กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
สภากทม. จี้ผู้บริหารเร่งรัดเก็บภาษีป้ายโฆษณาและเพิ่มสาขาโรงรับจำนำ กทม. เพิ่มรายรับเข้ากทม. และควรใช้จ่ายงบประมาณในโครงการต่างๆ อย่างรอบคอบ พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญฯพิจารณาจ่ายขาดเงินสะสมกทม. 8,000 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนต่อไป
ในที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครสมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 1 (ครั้งที่ 4) ประจำปี พ.ศ. 2553 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร ในที่ประชุม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เสนอญัตติขอความเห็นชอบให้กรุงเทพมหานครจ่ายขาดเงินสะสมกรุงเทพมหานคร จำนวน 8,000 ล้านบาทเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะภารกิจที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และมิได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้ในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 หรือได้รับจัดสรรแต่ไม่เพียงพอ เนื่องด้วยกรุงเทพมหานครมีความจำเป็นต้องจ่ายรายจ่ายพิเศษจากเงินสะสมจ่ายขาดเป็นการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะภารกิจที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และมิได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้ในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 หรือได้รับการจัดสรรงบประมาณไม่เพียงพอ เช่น เงินช่วยเหลือข้าราชการและลูกจ้าง เงินสำรองสำหรับเงินเดือนและค่าจ้างที่กำหนดใหม่ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง การปรับปรุงถนน การก่อสร้างระบบระบายน้ำ ระบบขนส่งมวลชน การเช่าและการจัดหารถเก็บขนมูลฝอย รวมเป็นเงินแปดพันล้านบาท ทั้งนี้ตามนัยข้อ 10 แห่งข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง เงินสะสม พ.ศ. 2553 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับแก้ไข) พ.ศ. 2533 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พ.ศ.2538 กำหนดไว้”การจ่ายขาดเงินสะสมเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยได้รับความเห็นชอบจากสภากรุงเทพมหานคร และให้กระทำได้ในกรณีที่เป็นกิจการที่มีความจำเป็นต้องจัดทำโดยรีบด่วนหรือเป็นกิจการซึ่งบำบัดความเดือดร้อนของประชาชนโดยตรง” และวรรคสอง ”เมื่อได้รับความเห็นชอบจากสภากรุงเทพมหานคร ตามวรรคที่หนึ่งแล้ว ให้นำไปตราเป็นข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่าย โดยในการพิจารณาให้ยึดถือปฏิบัติเช่นเดียวกับงบประมาณรายจ่าย โดยพิจารณาให้ยึดถือปฏิบัติเช่นเดียวกับงบประมาณรายจ่ายประจำปี ทั้งนี้การแปรญัตติจะต้องเป็นกิจกรรมตามวรรคที่หนึ่ง”
ในที่ประชุมนายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ส.ก.เขตบางรัก กล่าวว่า การใช้จ่ายงบประมาณในสภาวะปัจจุบันควรมีความรอบคอบและคำนึงถึงสภาพการเงินที่กรุงเทพมหานครยังต้องแบกภาระใช้จ่ายในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่ยังรอการดำเนินการ ทั้งควรเพิ่มสาขาโรงรับจำนำ กรุงเทพมหานคร ให้มากขึ้นอันจะเป็นผลดีกับกรุงเทพมหานคร ด้านนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ก.เขตห้วยขวาง กล่าวว่า ปัจจุบันการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการต่างๆของกรุงเทพมหานครยังไม่มีประสิทธิภาพและยังขาดความต่อเนื่องในการติดตามผลและดำเนินงานเท่าที่ควร โดยเฉพาะการทำงานของสำนักการโยธา บางโครงการเกิดปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงานหรือวัสดุที่ใช้ไม่ได้มาตรฐานตามที่มีการกำหนดตามแบบไว้ จึงจำเป็นจะต้องใช้จ่ายงบประมาณอย่างรอบคอบในการแก้ปัญหาของประชาชนเป็นสำคัญ ทั้ง นายสุทธิชัย วีระกุลสุนทร
ส.ก.เขตจอมทอง กล่าวว่า ควรเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บภาษีป้ายโฆษณาต่างๆ เนื่องจากพบว่ายังไม่สามารถเก็บภาษีได้ตามเป้าหมายเท่าที่ควร ทั้งนี้จะเป็นประโยชน์เพื่อนำรายได้เข้าสู่กรุงเทพมหานครอีกทางหนึ่ง รวมทั้งในการดำเนินงานของผู้บริหารจะต้องพิจารณาถึงความจำเป็นก่อนหลังอีกด้วย อีกทั้งการเก็บภาษีโรงเรือน และภาษีป้ายโฆษณาต่างๆ ฯลฯ ควรให้ความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและควรเร่งหาวิธีในการจัดเก็บรายได้เพื่อนำเงินเข้าสู่กรุงเทพมหานคร
ในที่ประชุมสมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวางถึง การจัดเก็บรายได้ของกรุงเทพมหานครที่ผ่านมา ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร จำเป็นจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพเก็บรายได้เพื่อนำมาใช้จ่ายในโครงการที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ผู้บริหารกรุงเทพมหานครมีความตั้งใจและคำนึงถึงการใช้จ่ายงบประมาณในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้ในโครงการต่างๆยังรอการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่อยู่ในระหว่างรอดำเนินการอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้การจัดเก็บรายได้ในปีที่ผ่านมายังประสบปัญหาสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งในปีนี้ได้กำชับไปยังทุกหน่วยงานทำการเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้ตามเป้าหมายมากขึ้น ทั้งนี้ผู้บริหารพร้อมที่นำข้อแนะนำไปพิจารณาและกำหนดเป็นนโยบายเพื่อดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ในที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญฯ เพื่อพิจารณาก่อนได้รับความเห็นชอบจำนวน 29 คน แบ่งเป็นฝ่ายผู้บริหาร 9 คน สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร 20 คน ไม่กำหนดระยะเวลาในการพิจารณาครั้งนี้