10 อันดับแนวโน้มที่สำคัญประจำปี ในตลาดโทรคมนาคมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ข่าวเทคโนโลยี Friday January 22, 2010 15:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--ไอดีซี 10 อันดับแนวโน้มที่สำคัญประจำปี ในตลาดโทรคมนาคมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น ส่งผลให้ ปี 2553 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบที่สำคัญ 3 สิ่ง ที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมในอนาคต ไอดีชี เชื่อว่า อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและระบบเครือข่ายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น กำลังถูกปรับเปลี่ยนรูปร่างและถูกผลักดันด้วย “การเปลี่ยน แปลงของสามสิ่งในคราวเดียวกัน” และผลกระทบของการเปลี่ยนนี้จะได้เห็นภายในปีนี้และปีถัดไป การเกิดการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบที่สำคัญ 3 สิ่ง สามารถสรุปครอบคลุม 3 ประเด็นหลักดังนี้ อันดับแรกคือ ความต้องการที่จะลดเงินลงทุนและลดการใช้เครื่องมือต่าง ๆ สำหรับอุตสาหกรรมด้านไอซีที ซึ่งจะส่ง ผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานด้านบริการของผู้ให้บริการรายต่าง ๆ รวมถึงการใช้บริการไอซีทีด้วย อันดับสองคือ สภาพการแข่งขันทั้งตลาดระบบเครือข่าย และ ผู้ให้บริการโครงข่ายจะเปลี่ยนไป ผู้ผลิตระบบเครือข่ายจากจีน และ ผู้ประกอบการโทรคมนาคมจากอินเดียจะก้าวเข้ามามีบทบาทในตลาดโลกอย่างเป็นทาง การมากขึ้น ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้ธุรกิจต้องนำไอซีทีเข้ามาปรับใช้เพื่อทำให้ธุรกิจนั้น ๆ ทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น อีกทั้งยังสร้างความได้เปรียบให้เกิดขึ้นกับบริษัทของตนเองอีกด้วย อันดับสามคือ ความมุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพ "intelligent X" ให้เกิดขึ้น คือการพัฒนาเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นซอฟท์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ และ พัฒนาให้เกิดการใช้งานแบบเคลื่อนที่ได้ให้ครอบคลุมทั่วทุกแห่งหน “การเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบที่สำคัญ 3 สิ่ง จะเป็นแรงจูงใจสำคัญ ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ และ เกิดการปรับเปลี่ยนด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในปี 2553 และ ปีต่อไป” กล่าวโดย เอเดรียน โฮ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยด้าน บริหารจัดการโทรคมนาคม เอ้าท์ซอสส์ซิ่ง และ ระบบโครงข่าย ประจำไอดีซี เอเชียแปซิฟิก “การลงทุนในด้านไอซีทียังคงลงทุนอย่างระมัดระวังและใช้งบประมาณอย่างรอบคอบตลอด 12 เดือนข้างหน้า งบประมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างจำกัด จะถูกนำไปใช้สำหรับเทคโนโลยีที่เน้นเฉพาะด้านการปรับปรุง ซึ่งจะต้องตอบโจทย์ที่สำคัญทางธุรกิจอีกด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับแรงผลักดันจากการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบที่สำคัญ 3 สิ่ง ดังกล่าว” สำหรับภาพรวมของตลาดในปี 2553 นี้ ไอดีซีคาดว่า บริการโทรคมนาคม บริการบริหารจัดการ และ ตลาดอุปกรณ์เครือข่ายจะมีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งได้รับผลจากภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว และสภาพการดำเนินธุรกิจที่กำลังดีขึ้น ตลาดบริการโทรคมนาคมของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น