กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ปิดฉากลงเรียบร้อยแล้ว สำหรับงาน “ราชมงคล RT สร้างคนสู่งาน” ประจำปี 2553 และงาน “OPEN HOUSE” ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)ธัญบุรี ต.คลองหก อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่ขนเทคโนโลยีใหม่ๆ และอาชีพหลากหลายที่น่าสนใจมาเผยแพร่ โดยเฉพาะผลงานของนิสิตนักศึกษา ที่บอกคำเดียวว่า “รศ.ดร.นำยุทธ สงค์ธนาพิทักษ์” อธิการบดีมทร. ธัญบุรี ยิ้มหน้าบาน เนื่องจากได้รับคำชมจากผู้เข้าร่วมงาน และสถานประกอบการณ์ มากมาย
เริ่มด้วย น้องโอ๊ต นายศุภักษร โวหาร นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ เล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มถึงผลงานใหม่แกะกล่อง กระยาสารทข้าวเหนียวดำ รสเมี่ยงคำว่า ผลงานชิ้นนี้เป็นโปรเจ็คส์ที่เขาต้องทำส่งอาจารย์ก่อนจบ ซึ่งทุกกระบวนการผลิตต้องผ่านการคิดค้น ทดลอง และงานนี้เป็นงานแรกที่ได้นำเสนอผลงาน
“รู้สึกดีใจมากที่ผลงานได้รับความสนใจจากน้องๆ นักเรียน ประชาชน และชาวต่างชาติที่มาเที่ยวงาน โดยเฉพาะคำถามจากชาวต่างชาติ ว่าทำไมไม่ทำขาย เพราะถ้าทำขายเขาจะเป็นลูกค้ารายแรก คำพูดเหล่านี้ทำให้ผมมีกำลังใจในการผลิตผลงานดีๆ และทำให้รู้ว่าสินค้าของเราเป็นที่ต้องการของตลาด อนาคตหากเราตกงาน ผลงานที่ผมผลิตขึ้น ก็สามารถใช้เป็นอาชีพเลี้ยงปากเลี้ยงท้องผมและครอบครัวได้”
ส่วนที่เลือกกระยาสารท ขนมไทยที่ได้รับความนิยมเฉพาะช่วงเทศกาลสารทเดือนสิบของทุกปี น้องโอ๊ต เล่าต่อว่า ปัจจุบันเยาวชน คนไทย หลงลืมความเป็นไทย และหันไปบริโภคขนม อาหารฟาสฟู๊ดหมด ทั้งๆ ที่อาหาร ขนมไทยมีชื่อเสียง และไม่มีชาติไหนในโลกสามารถทำได้ กระยาสารทข้าวเหนียวดำ รสเมี่ยงคำ จึงคิดดัดแปลงกระยาสารทให้แตกต่างและมีมูลค่า ทานง่าย เป็นของว่างที่มีคุณค่าทางอาหาร โดยใช้ข้าวเหนียวดำแทนข้าวเม่า ข้าวตอก อีกทั้งยังเพิ่มรสชาติ โดยรสเมี่ยง ที่นำถั่วลิสง งา มะพร้าวคั้วให้สุก กุ้งแห้ง ใบชะพลูอบแห้ง นำมากวนกับน้ำอ้อยให้เหนียวเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้ทานง่าย รสชาติดี ดึงดูดให้ผู้คนสนใจ
กระยาสารทข้าวเหนียวดำ รสเมี่ยงคำ นอกจากมีรสชาติเหมือนเมี่ยงคำแล้ว ยังมีคุณค่าทางอาหารที่ครบถ้วนเหมาะสำหรับคนรักสุขภาพมากๆ โดยเฉพาะผู้หญิง เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน เจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง และมีใยอาหารสูงช่วยป้องกันท้องผูก ฯลฯ
ยุทธ ว่าที่ ร.ต. วีรยุทธ พิมพาเพียร นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาเทคโนโลยีโทรคมนาคม คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม เล่าถึงผลงานชิ้นโบแดงของเขาและเพื่อนว่า เครื่องตรวจการเข้า-ออกรถยนต์แบบไร้สายด้วยการสแกนลายนิ้วมือ ถือเป็นผลงานชิ้นแรกในประเทศไทยที่สามารถคิดค้นการตรวจรถเข้าออกแบบไร้สาย สแกนลายนิ้วมือ และยังเป็นการเก็บข้อมูลรถจากภาพถ่าย รวมไปถึงยังสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาเปรียบเทียบขณะเข้า-ออก เพื่อเป็นการป้องกันการโจรกรรมรถยนต์
