ดีแทครณรงค์คนไทยสงกรานต์นี้ง่วงอย่าขับผ่าน SMS ทั่วประเทศ

ข่าวทั่วไป Tuesday April 11, 2006 13:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--ดีแทค
ดีแทค ร่วมมือกับมูลนิธิรามาธิบดี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ส่ง SMS เตือนสติคนไทยลดอุบัติเหตุจราจร พร้อมแนะวิธีแก้ง่วงขณะขับรถช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์นี้ ผลสำรวจชี้หลับในขับรถเป็นอีกสาเหตุหลักของอุบัติเหตุไม่น้อยกว่าสาเหตุอื่น ๆ สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินทั้งที่หลีกเลี่ยงได้
การร่วมมือกับมูลนิธิรามาธิบดีในการส่ง SMS รณรงค์คนไทยอย่าฝืนขับรถขณะง่วงเป็นหนึ่งกิจกรรมในโครงการง่วงอย่าขับ มูลนิธิรามาธิบดี ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าที่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ก่อตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์ให้คนไทยมีความรู้ความเข้าใจว่าความง่วง ไม่ว่าจะเกิดจากการอดนอน นอนไม่พอ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานยาบางประเภท รวมถึงโรคประจำตัวที่ทำให้ง่วงผิดปกติ เป็นเหตุให้ประสิทธิภาพในการควบคุมยานพาหนะลดลง บางคนอาจเผลอหลับใน หากฝืนขับรถต่อไปจะมีโอกาสเกิดอันตรายขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่าง ๆ รวมถึงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงซึ่งมีประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางไปร่วมเทศกาลสงกรานต์ในจังหวัดต่าง ๆ กันเป็นจำนวนมาก มีทั้งกลุ่มที่ใช้บริการรถโดยสารและกลุ่มที่ขับขี่ยานพาหนะด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ โครงการง่วงอย่าขับฯ จึงต้องการแนะนำวิธีป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยเมื่อผู้ขับรถรู้ตัวว่าง่วง ขับต่อไปไม่ไหว ควรรีบจอดรถในที่ ๆ ปลอดภัย หรือตามจุดที่เจ้าหน้าที่จัดให้แวะพักข้างทาง งีบหลับสักพัก เมื่อตื่นขึ้นมาจะรู้สึกสดชื่นขึ้นและพร้อมที่จะขับรถต่อไปได้โดยไม่ง่วง ส่วนองค์กรต่าง ๆ ที่ให้บริการรถโดยสาร ไม่ควรให้จัดชั่วโมงทำงานให้กับพนักงานขับรถมากเกินไปกระทั่งมีเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะต้องรับผิดชอบความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก
โดยดีแทคจะส่งข้อความ SMS “ขับแล้วง่วงควรจอดดื่มกาแฟ หลับสักงีบเพื่อความปลอดภัยของคนสำคัญเช่นคุณ” ถึงผู้ใช้บริการดีแทคทั่วประเทศเพื่อเตือนใจให้ระวังและร่วมป้องกันอุบัติเหตุจากการจราจร
อนึ่ง สถิติจากการสำรวจอุบัติเหตุการจราจรในประเทศไทยระบุว่าในแต่ละปีอุบัติเหตุบนท้องถนนก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตถึง 14,000 คน บาดเจ็บมากกว่า 1 ล้านคน นอกจากนี้ยังทำให้มีเด็กกำพร้าเพิ่มขึ้นถึง 43,000 คน ซึ่งความเสียหายในแต่ละปีคิดเป็นมูลค่าถึง 1.2 แสนล้านบาท.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