ทุกความกังวลของผิวหน้า คลีนิกข์มีทางออก...พร้อมการดูแลอย่างถูกวิธี

ข่าวทั่วไป Tuesday February 2, 2010 10:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--คลีนิกข์ หน้าดูหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส เป็น กระ ฝ้า ทั้งริ้วรอย บางทีก็มีสิวขึ้นให้กวนใจ...คุณกำลังกังวลกับเรื่องเหล่านี้อยู่หรือเปล่า? คลีนิกข์เป็นแบรนด์เครื่องสำอางแบรนด์แรกที่มีจุดกำเนิดจากแพทย์ผิวหนังมากว่า 40 ปี และยังคงให้ความสำคัญกับการค้นคว้าวิจัยทางผิวหนังมาตลอดเวลา และเพื่อตอกย้ำถึงความสำคัญกับองค์กรแพทย์ผิวหนังทั่วโลก Clinique Laboratories Inc. จึงได้จัดตั้งโครงการ Physician Service Center ขึ้น ในประเทศไทยเป็นปีที่ 6 แล้ว “โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการสนับสนุนและเผยแพร่ข้อมูลการศึกษาค้นคว้าวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับผิวหนัง พร้อมกับร่วมสนับสนุนกิจกรรมต่าง ของวงการแพทย์ผิวหนังอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในวันนี้ รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจากสถาบันโรคผิวหนังในการร่วมจัดการบรรยายทางวิชาการ เรื่อง ‘Dermatological Solutions for Every Concerns’ ขึ้น โดยได้รับเกียรติจากแพทย์ผิวหนังของสถาบันมาบรรยายเกี่ยวกับความกังวลของผิว 4 ประการคือ สิว ริ้วรอย กระฝ้า ความหมองคล้ำ และนวัตกรรมเลเซอร์ในการรักษาปัญหาผิวพรรณ พร้อมกับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี และพร้อมกันนี้ เครื่องสำอางคลีนิกข์ได้มอบเงินสนับสนุนให้กับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาสถาบันโรคผิวหนัง เพื่อนำไปใช้ในกิจการของสถาบันฯ ในการพัฒนาบุคลากร หรือเพื่อดำเนินกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ต่างๆ ให้กับสังคม” นันทวัลย์ เหล่าสินชัย ผู้จัดการทั่วไป เครื่องสำอางคลีนิกข์ กล่าว นพ.จิโรจ สินธวานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้บอกเล่าเรื่อง ‘ผิวหมองคล้ำ’ ให้แลดูสวยสดใส ไม่หม่นหมอง ว่า- - “ปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวเกิดความหยาบกร้านและหมองคล้ำนั่นก็คือ การตกค้างของเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ / การได้รับรังสียูวีติดต่อกันเป็นเวลานาน และ พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ถูกต้อง เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การขาดโภชนาการที่ดี การดูแลผิวด้วยพฤติกรรมและผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น การคืนความสดใสให้ผิวสวยมีสุขภาพดีนั้น โดยดูแลจากข้างในโดยรับโภชนาการที่เหมาะสม เลี่ยงจากความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ทาครีมกันแดดเป็นประจำเพื่อปกป้องผิวแม้จะอยู่ในที่ร่ม การทาครีมบำรุงผิวเพื่อรักษาความชุ่มชื้นผิวไว้เป็นประจำ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ หากปฏิบัติได้เช่นนี้ก็จะเป็นเจ้าของผิวสวยสดใสได้ไม่ยาก” ‘สิว’ เป็นปัญหาที่กวนใจทั้งในกลุ่มวัยรุ่นและวัยสูงอายุ หากในกลุ่มวัยรุ่น สิวเกิดจากความผิดปกติบนรูขุมขนบนใบหน้ามีเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดสิว สำหรับผู้สูงอายุเกิดจากแสงแดด หรือการรับยาที่มีฮอร์โมนเพศชาย จะเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดสิวขึ้นได้ โดย พญ.