คาดว่าจะมีมูลค่าราว 252 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2553 โดยมีอัตราการเติบโตที่ 6% บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการสื่อสารข้อมูลผ่านสายจะเป็นบริการที่โดดเด่นในเรื่องของอัตราการเติบโตสำหรับอุตสาหกรรมการบริการโทรคมนาคม ในขณะที่การใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์เครือข่ายในองค์กรคาดว่า จะมีอัตราการเติบโตมากกว่า 14.8% ในปี 2553 มีมูลค่าสูงถึง 12.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในเรื่องของระบบดาต้าเซ็นเตอร์ และ โครงการต่อเนื่องในการแปลงระบบให้เป็นการติดต่อสื่อสารผ่านไอพีทั้งโครงข่าย รวมถึงการขยายระบบเครือข่ายในสาขาต่าง ๆ ส่วนตลาดอุปกรณ์สำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคมคาดว่า จะมีอัตราการเติบโตที่ลดลงเล็กน้อยที่ -0.8% โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ราว 55.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ “ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ เห็นได้ชัดในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม กล่าวคือ องค์กรธุรกิจต่าง ๆ มีมุมมองด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ และ บริษัทผู้ให้บริการของเขาอย่างไร” กล่าวโดยนายเอเดรียน “ความใหม่ที่เห็นเป็นเรื่องธรรมดาจากช่วงภาวะของการฟื้นตัว ประกอบด้วย ความคาดหวังในเรื่องของการคืนทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงและรวดเร็ว การลดต้นทุนในการดำเนินงานซึ่งอาจจะหมายรวมไปถึงเงินลงทุนของตนเองที่เกือบจะไม่ใช้หรือใช้น้อยมาก และ ความคาดหวังที่ว่าผู้ให้บริการจะสามารถช่วยผลักดันให้เกิดการปรับเปลี่ยนหรือแปลงสภาพได้” “ในเวลาเดียวกัน ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต่าง ๆ กำลังจับตามองนวัตกรรมที่จะมาช่วยพัฒนาธุรกิจต่างๆ ให้พ้นผ่านภาวะเศรษฐกิจตกต่ำนี้ไปได้ ซึ่งถือเป็นจุดที่ผู้ให้บริการได้เปรียบทางการค้ามากที่สุด ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขณะนี้ นวัตกรรมเป็นสิ่งเดียวที่ไม่เคยไรค่าแม้แต่ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ” กล่าวเสริม โดยนายเอเดรียน ต่อจากนี้คือ 10 อันดับแนวโน้มด้านโทรคมนาคมที่สำคัญในปี 2553 สิ่งเหล่านี้จะแสดงถึงแนวโน้มที่สำคัญที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลกระทบที่สำคัญต่อฐานะทางการเงิน หรือ มีอิทธิพลต่อตลาดในระยะยาวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนี้ อันดับแรกในการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบที่สำคัญ 3 สิ่ง: การใช้เงินทุนให้น้อยหรือวัตถุให้น้อยสำหรับ ไอซีที 1. ตลาดบริการผ่านกลุ่มก้อนเมฆจำเป็นต้องมี “เลข 9 ห้าตัว” สำหรับสัญญาการรับประกันคุณภาพบริการและการให้บริการโทรคมนาคมผ่านเทคโนโลยีกลุ่มก้อนเมฆ ไอดีซี เชื่อว่า การรวมกันของการรับประกันแบบ “เลข 9 ห้าตัว” (99.999) บวกกับการช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างเป็นต่อเนื่อง และ ความสามารถในการฟื้นฟูจากระบบล่ม (BCDR) ที่จะส่งผ่านไปยังเครือข่ายกลุ่มก้อนเมฆที่เป็นส่วนตัว และ การให้บริการสัญญารับประกันคุณภาพของงานบริการ (SLAs) จะเป็นแอพพลิเคชั่นใหม่ที่โดนใจตลาดที่สุดสำหรับการให้บริการผ่านกลุ่มก้อนเมฆ และ จะเป็นพื้นฐานในการก้าวไปข้างหน้าสำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคมในภูมิภาคนี้ นี่คือหนึ่งในหลายปัจจัยที่กระตุ้นตลาดให้เกิดการเพิ่มการใช้บริการต่าง ๆ ผ่านกลุ่มก้อนเมฆ 2. Unified Communications รูปแบบใหม่ที่มีลักษณะเป็นผู้ให้บริการ จะเขย่าตลาดผู้ให้บริการด้านอุปกรณ์การประชุมให้เลิกนิ่งนอนใจ จากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจซบเซาทั่วโลกนั้น องค์กรธุรกิจต่าง ๆ กำลังประสบกับปัญหาปัจจุบันทันด่วนที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในเรื่องของการบริการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างน้อยนิด เครื่องมือต่าง ๆ ของ Unified Communications หรือ UC และความสามารถของมันที่ช่วยเพิ่มประสิทธภาพการทำงานของพนักงานที่กระจายอยู่ตามสาขาต่าง ๆ ระยะไกล กำลังเป็นจุดสนใจ และ มีอยู่ในแผนงานของบรรดาซีไอโอทั้งหลาย อย่างไรก็ตาม องค์กรธุรกิจที่มีเงินอยู่จำกัดพบว่า การใช้บริการ UC ที่เป็นรูปแบบ Opex นั้นมีความคล่องตัวมากกว่าภายใต้ภาวะการใช้เงินที่ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดย CFO ผู้ค้า UC กำลังหาโอกาสในการนำเสนอบริการ UC as a service (UCaaS) บริการ UC ต่าง ๆ อาทิเช่น การประชุมทางไกลผ่านเว็บไซต์พร้อมเสียง เป็นรูปแบบการนำเสนอแบบเก่าจากผู้ให้บริการประชุมทางไกลที่มีเครือข่ายของตนเองหรือจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วไป ปัจจุบันบริการประเภทนี้กำลังจะพบปัญหาเรื่องความล้าสมัย หากผู้ให้บริการไม่พัฒนาระบบให้สามารถนำเสนอบริการ UC ที่ครบวงจรได้ ผู้ให้บริการที่มีเครือข่ายเป็นของตนเองพบว่าผู้ค้า UC คือคู่แข่งที่สำคัญ ที่กำลังพยายามที่นำเสนอบริการ UCaaS อย่างครบวงจร และ ส่วนใหญ่จะเป็นหน่วยย่อยของบริการ SaaS ขนาดใหญ่ ที่ให้บริการประชุมทางไกล อีกทั้งกำลังมีผู้ให้บริการประเภทนี้เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ให้บริการประชุมทางไกลที่มีเครือข่ายของตนเองกำลังวิเคราะห์บริการของที่ตนเองมีอยู่ และ กำลังคิดหาหนทางที่จะทำให้ธุรกิจของตนเองดำเนินต่อไปได้ 3. Converged Fabric และ Evolving Datacenter ถือเป็นหัวใจสำคัญของการแปรรูป องค์ธุรกิจใด ๆ ก็ตามที่กำลังวางแผนที่จะอัพเกรดดาต้าเซ็นเตอร์ของตนเองขนานใหญ่ในปี 2553 คงยากที่จะปฏิเสธผู้ค้าที่พยายามจะนำเสนอ ผลิตภัณฑ์ Converged Fabric ผู้ค้ามีการพัฒนาการค้าของตนด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ Converged Fabric เข้าไปในเอกสารการเสนอขายโซลูชั่นดาต้าเซ็นเตอร์ในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา ไอดีซีเชื่อว่า โซลูชั่น Converged Fabric จะมุ่งเน้นไปที่การขยายโครงสร้างไอที และ จะส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายและค่าซ่อมบำรุงเป็นเงินจำนวนมาก อันดับที่สองในการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบที่สำคัญ 3 สิ่ง: การจัดอันดับใหม่ของโลก - การเปลี่ยนแปลงของสภาพการแข่งขัน 4. ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำได้เปิดโอกาสให้ผู้ค้าอุปกรณ์เครือข่ายของจีนได้พิสูจน์ตนเอง เทคโนโลยีสัญชาติมังกร Huawei และ ZTE ยังคงเติบโตอย่างเนื่องท่ามกลางภาวะธุรกิจซบเซาทั่วโลกในปี 2552 ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงกำลังหมายถึงว่าผู้ให้บริการโทรคมนาคมอยากที่จะทดลองใช้ยี่ห้ออื่น ๆ ที่เป็นตัวเลือกได้ เหตุผลดังกล่าวทำให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำต่าง ๆ รับเทคโนโลยีของผู้ค้าทั้งสองรายนี้ จากความสำเร็จในการทำตลาดต่างประเทศที่ทำให้ผู้ค้าอย่าง