กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--ปตท.
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกปรับตัวลดลงตามการปรับลดลงของตลาดหุ้นดาวโจนส์ของสหรัฐฯ จากความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อนโยบายทางการเงินและการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับ ปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียอยู่ในระดับสูง และสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงนั้น
ในวันนี้ (26 ม.ค. 53) ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงมาอยู่ที่ 72.27 เหรียญ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซินสิงคโปร์อยู่ที่ 85.02 เหรียญ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 80.36 เหรียญ/บาร์เรล ทำให้ ปตท. สามารถประกาศข่าวดี ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิด (เว้น E85) ลงได้ทันที 40 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (27 ม.ค. 53) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ราคาเป็นดังนี้
หน่วย: บาท/ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E85 พลัส) 18.72
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พี่ทีที E20 พลัส) 29.94
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 32.24
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 31.44
น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 35.84
น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 26.39
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้น เอ็กซ์) 27.59
นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า ราคาน้ำมันยังคงผันผวน โดยปัจจัยหลักที่ผลักดันราคาน้ำมันคือปัจจัยทางจิตวิทยาของนักลงทุนที่มีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ล่าสุดบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2552 ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งมีการคาดการณ์ว่า นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะยังคงเกื้อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไปอีก ซึ่งอาจส่งผลต่อการปรับราคาน้ำมันให้สูงขึ้นได้ จึงขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้พลังงานอย่างประหยัดที่สุด
โทรศัพท์ 0-2537-2164 ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
โทรสาร 0-2537-2171 26 มกราคม 2553