รัศนี อัครพันธุ์ รองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง และหัวหน้ากลุ่มงานรังสีชีววิทยา บอกเล่า “ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นทำให้เกิดสิว เช่น อาหารจำพวกแป้ง หรือนม ทั้งการเครียด การนอนดึก และการใช้เครื่องสำอางคุณภาพไม่ดี โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่ใช้บนหนังศรีษะ จะทำให้เกิดสิว นอกจากนี้ความร้อน มีเหงื่อก็จะอุดตันรูขุมขนได้ พันธุกรรมก็มีส่วน การมีประจำเดือนก็มีส่วนสิวจะเห่อ ยาคุมหากมีฮอร์โมนเพศชายมากก็กระตุ้นเกิดสิวได้ การรักษาสิว มีทั้งยาทา ยารับประทาน ก็ควรจะปรึกษาแพทย์ และสำหรับวิธีการดูแลที่ดีนั้น ควรล้างหน้าเบาๆ วันละ 2-3 ครั้งพอ และใช้เครื่องสำอางให้น้อย ไม่ควรแกะ บีบสิว ฉะนั้นควรปฏิบัติตามแพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ใบหน้าก็จะสวยปราศจากสิวได้ ” เรื่องความกังวล ริ้วรอย เป็นปัญหาใหญ่ที่คนให้ความสนใจกันมาก ดร.นพ.เวสารัช เวสสโกวิท หัวหน้ากลุ่มงานพันธุศาสตร์ระดับโมเลกุล กล่าวว่า- - “อายุมากขึ้นผิวย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา ริ้วรอยเกิดตามธรรมชาติทุกคนต้องมี โดยได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างเหมาะสม ต้องแก้ให้แลดูเป็นธรรมชาติ ปัจจัยที่ทำให้เกิด คือแสงแดด ก็พยายามหลีกเลี่ยง หากออกแดดควรกลางร่ม หรือสวมหมวกปีกว้าง ทายากันแดด รับประทานผัก ผลไม้ โดยเฉพาะที่มีสีเข้ม เช่น องุ่นก็ไม่ต้องปอกเปลือก มะเขือเทศรับประทานทั้งผิว เป็นต้น และห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด จะทำให้ผิวเสื่อมก่อนวัย ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และการดื่มเครื่องดื่มหรือหาหารเสริมที่เป็นคอลลาเจนจะไม่สามารถช่วยเหลือคุณได้ เนื่องจากโมเลกุลของคอลลาเจนนี้มีขนาดใหญ่ ไม่สามารถดูดซึมจากทางเดินอาหารได้ นอกจากนี้ควรรักษาสมดุลน้ำหนักให้ดี หากผอมเกินไปจะดูโทรมก่อนวัย ยิ่งเกิดริ้วรอยง่าย แต่หากดูแลรักษาตัวเองสม่ำเสมอร่วมกับการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอยก็จะทำให้ดูสวยสดใสสมวัย” ฝ้า กระ นับเป็นปัญหาที่ส่วนใหญ่กังวลไม่น้อยเหมือนกัน ทุกคนอยากมีผิวหน้าขาวใส ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ยังไม่ตก เพราะปัจจุบันมีคนมาปรึกษาฝ้ากระกับแพทย์มากขึ้น นพ.โกวิท คัมภีรภาพ หัวหน้ากลุ่มงานโรคติดเชื้อ กล่าว “ฝ้าเกิดจากกรรมพันธุ์ ฮอร์โมน ออกแดด การรับประทานยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ การแพ้เครื่องสำอาง และการแพ้แสงแดด ป้องกันโดยทาครีมกันแดดทุกวัน ซันบล็อก UVA UVB ที่มี SPF มากกว่า 30 PA++ โดยทาอย่างน้อย 2 มก. เกลี่ยให้ทั่วหน้า กระ ไม่เป็นมะเร็ง พบในคนผิวขาว และถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แสงแดดเป็นตัวทำลายความเสื่อมของผิว รักษาและป้องกันที่ดีที่สุดคือ ครีมกันแดด จะต้องทาก่อนแต่หน้าทุกครั้ง” นวัตกรรมเลเซอร์...