โกลเบล็กฯชี้ราคาทองยังเด้งรับตรุษจีน ลุ้นจีน-อเมริกาไม่ผุดมาตรการกดดันซ้ำสอง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 1, 2010 08:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น “โกลเบล็ก โฮลดิ้งฯ” เชื่อราคาทองยังมีโอกาสรีบาวด์รับเทศกาลตรุษจีน หากจีน และอเมริกาไม่ผุดมาตราการกดดันเศรษฐกิจซ้ำสอง ชี้ราคาปรับตัวลงใกล้จุดต่ำสุด คาดราคาทองคำในตลาดโลก 2 สัปดาห์นี้อยู่ที่ระดับ 1,075-1,130 เหรียญ/ออนซ์ แนะเก็งกำไรระยะสั้น แต่ให้น้ำหนักการลงทุนเพียง 20-30% ของพอร์ตการลงทุน นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด(มหาชน)หรือ GBX กล่าวว่า แม้ขณะนี้ราคาทองจะมีการปรับตัวลดลงจากปัจจัยกระแสโลกทั้งเรื่องของมาตราการของรัฐบาลจีน และอเมริกาในเรื่องของการควบคุมสถาบันการเงิน แต่จากการคาดการณ์ราคาไม่น่าจะปรับตัวลงไปต่ำกว่าจุดต่ำสุดของรอบการปรับตัวลงในปลายปีก่อนที่ 1,075 เหรียญ/ออนซ์ แต่หากปรับตัวลดลงอีกเชื่อว่าไม่น่าจะเกิน 1,050 เหรียญ/ออนซ์ ขณะที่หลังจากนั้นราคาทองคำน่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเพื่อรับเทศกาลตรุษจีน หรือ Chinese New Year Effect จากการที่ยังมีดีมานด์ในตลาดอยู่มาก ประเมินจากพอร์ตการลงทุนของ SPDR Gold Trust ที่ยังมีการถือครองทองคำทรงตัวที่ 1,111.92 ตันแม้ราคาทองคำจะปรับตัวลงต่อเนื่องตลอด 2 สัปดาห์แล้วก็ตาม โดยคาดว่าราคาทองคำในช่วง 1-2 สัปดาห์ต่อจากนี้น่าจะอยุ่ในระดับ 1,075-1,130 เหรียญ/ออนซ์ “ประเมินสถานการณ์ในช่วงสั้น ปัจจัยลบที่ทำให้ราคาทองคำในระยะนี้มีการปรับตัวลดลงนั้น มาจากมาตราการของรัฐบาลจีนในเรื่องการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ประกอบกับแผนควบคุมสถาบันการเงินของโอบามาที่ส่งผลให้นักลงทุนกังวล นอกจากนี้การประชุมเฟด และการประกาศ GDP ไตรมาส 4 ของสหรัฐฯยังทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกผันผวนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ตามแผนของจีนมาตราการคุมเข้มดังกล่าวจะหมดลงภายในสิ้นเดือนมกราคม น่าจะส่งให้มีภาพเชิงบวกมากขึ้น ขณะที่เชื่อว่าทางสหรัฐฯน่าจะมีการคงดอกเบี้ยไว้ในอัตราเดิม หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯได้รับการต่ออายุอีกหนึ่งสมัย จะเป็นข่าวดีอีกข่าวที่จะช่วยให้ตลาดโลก และตลาดทองคำฟื้นตัวขึ้นได้”นายณัฐพล กล่าว ทั้งนี้ หากประเมินในสถานการณ์ปกติที่ประเทศจีน และสหรัฐอเมริกาไม่มีมาตราการอื่นๆ เพิ่มเติมมากดดันบรรยากาศการลงทุน นักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้นได้ตามปัจจัย Chinese New Year Effect แต่ควรให้น้ำหนักการลงทุนเพียง 20-30% ของพอร์ตการลงทุนที่ตั้งใจไว้ เนื่องจากยังมีความเสี่ยงขาลงอยู่ตามปัจจัยที่กล่าวมา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