กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง
- จัดสรรงบประมาณลงทุน 4,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการร่วมทุนแล้วและขยายการลงทุนใหม่
- พร้อมขยายการลงทุนเพิ่มกำลังผลิตติดตั้งขึ้นอีกประมาณ 800 เมกะวัตต์
บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง แถลงผลการดำเนินงานบริษัทฯ และบริษัทย่อย ประจำปี 2552 ฉบับก่อนตรวจสอบ มีกำไรสุทธิ 6,740 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2551 จำนวน 247 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.8 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 4.65 บาท
นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง เปิดเผยทิศทางการดำเนินงานในปี 2553 ว่า บริษัทยังคงมุ่งเน้นการสร้างความเติบโตทางธุรกิจเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายใต้แผนธุรกิจของบริษัทได้ให้ความสำคัญกับการลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ใน สปป. ลาว และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยจะเน้นเลือกลงทุนในโครงการที่ดำเนินกิจการแล้วเป็นลำดับแรกเพื่อสามารถรับรู้รายได้ทันที ส่วนการลงทุนในประเทศจะเน้นที่โครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็กและขนาดเล็กมาก (SPP&VSPP) รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ใช้วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลมเพราะรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมโครงการประเภทดังกล่าวอย่างจริงจัง คาดว่าบริษัทจะมีกำลังผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นจากโครงการต่าง ๆ ที่มีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในปีนี้และสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทได้ในอนาคต อีกประมาณ 800 เมกะวัตต์ จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหงสา กำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น (ร้อยละ 40) 751 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ใช้วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิงกำลังผลิตติดตั้ง 9 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 3 กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนลงทุน (ร้อยละ 25) 110 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 18 เมกะวัตต์
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2552 ยังคงรักษาการเติบโตของผลกำไรไว้ได้ตามเป้าหมาย โดยบริษัทและบริษัทฯ ย่อยมีกำไรสุทธิประจำปี 2552 รวม 6,739.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2551 จำนวน 246.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.80 เป็นผลจากการรับรู้รายได้ส่วนแบ่งกำไรสุทธิในกิจการร่วมค้า รวมทั้งสิ้น 1,720.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 84.68 คิดเป็นเงินจำนวน 789.01 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปี 2551 โดยเฉพาะส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ที่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าครบทั้งสองชุดแล้วในปีนี้ นอกจากนั้นบริษัทยังมีต้นทุนทางการเงินจากดอกเบี้ยจ่ายลดลง 432.27 ล้านบาท เพราะมีการชำระคืนเงินต้นและอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ลดลงจากความสำเร็จในการเจรจาลดอัตราดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ อย่างไรก็ตาม ในปี 2552 บริษัทมีภาระภาษีเงินได้จำนวน 830.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 613.59 ล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรี เครื่องที่ 1 และ 2 ครบกำหนดการได้รับยกเว้นภาษีเงินได้จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ นับตั้งแต่ปลายปี 2551 เป็นต้นมา
ทางด้านรายได้และต้นทุนและค่าใช้จ่ายในปี 2552 บริษัทฯและบริษัทย่อย รับรู้รายได้รวม 37,653.83 ล้านบาท นอกเหนือจากส่วนแบ่ง กำไรในกิจการร่วมค้า จำนวน 1,720.71 ล้านบาท แล้วยังมีรายได้ค่าขายไฟฟ้าและบริการ จำนวน 35,350.59 ล้านบาท รายได้ค่าบริการการจัดการจำนวน 139.67 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับจำนวน 258.45 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 184.41 ล้านบาท ส่วนต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวม 29,222.19 ล้านบาท ประกอบด้วยต้นทุนขายจำนวน 28,530.84 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบริหาร 691.35 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีดอกเบี้ยจ่าย จำนวน 861.10 ล้านบาท และภาษีเงินได้ 830.94 ล้านบาท
“เราได้เตรียมพร้อมงบลงทุนของปี 2553 ไว้ประมาณ 4,000 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงการที่บริษัทได้ร่วมทุนแล้วจำนวน 6 โครงการ และสำหรับการลงทุนโครงการใหม่ ๆ ขณะนี้มี 3 โครงการที่มีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 2 ซึ่งมีกำหนดจะกักเก็บน้ำในเดือนมีนาคมปีนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนหงสามีแนวโน้มที่จะได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ในไตรมาสแรกปีนี้ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 60 เมกะวัตต์ ซึ่งกำลังจะเริ่มก่อสร้างโครงการ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 3 ที่คาดว่าจะลงนามใน Tariff MOU กับ กฟผ. ได้ราวต้นปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถเดินหน้าพัฒนาและลงทุนโครงการพลังงานทดแทนได้เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 1 โครงการในปีนี้ ซึ่งในเร็ว ๆ นี้บริษัทมีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงร่วมทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ใช้วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง ขนาดกำลังผลิต 9 เมกะวัตต์” นายนพพล กล่าวปิดท้าย
ข้อมูลบริษัท
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2543 ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าจำหน่ายแล้วจำนวน 4 แห่ง มีกำลังผลิตติดตั้งรวม 4,347 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าราชบุรี กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (99.99%) 3,645 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (50%) 350 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (25%) 350 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้ง 3 โครงการตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรี โรงไฟฟ้าประดู่เฒ่า จังหวัดสุโขทัย กำลังผลิตติดตั้ง 2.625 เมกะวัตต์ (ประกอบด้วยกำลังผลิตติดตั้งเดิม 1.75 เมกะวัตต์ และส่วนขยายอีก 0.875 เมกะวัตต์) นอกจากนั้น ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่บริษัทได้ลงทุนและอยู่ระหว่างการพัฒนาใน สปป. ลาว จำนวน 4 โครงการ รวมกำลังผลิตติดตั้งประมาณ 1,108 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังน้ำ - น้ำงึม 2 กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (25%) 153.75 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าหงสา กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (40%) 751เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ — น้ำงึม 3 กำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (25%) ประมาณ 110 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (25%) 98 เมกะวัตต์ ด้านโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ได้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม จ.เพชรบูรณ์ มีกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้น (30%) 18 เมกะวัตต์ ดังนั้น กำลังผลิตติดตั้งจากทุกโครงการที่ดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนารวมประมาณ 5,473 เมกะวัตต์
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 บริษัทมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 69,341.82 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสินทรัพย์หมุนเวียน 19,196.40 ล้านบาท และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนจำนวน 50,145.42 ล้านบาท นอกจากนั้นพบว่าในปี 2552 บริษัทมีหนี้สินรวม 24,817.68 ล้านบาท ลดลง 3,880.22 ล้านบาท จากปี 2551 โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 44,524.14 บาท สำหรับอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ระดับ 0.56 เท่า และอัตราส่วนแสดงความสามารถในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยจ่าย (DSCR) อยู่ที่ระดับ 2.55 เท่า
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
วิวรรณ พยัฆวิเชียร หรือ ดวงแก้ว เธียรสวัสดิ์กิจ
โทร. 0 2794 9941-2 อีเมล์ : wiwanp@ratch.co.th