เครือข่ายนักศึกษา 60 สถาบัน ขานรับนโยบายรัฐบาล ป้องกันนักดื่มหน้าใหม่

ข่าวทั่วไป Thursday November 9, 2006 17:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
เครือข่ายนักศึกษา 60 สถาบัน และ ชมรมรักกันเตือนกัน จับมือ สมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาแอลกอฮอล์แห่งชาติ (สชอ.) เสนอให้ภาครัฐและเอกชน จัดระเบียบสังคมร่วมกัน เพื่อควบคุมการบริโภคสุรา และ รณรงค์ตรวจบัตรประชาชน เพื่อป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และ ร่วมมือกับ ตำรวจ ตรวจรับ ผู้ที่ละเมิดกฎหมาย ไม่ตรวจบัตร ไม่มีใบอนุญาต และ เปิดเกินเวลา
คุณสุวิทย์ กิ่งแก้ว ที่ปรึกษาอาวุโสสมาคมผู้ค้าปลีกไทย “ร้านค้าปลีกก็จะให้ความร่วมมือกับภาครัฐโดยการขอความร่วมมือกับเยาวชนในการแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หากผู้ที่ยังอายุไม่ถึง 20 ปีตามที่กำหนดก็ไม่สามารถที่จะจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ได้”
พ.ต.อ.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ ผกก.ศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี บช.น. (ศดส.) “มาตรการนักดื่มหน้าใหม่นั้น จริง ๆ แล้วต้องพูดถึงนักดื่มหน้าเก่าไว้ด้วย เพราะว่ามีบทบาทสำคัญที่จะชักจูงให้เกิดนักดื่มหน้าใหม่ สังคมของคนไทยพื้นฐานนั้น เป็นสังคมที่ชอบความสนุกสนาน การกินเหล้าก็กินได้ทุกโอกาส ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูแลเด็กและเยาวชนไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอบายมุขต่าง ๆ ศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชนและสตรี ก็มีความห่วงใยและก็ได้หาข้อตกลงและมาตรการในเรื่องกฎหมาย และขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการในการทำตามข้อตกลงก่อนที่จะนำไปสู่การใช้กฏหมายที่เคร่งครัด”
ร.ศ. ดร. จีรเดช อู่สวัสดิ์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย “ทางมหาวิทยาลัยก็มีมาตรการที่จะให้ความรู้ในเรื่องการดื่มสุรา นอกจากนั้นยังให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งกับทางเจ้าหน้าที่ในการที่จะป้องปรามและตรวจตราสถานบันเทิงที่ใกล้กับมหาวิทยาลัย รวมทั้งยังร่วมมือกับทางสถานบันเทิงในการช่วยกันตรวจตราและช่วยกันควบคุมดูแล ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายจะต้องช่วยกันอย่างเต็มที่”
พ.ต.ท.สงคราม เสงี่ยมพักตร์ กองบังคับการตำรวจจราจร “กรณีผู้ที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎจราจร ส่วนมากจะไม่ดื่มสุราเมื่อถูกเรียกตรวจก็จะให้ความร่วมมือดี แต่กรณีผู้ที่ดื่มสุราแล้วขับรถจะเกรงว่าตัวเองจะถูกลงโทษ ทั้งเสียค่าปรับที่สูง ถูกบันทึกลายนิ้วมือ และยังต้องถูกควบคุมความประพฤติเพราะเป็นโทษทางอาญาซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการเรียกมาคุยเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และเมื่อทราบก็ได้รับความร่วมมือดี ในความเป็นจริงแล้วบางครั้งก็ยังมีการฝ่าฝืนอยู่ ซึ่งในขณะนี้ก็ได้มีการเสนอมาตรการทางกฎหมาย ถ้าเกิดมีการขัดขืนการตรวจวัดแอลกอฮอล์ก็จะมีโทษทางกฎหมายอย่างแน่นอน”
นางสาวปริณายก์ ซื่อภักดี นักศึกษามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย “การห้ามหรือการควบคุมนั้นคิดว่า การควบคุมจะเป็นส่วนช่วยในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ดีที่สุด ซึ่งอย่างน้อยก็ควรที่จะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของการดื่มสุราหรือว่าพิษภัยที่เกิดขึ้นจากการดื่มสุรา เพราะฉะนั้นจึงถือว่าการควบคุมเป็นส่วนที่ดีกว่าอย่างแน่นอน”
นายสมศักดิ์ แดงบุญเรือง ผู้ประกอบการร้านอาหารย่านหอการค้าไทย “ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการและเป็นศิษย์เก่า ยินดีให้ความร่วมมือแก้ไขปัญหาร่วมกับสถาบัน ที่ผ่านมาเคยร่วมกับทางมหาวิทยาลัยจัดระเบียบ รณรงค์ไม่ให้ใส่ชุดนักศึกษามาดื่ม ถือว่าได้ผลระดับหนึ่ง นักศึกษาของ ม.หอการค้าไทย ควบคุมได้ ไม่น่าเป็นห่วง ที่เป็นห่วงคือนักศึกษาจากที่อื่นที่มาแล้วมีปัญหาทำให้เสียภาพลักษณ์”
นายบุญช่วย ทองเจริญพูลพร เลขาธิการ สชอ. “สมาชิกของสมาพันธ์ เช่น สมาคมผู้ค้าปลีกไทย จะป้องกันได้ 40 % สมาคมภัตตาคารไทยและร้านอาหาร จะป้องกันได้ 40 % ส่วนที่เหลืออีก 20% เป็นผับ บาร์ ซึ่งมีความเสี่ยงภัยสูง และ มีการละเมิดกฎหมายกันมาก ได้ขอให้ทางตำรวจ คือ ศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และ สตรี (ศดส.) ช่วยเหลือภาครัฐในการจัดระเบียบสถานบันเทิงที่ขาดความรับผิดชอบ โดยมีเครือข่ายนักศึกษาช่วยชี้เป้า”
เนื่องจากการห้ามโฆษณาไม่ได้แก้ปัญหา เพราะเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ ย้ายจากขวดเหล้ามาเป็นขวดน้ำแล้วโฆษณาได้ หรือ การยกเว้นการโฆษณาที่ติดมากับการถ่ายทอดสด ได้ทำให้การป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ทำได้ยาก จึงขอให้รัฐใช้มาตรการ 3 อย่าง คือ 1. จัดเก็บภาษีในอัตราที่เหมาะสม เพื่อป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เข้าถึงความเสี่ยงและอันตรายในราคาต่ำ 2. บังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพ ควบคุมและ ตรวจสอบ ใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ตรวจบัตรประชาชน 3. เสริมสร้างค่านิยมสังคม ส่งเสริมนักธุรกิจให้มีประมวล จริยธรรม ส่งเสริมให้นักดื่มหน้าใหม่ คิดก่อนดื่ม รู้ทันแอลกอฮอล์ เหมือนที่เราต้องสอนให้ ผู้หญิงรู้ทันผู้ชาย
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