กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--แมมมอม
"แมมมอม" น้องใหม่สื่อเมืองไทยจับมือสื่อดังเกาหลี "ASTA TV" เปิดตัวนิตยสารใหม่ภาคภาษาไทยชี้เป็นสื่อบันเทิงเกาหลีครบวงจรที่ตอนสนองแฟน "เกาหลีฟีเวอร์" อย่างครอบคลุม คาดเปิดฉบับปฐมฤกษ์ต้นปีหน้า เผยเตรียมสานต่อทั้งแลกเปลี่ยนภาพยนตร์ และจัดมอบรางวัลระดับทวีปพร้อมจัดคอนเสิร์ตในไทย
นายอภิวัติ โพธิสิทธิ์ ประธานที่ปรึกษา บริษัท แมมมอม จำกัด กล่าวว่า จากนโยบายของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อบันเทิงต่างๆ จึงได้ประสานไปทางบริษัท แอสทา ทีวี อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย จำกัด เพื่อแลกเปลี่ยนในด้านข้อมูลข่าวสารจนนำมาสู่การลงนามเซ็นสัญญาดำเนินธุรกิจร่วมกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้สนใจวงการบันเทิงเกาหลีในประเทศไทย
"การลงนามในครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นธุรกิจระหว่างสองบริษัทที่จะนำไปสู่การเริ่มต้นความบันเทิงของทั้งสองประเทศที่จะสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่องและน่าจะเป็นสิ่งที่ดีในการยกระดับในเรื่องข้อมูลข่าวสาร ของทั้งสองฝ่ายได้เป็นอย่างดี"
นายอภิวัติ กล่าวต่อไปว่าบริษัทแมมมอม จำกัด ถือเป็นน้องใหม่ในวงการสื่อของเมืองไทย ซึ่งขณะนี้มีสื่อสิ่งพิมพ์อยู่ในตลาดคือนิตยสารอัลเทอร์เนทีฟหรือแพทย์ทางเลือก และในต้นเดือนหน้าก็จะมีนิตยสารวางแผงอีก 1 เล่มขณะที่ในต้นปีนอกเหนือจากนิตยสาร "ASTA TV" แล้วยังจะมีนิตยสารกิจกรรมวัยรุ่นวางแผงอีก 1 เล่ม ขณะเดียวกันในต้นปีหน้าบริษัทฯ จะเข้าไปดำเนินการในสื่อโทรทัศน์อีกด้วย
นายบริพันธ์ ชัยภูมิ กรรมการบริหารบริษัท แมมมอม จำกัด กล่าวว่าจากประสบการณ์ในวงการสื่อโทรทัศน์ทำให้มองเห็นแนวโน้มของวงการบันเทิงเมืองไทยที่กำลังอยู่ในช่วงของเกาหลี ฟีเวอร์และจากการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน จึงเป็นที่มาของนิตยสารบันเทิงเกาหลีภาคภาษาไทย "ASTA TV" แอสทา ทีวี ซึ่งจะเป็นนิตยสารที่เจาะลึกวงการบันเทิงของเกาหลีที่แฟนบันเทิงเกาหลีต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
"เนื้อหาหนังสือนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับแวดวงบันเทิงเกาหลีครอบคลุมทุกด้าน ทั้งวงการละคร ภาพยนตร์ และวงการเพลง เปิดเผยข้อมูลและข่าวคราวศิลปินและนักแสดงที่มีชื่อเสียงและเป็นที่สนใจของแฟนๆ รวมทั้งการนำเสนอภาพและเรื่องราวเบื้องหลังละครและภาพยนตร์อย่างครอบคลุม"
นายบริพันธ์ กล่าวต่อไปว่ากลุ่มเป้าหมายของนิตยสารคือกลุ่มผู้สนใจในบันเทิงเกาหลีทั้งเพลงและภาพยนตร์ ซึ่งในขณะนี้มีอยู่เป็นจำนวนมากในประเทศไทยทั้งชายและหญิง โดยวางเป้า หมายว่าจะออกวางตลาดฉบับปฐมฤกษ์ในต้นปี 2550 ซึ่งขณะนี้ในการดำเนินการเรื่องเนื้อหาและการประสานงานระหว่างทั้งสองบริษัทได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 50%
นายบริพันธ์ กล่าวต่อไปว่าการเปิดตัวหนังสือเล่มนี้เป็นเพียงก้าวแรกของบริษัทในอนาคตอันใกล้ นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกันแล้วเรายังจะมีการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนในส่วนของภาพยนตร์เกาหลีทั้งในการนำภาพยนตร์เกาหลีเข้ามาในเมืองไทยและการนำภาภาพยนตร์ไทยไปเปิดตลาดในเกาหลี รวมทั้งการจัดกิจกรรมร่วมกันในกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจบันเทิงของเกาหลีในรูปแบบเดียวกันในประเทศญี่ปุ่น ไต้หวั่น สิงคโปร์ ฮ่องกง จีนฯ เช่น กิจกรรมการจัดประกวดรางวัลหรือมอบรางวัลให้กับศิลปินหรือภาพยนตร์ รวมไปถึงการจัดคอนเสิร์ตในประเทศต่างๆ ในอนาคต