กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
หอดาราศาสตร์โรงเรียนนายเรือ ถือเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของโรงเรียนนายเรือที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน กล่าวคือ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๔ กองทัพเรือได้พิจารณาจัดหาท้องฟ้าจำลอง (PLANETARIUM) จากประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้เป็นเครื่องช่วยในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการหมุนของโลก กับการโคจรของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวฤกษ์ และดาวพระเคราะห์ ซึ่งเป็นท้องฟ้าจำลองแห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาปี ๒๕๐๐ พลเรือตรี สวัสดิ์ ภูติอนันต์ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือในขณะนั้นได้ริเริ่มให้มีการจัดสร้างหอดาราศาสตร์แห่งนี้ขึ้นโดยให้มีส่วนของท้องฟ้าจำลองและโดมกล้องตรวจดาวเป็นส่วนหนึ่งของอาคารสร้างแล้วเสร็จในปี ๒๕๐๒ ได้ใช้ประโยชน์ในการสอนนักเรียนนายเรือและให้สถาบันภายนอกเข้าเยี่ยมชมเป็นครั้งคราว
หอดาราศาสตร์แห่งนี้ได้ใช้งานเป็นเวลายาวนานจนกระทั่งอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมทั้งตัวอาคารเสื่อมสภาพจนต้องพักการใช้งานไประยะหนึ่งทำให้มีผลกระทบต่อการศึกษาของนักเรียนนายเรือ และในปี ๒๕๔๖ โรงเรียนนายเรือได้รับงบประมาณจากกองทัพเรือเพื่อปรับปรุงอาคารหอดาราศาสตร์ จัดหาท้องฟ้าจำลองและกล้องตรวจดาวมาทดแทนโดยปรับเปลี่ยนชั้นล่างของอาคารเป็นพิพิธภัณฑ์เดินเรือไว้จัดแสดงเครื่องมือเดินเรือต่าง ๆ ที่เคยใช้ในสมัยก่อน เช่น เครื่องวัดแดด เครื่องวัดระยะทาง เข็มทิศแม่เหล็กรวมทั้ง รูปภาพเรือพระที่นั่ง และเรือหลวงที่สำคัญในอดีต ชั้นถัดไปเป็นห้องท้องฟ้าจำลอง (PLAN ETARIUM) ภายในเป็นรูปครึ่งวงกลมมีเครื่องฉายดาวทั้งที่เป็นกลุ่มดาวฤกษ์ และดาวเคราะห์ฉายขึ้นไปแสดงบน ท้องฟ้าจำลองตั้งแต่เวลาพลบค่ำ จนถึงเวลากลางคืน เพื่อประกอบการศึกษาวิชา "เดินเรือดาราศาสตร์" ในส่วนชั้นบนสุดติดตั้งกล้องดูดาวที่ได้จัดหามาใหม่และบริเวณดาดฟ้ายังใช้เป็นที่ฝึกการวัดแดด นอกจากนี้ยังมี โคมไฟไว้สำหรับฝึกทัศนสัญญาณด้วย
ปัจจุบันถือได้ว่าหอดาราศาสตร์โรงเรียนนายเรือ นอกจากจะเป็นสถานที่ใช้เรียนวิชาเดินเรือ และวิชาดาราศาสตร์ของนักเรียนนายเรือแล้วยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ทหารที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรปราการ ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมอีกด้วย
(ที่มา : แผ่นพับประชาสัมพันธ์ โรงเรียนนายเรือ)