสนุนSMEsในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า จากสสว. และกิจกรรมการให้ความรู้ในภูมิภาคอาหรับดังกล่าว เป็นต้น โดยภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งมีศักยภาพทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศสูงมาก ถือเป็นดาวรุ่งที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ แต่เมื่อมีการเปิดเผยถึงวิกฤตการณ์ดูไบแพร่กระจายไปทั่วโลกเมื่อปลายปี2552 ที่ผ่านมา ทำให้ตนต้องศึกษาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบเพื่อตอบคำถามผู้ประกอบการของไทยทั้งที่เป็นขาประจำงานที่ไปร่วมแสดงสินค้ากับตน และรายใหม่ที่กำลังสนใจและเจรจากัน
นายอัครวุฒิกล่าวว่า “ผมต้องขอชี้แจงว่าตลาดตะวันออกกลางมีความหมายและขอบเขตมากกว่าเพียงดูไบเท่านั้น ซึ่งแม้แต่ดูไบเอง ก็จะมีรัฐอบูดาบี้ให้การโอบอุ้มคุ้มครองการันตีด้านเครดิตและการเงินอยู่แล้ว รับรองว่าสามารถฟื้นตัวได้เร็ว และกลุ่มประเทศตะวันออกกลางก็มีด้วยกัน15 ประเทศ คือ กลุ่ม GCC อันประกอบไปด้วย สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์(UAE) บาห์เรน ซาอุดิอาระเบีย คูเวต การ์ตา และโอมาน กลุ่มอาหรับอื่นๆ ประกอบด้วย เลบานอน จอร์แดน ซีเรีย อิรัก และ เยเมน กลุ่มประเทศที่ไม่ใช่อาหรับ ประกอบด้วย อิหร่าน ตุรกี ไซปรัส และ อิสราเอล ดินแดนตะวันออกกลางเป็นตลาดการค้าขนาดใหญ่ของโลก มีจำนวนประชากรมากกว่า 350.5 ล้านคน แหล่งทรัพยากรธรรมชาติคือ น้ำมัน ก๊าซ สัตว์น้ำทะเล ถ่านหิน ทองแดง แร่ธาตุต่างๆ ตะวันออกกลางเป็นศูนย์กลางในการขยายตลาดไปยังทวีปแอฟริกา กลุ่ม CIS และ EU เนื่องจากประเทศกลุ่มนี้มีรายได้จากน้ำมันที่มีฐานราคาสูงมา จึงสามารถนำมาพัฒนาธุรกิจในด้านต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยว ธุรกิจบริการ รวมถึงการเติบโตของโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ทำให้เกิดธุรกิจเชื่อมโยงอีกหลายด้าน เช่น ธุรกิจตกแต่งภายใน ธุรกิจสปา รวมไปถึงสินค้าไทยหลากหลายรูปแบบที่ชาวอาหรับนิยมเช่นสินค้าอุปโภคบริโภคสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ”
นายอัครวุฒิกล่าวอีกว่า หากคนไทยศึกษาถึงพฤติกรรมการบริโภคของชาวตะวันออกกลางก็จะทำให้เข้าถึงตลาดได้ตรงจุด เพราะสินค้าไทยในทุก ๆ ภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่ SMEs จนถึง อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เป็นที่ต้องการในกลุ่มประเทศอาหรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศกลุ่มนี้มีเม็ดเงินจากการขายน้ำมัน ทำให้การพัฒนาประเทศของเขาในด้านต่าง ๆ สะท้อนกลับมาเป็นการบริโภคสินค้าในหลาย ๆ อุตสาหกรรม และชาวอาหรับได้เข้ามาท่องเที่ยวในไทยเป็นกันเป็นครอบครัวจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเดือน 6-7-8 ของทุกปี (เพราะเป็นช่วงหน้าร้อนของประเทศเขา ทำให้ชาวอาหรับคุ้นเคยกับสินค้า และบริการของประเทศไทยไปหลาย ๆ ส่วน ซึ่งดีกับการส่งออกของสินค้าไทยอีกด้านหนึ่ง
ปี53 ดับเบิ้ลเป็น22งานแสดงสินค้า กระหึ่มภูมิภาคตะวันออกกลาง “ปีนี้ปีเสือ เวก้าฯก็ขอขี่เสือขึ้นเป็นจ้าวแห่งงานแสดงสินค้าในตะวันออกกลางและโลกมุสลิมครับ เราเพิ่มจำนวนงานแสดงสินค้าเป็น 2 เท่า จากผลของความสำเร็จในปีก่อนๆ ทำให้ประเทศเจ้าภาพเรียกผมไปคุยเพื่อให้เป็นตัวแทน เพราะวางใจและเชื่อมือเวก้าฯ โดยงานแสดงสินค้าที่ผมเลือกจะเป็น2 ประเภท ได้แก่ 1. งานสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าทั่วไปซึ่งจะมีคนเข้ามาซื้อกันเป็นจำนวนมาก มีทั้งแบบค้าปลีกและค้าส่ง จึงเป็นที่นิยมมากสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการSMEs ที่ต้องการไปทดลองตลาดและใช้เวลาในการเจรจากับผู้นำเข้า และ 2. งานเฉพาะกลุ่มสินค้าและธุรกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ, กลุ่มธุรกิจก่อสร้างและการตกแต่งบ้าน, กลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพและโรงพยาบาล, กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว และกลุ่มธุรกิจสินค้าอาหาร รายละเอียดและข้อมูลแนะนำทางการตลาดสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซท์www.vegainter.com ผมมั่นใจว่าปีนี้จะไม่เป็นปีเสือหิว แต่จะเป็นปีเสือพยัคฆ์ที่ยิ่งใหญ่ของธุรกิจไทยผมอยากให้ผู้ประกอบการสู้ไปด้วยกันครับ สู้ให้เต็มที่ ความสำเร็จก็จะอยู่ในมือเราครับ” นายอัครวุฒิกล่าวทิ้งท้ายในที่สุด
บริษัทเวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด เป็นบริษัททำธุรกิจด้านออแกนไนเซอร์ พาผู้ประกอบการสินค้าและบริการของไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในภูมิภาคตะวันออกกลางมาร่วม7ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ 2546 โดยมีจุดเด่นที่แตกต่าง คือให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจรตั้งแต่การอำนวยความสะดวกในการจัดทำวีซ่า พาสปอร์ต ช่วยแนะนำและประสานงานด้านแหล่งเงินทุนสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ การให้ความรู้ด้านการตลาดกับผู้ประกอบการในการคัดเลือกและนำเสนอสินค้าให้ตรงตามความต้องการของชาวอาหรับ อำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง ที่พัก การขนส่งและจัดเก็บสินค้า การขายสินค้า ดูแลจนถึงวันสุดท้ายของงานและผู้ประกอบการนำความสำเร็จกลับสู่เมืองไทย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ตัวแทนประชาสัมพันธ์ :Kornpanot Consultant
นางสาวกรปณต วงษ์สุนทร (ต่าย) โทร.02-995-5900 กด 1
Email: tai.wongsuntorn@yahoo.com ,taiwong59@gmail.com