Ericsson และ Cisco มีรายได้อย่างงดงาม Huawei ได้ประกาศว่าตนเองได้ร่วมงานกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำจำนวน 31 รายจาก 50 รายทั่วโลก และ ZTE ก็ได้ร่วมงานกับ 30 รายจาก 100 รายทั่วโลก แท้ที่จริงแล้วช่วงภาวะเศรษณกิจขาลงนั้นมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ผู้ค้าเหล่านี้เติบโตได้ในปี 2552 การเติบโตที่ได้แสดงให้เห็นในปี 2552 สำหรับผู้ค้าสัญชาตมังกรถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีและช่วยให้เติบโตต่อไปในปี 2553 นี้ 5. ผู้ให้บริการโทรคมนาคมของอินเดียเริ่มเข้าสู่วงในของการเป็นผู้ให้บริการระดับโลก ผู้ให้บริการโทรคมนาคมสัญชาติอินเดีย ที่นำโดย Reliance Global, Tata Communications, Bharti, และ BSNL มุ่งหน้าด้วยการขยายธุรกิจสู่ภายนอกประเทศอินเดียและได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ตลาดระดับโลก ด้วยแรงสนับสนุนจากความสำเร็จระดับโลก ด้านการทำธุรกิจบริการเอ้าซอร์สซิ่ง (BPO) และความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าจากองค์ธุรกิจต่าง ๆ ในอินเดียที่ต้องการจะก้าวไปสู่ตลาดโลก ผู้ให้บริการในอินเดียจึงเพิ่มการลงทุนและสร้างพันธมิตรไปทั่วโลกเพื่อที่จะแปลงสภาพตนเองจากการเป็นผู้ให้บริการระดับประเทศไปเป็นผู้ให้บริการระดับโลก คุณลักษณะเด่นของบริการ หรือ ซอฟท์แวร์ประเภท BPO ของอินเดียจะมีบทบาทสำคัญในด้านไอซีทีและด้านการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้ องค์ประกอบที่สามของการเปลี่ยนแปลง การใช้งานคอมพิวเตอร์และโมบิลลิตี้ให้เกิดขึ้นทั่วทุกหนแห่งสำหรับชุมชน Intelligent X 6. สมาร์ทโฟนในตลาดที่เกิดใหม่ยังคงโตอย่างเนื่อง ปัจจัยหลัก ที่ผลักดันให้ตลาดสมาร์ทโฟนโตในตลาดที่เกิดใหม่นั้น คือประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เมื่อสิ้นปี 2552 อัตราการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีอัตราที่มากกว่า 50% ในประเทศจีนและ ใกล้ถึง 40% ในประเทศอินเดีย ผู้ใช้ที่ต้องการจะเปลี่ยนเครื่องคาดว่าจะมีจำนวนมากกว่า 70% ในประเทศจีนในปี 2553 เพิ่มขึ้นจาก 50% ในปี 2552 ยอดจำหน่ายอุปกรณ์ประเภทนี้คาดว่าน่าจะมีอัตราการเติบโตตามไปด้วยโดยมีอัตราการเติบโตจาก 7.5% ในปี 2551 เพิ่มขึ้นเป็น 13% ในปี 2553 7. Droid กำลังตบเท้าเข้ามา Android ได้ถูกจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 และไอดีซีคาดว่าระบบปฏิบัติการ (OS) จะเป็นตัวทำให้ยอดจำหน่ายก้าวกระโดดในปี 2553 ด้วยยอดจำหน่ายที่คาดว่าจะสูงเกินกว่า 2 ล้านเครื่อง ในปี 2556 การนำเสนอของกูเกิลทำให้คาดว่า Android จะเป็นระบบปฏิบัติการ (สำหรับโทรศัพท์เครื่องใหญ่) ที่ถูกใช้เป็นอันดับสามของภูมิภาคนี้ ด้วยยอดจำหน่ายที่สูงถึง 8 ล้านเครื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมชั้นนำในภูมิภาคนี้จะหันมาทำตลาดกับ Android สมาร์ทโฟน 8. บรอดแบนด์ผ่านมือถือเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดบริการด้านข้อมูล เมื่อจำนวนผู้ใช้บริการบรอดแบนด์จากสายเริ่มมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงหลังจากที่เข้าใกล้จุดอิ่มตัว ผู้ให้ บริการโทรคมนาคมต่าง ๆ กำลังมองไปที่การให้บริการบรอดแบนด์ผ่านมือถือเพื่อเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างรายได้ให้เติบโต บรอดแบนด์ผ่านสายนั้นผูกติดอยู่กับจำนวนของครัวเรือน ซึ่งหนึ่งครัวเรือนส่วนใหญ่แล้วจะมีการใช้บริการบรอดแบนด์เพียงแค่หนึ่งคู่สายเท่านั้นและเป็นการแบ่งปันการใช้งานร่วมกัน