กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--สตาร์ พีอาร์
เพื่อแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในระดับต้นๆ สำหรับการท่องเที่ยวในปี 2553 นี้ โดยผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการท่องเที่ยวจากสายการบินหรูชั้นนำของโลก บริติช แอร์เวย์ ได้ทำการคัดเลือกสถานที่ท่องเที่ยวท็อป เท็น สำหรับปีนี้
สถานที่จัดการแข่งขันกิจกรรมกีฬาหลักๆ อย่างเช่น การแข่งขันฟีฟ่า ฟุตบอลโลก, การแข่งขันกีฬาเครือจักรภพ (Commonwealth Games), มหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว (Winter Olympic) และพาราลิมปิกเกมส์ สถานที่เหล่านี้จะไปอยู่ในแผนการเดินทางของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ แนวโน้มการเติบโตของการท่องเที่ยวแบบเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ทำให้สต็อกโฮล์มถูกบันทึกลงในแผนที่การท่องเที่ยว ในขณะที่อิสตันบูลถูกคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางในยุโรปที่นักเที่ยวจะเดินทางไปมากที่สุด และล่าสุดได้รับการยอมรับเป็น “เมืองแห่งวัฒนธรรมยุโรป”
มร. นีล เอเกอร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย เวียดนาม และกัมพูชา ของสายการบินแควนตัส และบริติช แอร์เวย์ กล่าวว่า “ลูกค้าตระหนักว่ากำลังจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจในระดับโลกเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นซาฟารีในอินเดีย ไปจนถึงฟีฟ่า ฟุตบอลโลก ในแอฟริกาใต้ และเมืองแห่งแสงสีอย่างลาสเวกัส เราคาดว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวจากในภูมิภาคนี้ไปยังนิวยอร์ก เพราะระยะเวลาการเดินทาง, ความถี่ของเที่ยวบิน, และการบริการของเราเป็นที่พึงพอใจอย่างมาก”
ในปี 2553 การท่องเที่ยวในวันหยุดจะมีทางเลือกที่หลากหลายนอกเหนือจากจุดหมายปลายทางที่เป็นทะเลมากกว่าที่เคยเป็นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางการบริการใหม่ของเราสู่ ปุนตาคานา สาธารณรัฐโดมินิกัน, ชาร์มเอลเชค ประเทศอียิปต์ และหมู่เกาะมัลดีฟส์
บริติช แอร์เวย์ นำเสนอจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวยอดนิยม 10 อันดับแรกของปี 2553 มีดังนี้
1. เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ (Cape Town, South Africa)
เป็นที่คาดการณ์ว่า แฟนบอลกว่าครึ่งล้านชีวิตจะไปรวมตัวกันที่แอฟริกาใต้ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ และด้วยเมืองเคปทาวน์เป็นเมืองแห่งชายทะเล ภูเขาที่งดงาม ไร่องุ่นที่เลื่องชื่อ และสนามกีฬาเคปทาวน์ จะทำให้เมืองนี้เป็นที่นิยมในหมู่คนรักฟุตบอลอย่างแน่นอน
มร. ซู โบทส์ ผู้จัดการฝ่ายการพาณิชย์ประจำประเทศแอฟริกาใต้ สายการบิน บริติช แอร์เวย์ กล่าวว่า “เคปทาวน์เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมเสมอมา และเราคาดว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกจะทำให้เคปทาวน์ติดหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยือนมากที่สุดในปี 2553 เราได้ตระเตรียมกิจกรรมต่างๆ พร้อมทั้งยังมีการเพิ่มเที่ยวบิน ทั้งในส่วนของสายการบินเรา และสายการบินท้องถิ่น คอมแอร์ เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้กับบรรดาแฟนๆ ในการเดินทางภายในประเทศ”
2. อิสตันบูล ประเทศตุรกี (Istanbul, Turkey)
ในฐานะเมืองแห่งวัฒนธรรมยุโรปแห่งปี 2553 อิสตันบูลเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดสำหรับในศักราชใหม่นี้ อนึ่งด้วยความเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุ้มค่า ทั้งยังมอบความหลากหลาย ตั้งแต่ชายหาดอันสวยงาม ตลาดนัด ไปจนถึงช่องแคบบอสฟอรัสอันน่าทึ่ง นอกจากนี้ ยังมีการแสดงดนตรีสด รูฟท็อปบาร์ และคลับใต้ดิน ที่ล้วนเป็นศูนย์รวมของคนท้องถิ่นที่มีใจรักในมนต์เสน่ห์แสงสียามค่ำคืน
3. ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา (Las Vegas, USA)
ภาพยนตร์เรื่อง The Hangover ได้ปลุกความรักครั้งเก่าของเราที่มีต่อเมืองแห่งความบันเทิงระดับโลกเมืองนี้ ลาสเวกัส ไม่ได้เป็นเพียงแค่สวรรค์แห่งการปาร์ตี้เท่านั้น แต่ยังขึ้นชื่อว่า
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว และคนทุกเพศทุกวัย นับตั้งแต่คอนเสิร์ตวง U2 ไปจนถึงการแสดงกายกรรมอันเลื่องชื่อ เซิร์ค ดู โซเลล์ (Cirque de Soleil) การเปิดเส้นทางบินใหม่ของสายการบิน บริติช แอร์เวย์ เดินทางไปยังเมืองแห่งแสงสีสันและมนต์เสน่ห์ที่น่าจดจำที่สุดของสหรัฐอเมริกานี้
4. แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา (Vancouver, Canada)
หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดสำหรับคอสกีและสโนว์บอร์ด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แคนาดาจะได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวและพาราลิมปิกเกมส์ ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่จะถึงนี้
มร. โซ จิลลิงส์ นักสโนว์บอร์ดมือ 1 ของสหราชอาณาจักรที่ได้รับการสนับสนุนจาก บริติช แอร์เวย์ และคาดว่าจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนไปร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่แวนคูเวอร์ในปีนี้ กล่าวว่า “แวนคูเวอร์ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะที่สุดแก่การเล่นสโนว์บอร์ดทั้งปี และเทือกเขาไซเพรส ทางตะวันตกของแวนคูเวอร์ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ฝึกซ้อมที่ผมชื่นชอบที่สุด”
5. ปุนตาคานา สาธารณรัฐโดมินิกัน (Punta Cana, Dominican Republic)
ปุนตาคานา เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงในหมู่นักท่องเที่ยวในปีนี้ ด้วยคำยืนยันจากบริษัทท่องเที่ยวและผู้เชียวชาญในวงการที่ได้ยกให้ชายหาดที่นี่เป็น ‘ชายหาดที่สวยงามที่สุดในหมู่เกาะแคริบเบียน’ ทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องของสนามกอล์ฟและสปา ทั้งนี้ เกาะ ปุนตาคานาเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกเก็บเป็นความลับที่สุดแห่งยุค และแคป คานา (Cap Cana) ซึ่งมีความโดดเด่นของหาดที่ติดชายทะเลกว่า 5 ไมล์ ยังได้รับการขนานนามว่าเป็นจุดนัดพบที่ใหม่ของเหล่าบรรดาเศรษฐีและผู้มีชื่อเสียง
6. ดูบรอฟนิค ประเทศโครเอเชีย (Dubrovnik, Croatia)
เป็นที่รู้จักกันในนามของ ‘ไข่มุกแห่งอเดรียติก’ โครเอเชีย หยิบยื่นความเป็นส่วนตัวและความสงบ ทำให้เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการหลบหลีกความวุ่นวาย โดยผู้ที่แวะเวียนมาเที่ยวที่นี่เมื่อไม่นานมานี้ ได้แก่ เจย์ ซี และบียอนเซ่
เมอร์จาน่า โดสทาล ผู้จัดการฝ่ายการพาณิชย์ ประจำประเทศโครเอเชีย สายการบิน บริติช แอร์เวย์ กล่าวว่า “ดูบรอฟนิค เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจและร้านค้าสวยงาม ที่ล้วนมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในทุกมุมเมือง ทั้งนี้ เกาะส่วนตัวต่างๆ ยังทำให้เมืองนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโปรดของเหล่าบรรดาคนดังของฮอลลีวู้ด
7. นิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา (New York, USA)
นิวยอร์คเป็นเมืองยอดนิยมตลอดกาล และในปีนี้ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด จากการเปิดตัวภาพยนตร์ภาคต่อของสองภาพยนตร์ดัง ที่มีแมนฮัตตันเป็นตัวชูโรง ไม่ว่าจะเป็น ‘เซ็กส์ แอนด์ เดอะ ชิตี้ ภาค 2’ และ ‘วอลล์ สตรีท ภาค2’ นำแสดงโดย โอลิเวอร์ สโตน ที่กำลังจะมีขึ้นในปี 2553 นี้ ซึ่งสอดคล้องกับการบริการชั้นธุรกิจ 32 ที่นั่งใหม่ล่าสุดจากสายการบิน บริติช แอร์เวย์ จะทำให้เรามีการวางแผนเดินทางในศักราชใหม่นี้มากยิ่งขึ้น
