กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
กระทรวงการคลังเผยในช่วงไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลจัดเก็บรายได้และเบิกจ่ายงบประมาณได้เกินเป้า ในขณะที่ฐานะเงินคงคลังยังอยู่ในระดับที่มั่นคง
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2553 ว่ารัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึงร้อยละ 26.8 เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ภาษีสุรา เบียร์ และภาษียาสูบ ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบายงบประมาณขาดดุล โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณ 98,783 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล ส่งผลให้ขาดดุลเงินสดรวม 175,093 ล้านบาท และรัฐบาลได้ออกพันธบัตรเพื่อชดเชยการขาดดุล 51,572 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดทั้งสิ้น 123,521 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 170,313 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับที่มีความมั่นคงต่อฐานะการคลัง
นายสาธิตสรุปว่า “จากผลการจัดเก็บรายได้ที่มีทิศทางดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ฐานะการคลังของรัฐบาลมีความเข้มแข็ง ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาลสามารถอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่องและเป็นไปตามเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล”
ตารางฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2553
(ตุลาคม— ธันวาคม 2552)
หน่วย: ล้านบาท
ไตรมาสแรก เปรียบเทียบ
ปีงบประมาณ 2553 ปีงบประมาณ 2552 จำนวน ร้อยละ
1. รายได้ 352,392 278,018 74,374 26.8
2. รายจ่าย 451,175 404,340 46,835 11.6
3. ดุลเงินงบประมาณ -98,783 -126,322 27,539 -21.8
4. ดุลเงินนอกงบประมาณ -76,310 -81,812 5,502 -6.7
5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) -175,093 -208,134 33,041 -15.9
6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 51,572 40,000 11,572 28.9
7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6) -123,521 -168,134 44,613 -26.5
ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง / รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้จาก www.fpo.go.th
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร 0 2273 9020 ต่อ 3558