“ไม่คิดว่าเมื่อนำผลงานมาโชว์ จะมีผู้คนให้ความสนใจมากขนาดนี้ เพราะผลงานที่ผลิตขึ้นผ่านการลองผิดลองถูกมานับครั้งไม่ถ้วน จนกลัวว่าจะไม่มีใครสนใจ แต่เมื่อมาโชว์ในงานมทร.ธัญบุรี มีผู้คนเข้ามาสอบถามถึงระบบ และชื่นชอบผลงานของเรา ทำให้มีกำลังใจในการผลิตเทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้น อีกทั้งยังทำให้รู้อีกว่า การผลิตผลงานต้องอาศัยความอดทน กล้าที่จะเสนอความคิด จึงอยากให้ทางมหาวิทยาลัยทุกแห่งเปิดพื้นที่ให้นักศึกษาได้แสดงผลงานจากความรู้ ความคิด และจินตนาการของพวกเขา เพราะจะทำให้พวกเขารู้ว่าผลงานของเขามีจุดเด่น จุด้อยอย่างไรบ้าง”
ตบท้ายด้วยเจ้าของชุดสวยๆ ที่เชิญชวนน้องๆ วัยใสเข้ามาสัมผัสการเรียนเรื่องของแฟชั่น “น้องไอซ์ นายสุรศักดิ์ แย้มไฝ่ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาการออกแบบแฟชั่นและศิลปะสิ่งทอ คณะศิลปกรรมศาสตร์ กล่าวว่ารู้สึกดีใจมากที่วันนี้ผลงานของเขาได้รับความสนใจจากรุ่นน้องๆ เพราะที่ผ่านมาเมื่อเปิดหนังสือนิตยสารต่างๆ มักมีแต่เรื่องราวงานแฟชั่นของมหาวิทยาลัยอื่น ทำให้หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนว่ามทร.ธัญบุรี มีสาขาการออกแบบแฟชั่นและศิลปะสิ่งทอ งานราชมงคล RT สร้างคนสู่งาน จึงเป็นการเปิดตัวสาขาให้เป็นที่รู้จัก อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระแสแฟชั่นใหม่ ที่ตรงใจเด็กวัยรุ่นอีกด้วย
ระหว่างที่ไอซ์สเก็ตภาพแบบต่างๆ ได้มีน้องๆนักเรียนให้ความสนใจเข้าชม และสอบถามถึงการเรียนสาขาออกแบบแฟชั่นฯ ว่าเรียนยังไง เรียนยากหรือเปล่า แถมอยากให้ช่วยออกแบบแฟชั่น เสื้อผ้าที่พวกเขาต้องการอีกด้วย แม้เป็นครั้งแรกที่ได้นำผลงานการออกแบบเสื้อผ้ามาโชว์ แต่สิ่งที่ได้รับจากน้องๆ พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือชาวบ้านที่มาเที่ยวชมงาน คือการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน เพราะบางคนเห็นไอซ์ออกแบบ ก็แนะนำให้ใช้สีนั้นสีนี้ หรือให้ตกแต่งเพิ่มเติมแบบเข้าไปอีก จึงทำให้เห็นถึงการความต้องการของผู้คน ซึ่งแฟชั่น ล้วนเกิดจากค่านิยม ความต้องการของผู้คนในสมัยนั้นๆ ถือเป็นการติชมที่สามารถนำไปพัฒนาให้เกิดผลงานที่ดีขึ้น
“การออกแบบเสื้อผ้านอกจากต้องอาศัย ความคิด จินตนาการเพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดความสวยงามบนเสื้อผ้าแล้ว ยังต้องคำนึกถึงความสบายในการสวมใส่ และความรู้เรื่องสี เนื้อผ้า ลักษณะของลายที่เราจะใส่ลงในผ้า และที่สำคัญต้องดูกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น อยากให้น้องๆ ทุกคนที่สนใจเรียนสาขาออกแบบแฟชั่นฯ ต้องมีความตั้งใจจริง และพร้อมที่จะรับฟังความคิดของผู้อื่น เพราะใช่ว่าเสื้อผ้าทุกตัวที่เราออกแบบจะเป็นที่ต้องการของทุกๆ คน”
บัณฑิต ต้องมีความรู้ทั้งทางวิชาการ และปฎิบัติ แต่บางครั้งผลงานที่เกิดจากกระบวนการผลิต หากไม่ได้นำไปแสดง เผยแพร่ ย่อมไม่มีใครรู้ เพราะผลงานนักศึกษาไม่ใช่เพียงสร้างสรรค์จากจินตนาการ ความคิดเท่านั้น แต่ต้องนำไปสู่การพัฒนาเกิดเป็นสินค้า ผลิตภัณฑ์ และกระบวนการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