8. สต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน (Stockholm, Sweden)
เมืองที่ได้รับการเลือกให้เป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก สต็อกโฮล์มกลายเป็นเมืองแม่แบบให้เมืองอื่นๆ ปฏิบัติตาม ในปี 2553 นี้ สต็อกโฮล์มจะเฉลิมฉลองการได้เป็น ‘เมืองหลวงสีเขียวของยุโรป’ จะทำให้เมืองศูนย์กลางของยุโรปทางด้านระบบนิเวศน์และความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตนี้ กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมของนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติ
9. หมู่เกาะมัลดีฟส์ (The Maldives)
ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย สวรรค์แห่งเขตร้อนนี้ จะขึ้นแท่นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งปี 2553 สำหรับนักท่องเที่ยวและคู่รัก ความอุดมสมบูรณ์ของปะการังทำให้หมู่เกาะนี้เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำที่ไม่มีที่ใดเทียบเท่า ในขณะที่เพียงแค่ไปรษณียบัตรรูปชายหาดอันงดงามก็สามารถมอบความสุขสุดยอดให้แก่ผู้รับได้
10. เดลลี ประเทศอินเดีย (Delhi, India)
ต้องขอบคุณกระแสการท่องเที่ยวซาฟารีที่กำลังมาแรง ในศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าบัณฑการ (Bandhavagarh Wildlife Sanctuary) และอุทยานแห่งชาติกัณหา (Kanha National Park) ที่ทำให้เดลลี กลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวในปี 2553
จูดี้ จาร์วิส ผู้จัดการฝ่ายการพาณิชย์ ประจำภูมิภาคเอเชียใต้ ของสายการบิน บริติช แอร์เวย์ กล่าวว่า “คงไม่มีเวลาใดที่จะเหมาะแก่การมาเยี่ยมเยียนอินเดียเท่ากับเวลานี้อีกแล้ว ในปีนี้จะมีการฉลองครบรอบ 80 ปี สำหรับการเปิดเส้นทางการบินของสายการบิน บริติช แอร์เวย์ สู่อินเดีย นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่เดลลีได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพ และด้วยการบริการกว่า 45 เที่ยวบิน ไปยัง 5 เส้นทาง เราได้นำเสนอบริการที่ไม่มีใครสามารถเทียบเทียมได้”
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการบินเหล่านี้ สอบถามราคาตั๋วเครื่องบินและสำรองที่นั่ง ได้ที่ www.ba.com
เกี่ยวกับสายการบินบริติช แอร์เวย์
สายการบินบริติช แอร์เวย์ มีเส้นทางการบินที่ครอบคลุมมากกว่า 150 จุดหมายปลายทางใน 75 ประเทศ เมื่อสิงหาคม พ.ศ. 2552 บริติช แอร์เวย์ เฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปี โดยสายการบินให้บริการแก่ผู้โดยสารมากกว่า 1.2 พันล้านคน ผ่านเครือข่ายเส้นทางบินที่ครอบคลุมกว้างขวาง และได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในสายการบินชั้นนำของโลก
สายการบินบริติช แอร์เวย์ เป็นหนึ่งในสายการบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลก รองรับการให้บริการแก่ผู้โดยสารประมาณ 36 ล้านคนจากทั่วโลกทุกๆ ปี โดยเปิดให้บริการที่กรุงเทพฯ มาเป็นเวลากว่า 75 ปี ปัจจุบันมีจำนวนเที่ยวบิน 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากสนามบินฮีทโธร์ว ลอนดอน สู่สนามบินสุวรรณภูมิ
การให้บริการของสายการบินบริติช แอร์เวย์อยู่ภายในอาคารผู้โดยสารเทอร์มินอล 3 และเทอร์มินอล 5 ที่สนามบินฮีทโธร์ว ลอนดอน โดยเทอร์มินอล 5 ที่หรูหรา้ล้ำ้สมัยนี้เปิดให้บริการแก่ลูกค้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์โดยเฉพาะ สามารถรองรับผู้โดยสารกว่า 30 ล้านคนต่อปี
เส้นทางการบินออสเตรเลีย ออกจากอาคารผู้โดยสารเทอร์มินอล 3 ที่ได้รับการตกแต่งใหม่อย่างหรูหรา สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม เยี่ยมชมได้ที่ www.ba.com