กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บิ๊กซี จับมือกลุ่มพันธมิตรหลัก 11 ประเทศทั่วโลก ส่งออกสินค้าไทย เจาะตลาดยุโรป อเมริกา และเอเชีย รวม 600 ล้านบาท มั่นใจอาหารและสิ่งทอมีศักยภาพสูงในการขยายตลาด ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการส่งออกเป็น 1,000 ล้านบาทในปีหน้า
นายอีฟ แบร์กนาร์ เบรบ๊อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้มีการส่งออกสินค้าไทยอย่างมีคุณภาพนั้น บิ๊กซี นับเป็นช่องทางหนึ่งในการขยายตลาดสินค้าไทยไปยังต่างประเทศ โดยได้ร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตร 11 ประเทศ นำโดยกลุ่มคาสิโน ประเทศฝรั่งเศส ในการส่งออก สินค้าไทยไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดยุโรปและอมริกา ซึ่งในปีที่ผ่านมา บิ๊กซีและกลุ่มพันธมิตรได้ส่งออกสินค้าไทย รวมมูลค่าทั้งสิ้น 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 600 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าประเภทอาหาร เช่น ปลาทูน่า สับปะรด ข้าว ฯลฯ ประมาณ 70% และสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร เช่น สิ่งทอ เครื่องใช้ในบ้าน ฯลฯ อีก 30%
“ไทยนับเป็นแหล่งผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ซึ่งจากการศึกษาและวิเคราะห์ถึงสินค้าแต่ละประเภทและความต้องการของในแต่ละตลาดในต่างประเทศ ทำให้กลุ่มพันธมิตรทั้ง 11 ประเทศมีความมั่นใจในการขยายตลาดสินค้าไทยในต่างประเทศ ทั้งนี้ บิ๊กซีจะช่วยเป็นช่องทางในการสนับสนุนด้านข้อมูลและการประสานงานต่างๆ ร่วมกับสำนักงานตัวแทนของคาสิโน ในประเทศไทย เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพตรงตามที่ตลาดต่างประเทศต้องการ ตลอดจนความพร้อมและความสะดวกในการจัดส่งไปยังต่างประเทศ” นายอีฟกล่าว
ทั้งนี้ สินค้าไทยจะถูกส่งออกไปยังประเทศต่างๆ รวม 11 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ทวีปยุโรป ประกอบด้วย ฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศหลักในการนำเข้าสินค้าไทย โปแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ทวีปอเมริกา ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก อาร์เจนตินา อุรุกวัย เวเนซุเอลา บราซิล และโคลัมเบีย และทวีปเอเชีย คือ ไต้หวัน
นายอีฟ กล่าวต่อไปว่า ในปีหน้ากลุ่มประเทศพันธมิตรมีเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณการนำเข้าสินค้าไทยเพิ่มขึ้นจากเดิม 600 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท โดยกลุ่มพันธมิตรจะขยายแหล่งรับซื้อสินค้า ตลอดจนประเภทสินค้าต่างๆ ให้ครอบคลุมมากขึ้นและตอบสนองความต้องการของตลาด ได้แก่ ปลาแช่แข็ง ใบชา สิ่งทอและเสื้อผ้า ซึ่งสินค้าที่กลุ่มพันธมิตรเห็นว่ามีศักยภาพสูงที่จะขยายไปสู่ระดับสากลได้มาก คือ สิ่งทอ และอาหาร ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของตลาดในขณะนี้
“กลุ่มประเทศพันธมิตรมองเห็นศักยภาพของประเทศไทยในฐานะแหล่งผลิตสินค้าสำคัญหลักของโลกหลายอย่าง การนำเข้าสินค้าไทยที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย และมีราคาถูก ไปนำเสนอแก่ลูกค้า นับเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดกลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น สำหรับบิ๊กซี เราจะเป็นช่องทางในการส่งเสริมสินค้าไทยในตลาดโลกผ่านกลุ่มพันธมิตรต่างๆ ทั้ง การแนะนำแหล่งผลิตสินค้าไทยและสินค้าไทยประเภทต่างๆ เพื่อช่วยสนับสนุนให้มีการส่งออกสินค้าไทยเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อประเทศ ตลอดจนเกษตรกรและผู้ผลิตสินค้า” นายอีฟ กล่าวในตอนท้าย
รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
วราพร สมบูรณ์วรรณะ หรือสาธิดา ศรีธัญญาธรณ์
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 0 2252 9871--จบ--