กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--IR PLUS
"ปกรณ์ บริมาสพร" ปลื้มห้องปฏิบัติการทดสอบ L&E ได้รับการรับรองระบบคุณภาพ ISO/IEC 17025 ส่งผลให้สินค้าได้รับการยอมรับจากทุกตลาดทั่วโลก ร่างแผนพร้อมลุยตลาดส่งออกเต็มสูบ มั่นใจปั๊มรายได้โตก้าวกระโดดจากปีก่อน ประกอบกับปีนี้พร้อมเก็บเกี่ยวผลจากการซุ่มปรับกระบวนการจัดการภายในที่ทำมาตลอดปี 52 ทั้งการปรับปรุงโรงงาน กระบวนการผลิต และระบบสารสนเทศ ที่นำไป สู่การลดต้นทุนอย่างจริงจัง เชื่อผลักดันธุรกิจในประเทศเติบโตอย่างชัดเจน ดันรายได้ปีนี้โตได้ 20% พร้อมยันยังจ่ายปันผลสม่ำเสมอ
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้ดำเนินธุรกิจผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ห้องปฏิบัติการทดสอบด้านไฟฟ้าแสงสว่างของบริษัทฯ ได้รับการรับรองระบบคุณภาพ ISO/IEC 17025 ซึ่งเป็นข้อกำหนดทั่วไปว่าด้วย ความสามารถของห้องปฏิบัติการในการดำเนินการทดสอบ โดยห้องปฏิบัติการทดสอบที่ผ่านมาตรฐานนี้แสดงให้เห็นว่ามีการดำเนินการด้านระบบคุณภาพมีความสามารถทางวิชาการ ผลการทดสอบเชื่อถือได้ว่าถูกต้องตามหลักวิชาการ ทำให้เกิดการยอมรับจากตลาดทั่วโลก และขจัดปัญหาทางวิชาการในการกีดกันทางการค้าได้ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองโดยห้องปฏิบัติการทดสอบแห่งนี้จะเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลก จึงทำให้เป้าหมายการทำธุรกิจของบริษัทฯ ที่ต้องการให้ครบวงจรครอบคลุมตั้งแต่ UPSTREAM, MIDSTREAM และ DOWNSTREAM มีความสมบูรณ์ตามแผนที่ได้วางไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะทำให้รายได้จากการส่งออกขยายตัวได้อย่างโดดเด่น
"การได้รับรองระบบคุณภาพ ISO/IEC 17025 ของห้องปฏิบัติการทดสอบด้านแสงและไฟฟ้าสำหรับโคมไฟฟ้าถือว่าส่งผลดีต่อธุรกิจการส่งออกของบริษัทฯ เป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้สินค้าที่ผ่านการทดสอบจากห้องปฏิบัติการทดสอบแห่งนี้ ได้รับการยอมรับจากทุกตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วที่มักจะให้ความสำคัญกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก โดยเรามั่นใจว่าในปี 2553 จะเห็นรายได้จากตลาดส่งออกเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดได้ถึงกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 53 เติบโตในทิศทางที่ดี เพราะตลาดในประเทศเองก็เริ่มฟื้นตัวได้ตามภาวะเศรษฐกิจ และการลงทุนของภาครัฐที่ผ่านมาทางโครงการไทยเข้มแข็งด้วย"
เขากล่าวอีกว่า ทั้งจากการมุ่งปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพของตัวเองมาอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2552 และการเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาวะเศรษฐกิจ จะทำให้ในปี 2553 เป็นปีที่ L&E เริ่มเก็บเกี่ยวผลจากการลงทุนลงแรงอย่างแท้จริง โดยบริษัทฯ พร้อมจะเดินหน้าขยายธุรกิจผลิต จำหน่าย และส่งออกโคมไฟฟ้าอุปกรณ์แสงสว่างอย่างเต็มตัว ภายใต้กระบวนการผลิตที่มีต้นทุนที่ต่ำลง จากการปรับปรุงโรงงานและพัฒนากระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาและปรับปรุงให้ทันสมัยและมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ทำให้พนักงานสามารถทำงานนอกสำนักงานที่ใดก็ได้โดยสามารถดูข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศ และลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่กระทบกับบุคลากร เช่น ค่าใช้จ่ายด้านการสื่อสาร โดยเปลี่ยนรูปแบบจากการใช้กระดาษมาเป็นการใช้การสื่อสารผ่านคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้สามารถรับมือกับการแข่งขันที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างคล่องตัว ส่งผลดีต่อธุรกิจโดยตรง
"ในปี 2553 จะเป็นปีที่เราพร้อมจะเก็บเกี่ยวผลงาน จากที่ในปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย ต่อการขยายรายได้ จึงหันกลับมามุ่งปรับปรุงและพัฒนาระบบการผลิตและการจัดการภายในกันอย่างจริงจังเพื่อนำไปสู่การลดต้นทุนอย่างเป็นรูปธรรม ในขณะที่สินค้ายังมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขายยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม เพื่อให้รับมือกับการแข่งขันในปีนี้ ได้อย่างคล่องตัว หลังจากที่ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้นตัว และมีงบประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็งเริ่มออก สู่ตลาด โดยในปีนี้บริษัทฯ มีเป้าหมายรักษาความเป็นผู้นำในด้านงานโครงการ และจะมุ่งมั่นขยายการค้าปลีกผ่าน Lighting Solution Center (LSC) ที่ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 ซึ่งปัจจุบันนี้รายได้ที่ได้รับจาก LSC ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การส่งออก เชื่อว่าการได้รับการรับรองระบบคุณภาพ ISO/IEC 17025 จะทำให้ลูกค้าเริ่มเกิดความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการของบริษัทฯ มากขึ้น ซึ่งเริ่มส่งผลชัดเจนตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2552 ปีที่ผ่านมาและคาดว่าในปี 2553 จะสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด " นายปกรณ์กล่าว
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังจะเดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความหลากหลายและครบวงจรมากขึ้น โดยในปี 2553 จะให้ความสำคัญกับสินค้า LED อย่างจริงจังหลังจากพบว่า ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างดาวรุ่ง ที่การใช้งานเริ่มหลากหลายและความต้องการใช้เริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจะขยายงาน R&D(Research & Development) การพัฒนากระบวนการผลิต ตลอดจนลงทุนในอุปกรณ์และเครื่องจักรให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับกับตลาด LED ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมั่นใจว่าจะให้ในปี 2553 รายได้เติบโตได้อย่างชัดเจนในอัตราไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะเดียวกันยืนยันว่าจะยังคงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการจ่ายเงินปันผลอย่างดีแก่ผู้ถือหุ้น อีกทั้งจะยึดมั่นการดำเนินงาน ที่มีความโปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต รอบคอบ และสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งแก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง นายปกรณ์กล่าวในที่สุด
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
IR PLUS : คุณปภาดา สุวรรณกูฏ (ตุ้ย) Tel. 02-5549394
E-mail : phapada@irplus.in.th