ในขณะที่บรอดแบนด์ผ่านมือถือนั้นผูกติดอยู่กับจำนวนผู้ใช้งานแต่ละคน ดังนั้นบริการบรอดแบนด์ผ่านมือถือจะมีตลาดที่มีขนาดใหญ่ กว่าสำหรับการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มขึ้นของความนิยมในการใช้สมาร์ทโฟน และเว็บไซต์ประเภทสังคมออนไลน์เช่น เฟสบุ๊ค หรือ ทวิตเตอร์ 9. Long Term Evolution — การสร้างชุมชม “Intelligent "X" Long Term Evolution (LTE) นั้นกำลังได้รับการสนับสนุนจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม ด้วยการที่เป็นแนวทางในการติดต่อสื่อสารผ่านไอพีทั้งหมด สำหรับผู้ให้บริการ UMTS และ EV-DO และยังเป็นก้าวถัดไปสำหรับการมุ่งไปสู่เทคโนโลยีอนาคตอย่าง IMT-2000 Advanced หรือ 4G ได้ ไอดีซี เชื่อว่า การติดตั้ง LTE ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีอยู่ในโครงข่าย 3G ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบที่เป็นปัญหาอย่างมากในเรื่องของการนำไปใช้ประโยชน์และความเชื่อถือในเรื่องของการให้แบนด์วิธ ซึ่ง LTE ควรที่จะสามารถส่งมอบบริการนั้นให้ได้ การทดสอบในเบื้องต้นนี้คาดว่าจะมีขึ้นในประเทศ ออสเตรีเลีย เกาหลี นิวซีแลนด์ ฮ่องกง จีนและสิงค์โปร์ในช่วงปี 2553-2554 LTE จะมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาเรื่องความสามารถในการให้บริการและแบนด์วิธที่มีอยู่ในปัจจุบัน 10. การสื่อสารในรูปแบบ Machine-to-Machine — เชื่อมโยงจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนี่ง ในปี 2553 เราจะเห็นคลื่นลูกแรกของการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ในลักณะของ Machine-to-Machine (M2M) ฝ่ายการตลาดและฝ่ายพัฒนาธุรกิจของผู้ให้บริการโทรคมนาคมส่วนใหญ่ร่วมกันคิดหาหนทางสร้างโอกาสทางธุรกิจจาก M2M ให้กับบริษัทของตน ไอดีซีเชื่อว่า จากจำนวนผู้ใช้ 1 พันล้านรายของผู้ใช้บริการประเภทสายและ มากกว่า 4 พันล้านรายสำหรับผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือทั่วโลกนั้น โอกาสที่เอื้ออำนวยสำหรับการทำธุรกิจ M2M นั้นจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 10:1 หรือจะมีอุปกรณ์มากกว่า 5 หมื่นล้านเครื่องที่จะถูกเชื่อมต่อกันทั่วโลกผ่านโครงข่ายผู้ให้บริการโทรคมนาคมในปี 2563 10 อันดับแนวโน้มที่สำคัญของตลาดโทรคมนาคมในภูมิภาคเอเชียโดย ไอดีซี นั้นจัดทำขึ้นจากงานวิจัยล่าสุดของไอดีซีและการระดมสมองของนักวิเคราะห์ทั่วโลกมากกว่า 1 พันคน ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวได้ถูกนำมาขยายความ ตรวจทาน และ ให้น้ำหนักในเรื่องของเหตุการณ์หลัก ๆ ที่เกิดในอุตสาหกรรม แนวโน้มของผู้ใช้งาน กลยุทธ์ของผู้ค้า และ มาตรวัดทางเศรษฐกิจ โดยนำเอาสิ่งเหล่านี้มากประกอบการวิเคราะห์เพื่อค้นหาแนวโน้มทางเทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลกระทบและเป็นแรงผลักดันให้เกิดขึ้นในตลาดโทรคมนาคมของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นในปี 2553 นี้ ท่านสามารถติดตามเรื่อง 10 อันดับแนวโน้มที่สำคัญของโลกได้อย่างต่อเนื่อง โดย ไอดีซี จะมีทีมงานในระดับภูมิภาคทำหน้าที่เผยแพร่แนวโน้มในเรื่องเฉพาะด้านต่าง ๆ ต่อจากนี้เป็นต้นไป ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.idc.com.sg/prediction-2010 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คุณศศิธร แซ่เอี้ยว ที่หมายเลข 662-651-5585 ต่อ 113 sasithorn@idc.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