เพื่อปัญหาผิวพรรณ ความกังวลเรื่องผิวหน้าหมองคล้ำ กระ ฝ้า จุดด่างดำ รอยแผลเป็นหลุมสิว ผิวหน้าไม่เรียบ และรูขุมขนกว้าง คงคลายความกังวลลงได้ โดย นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ หัวหน้ากลุ่มงานศัลยศาสตร์และเลเซอร์ผิวหนัง ให้ความมั่นใจว่า “ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการแพทย์เกี่ยวกับเลเซอร์ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการประดิษฐ์เลเซอร์หลายชนิดสำหรับดูแลปัญหาผิวพรรณต่างๆ ทำให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพดีมากขึ้นอย่างชัดเจน เลเซอร์แต่ละชนิดมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาผิวพรรณแต่ละประเภทได้แตกต่างกัน ดังนั้นต้องเลือกใช้ชนิดของเลเซอร์ให้ถูกต้องเหมาะสม และหากทำเลเซอร์แล้วควรหลีกเลี่ยงแสงแดด เลเซอร์ IPL เป็นเทคโนโลยีที่ให้กำเนิดพลังงานแสงที่มีความเข้มสูง แต่ไม่ทำให้เกิดบาดแผล หลังการรักษาจึงสามารถล้างหน้า ทาครีมและใช้เครื่องสำอางได้ตามปกติ IPL จะช่วยแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ ทำให้สุขภาพผิวดี ขาวเนียนยิ่งขึ้น และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อรักษาเซลล์ผิวหน้าให้ดียิ่งขึ้น ได้แก่ Fractional Resurfacing laser ทำให้ผิวหน้าเนียน ขาว ขณะเดียวกันความร้อนที่ลงไปลึกในชั้นหนังแท้จะกระตุ้น ก่อให้เกิดการสร้างใยคอลลาเจนใหม่ๆ ที่มีคุณภาพดีขึ้นและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น จึงมีผลช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยย่นอันเนื่องมาจากวัย รอยย่นบริเวณหางตา แผลบุ๋มจากรอยแผลเป็นสิว แผลเป็นจากการผ่าตัด ตลอดจนปัญหารูขุมขนกว้างและผิวขรุขระไม่เรียบเนียนได้เป็นอย่างดี นวัตกรรมมีประสิทธิภาพ แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำแล้วได้ผลดี อาจมีผลข้างเคียง จึงต้องระมัดระวัง ดังนั้นก่อนทำการรักษาใดๆ ควรสอบถามข้อมูลให้ชัดเจน ทั้งการเตรียมตัวก่อนการรักษา การปฏิบัติตัวภายหลังการรักษา และควรเลือกทำการรักษาด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากได้รับการดูแลที่ถูกวิธี ทุกๆ ท่านจะได้มีสุขภาพผิวที่ดีและมีผิวหน้าที่ขาว เนียน ใสไปนานๆ” นาตยา เพ็ญสุริยะ ผู้จัดการอาวุโส ฝึกอบรม คลีนิกข์ แนะวิธีการแต่งหน้าเพื่อปกปิดผิวที่มีปัญหา สิว และ ฝ้ากระ ด้วยวิธีง่ายๆ ทำเองได้ดังนี้ “ปกปิดกระฝ้า ลงบำรุงให้เหมาะกับสภาพผิว ใช้กันแดด SPF มากกว่า 30 ใช้เพียงครึ่งนึงของข้อนิ้วก้อย แล้วลงรองพื้นสีบางๆ ให้เข้ากับสีผิว โดยมี Under Tone สีเหลือง ช่วยตัดความคล้ำได้ดี ผิวจะกระจ่างใส แลดูเป็นธรรมชาติ ปกปิดรอยดำใต้ตาให้แลดูสว่าง ด้วย Concealer สีสว่างกว่าผิว 1 เบอร์ และตามด้วยแป้งฝุ่นที่เข้ากับสีผิว ใช้แปรงกดแตะไปรอบๆ ตรงบริเวณที่ต้องการปกปิด แล้วใช้ปลายนิ้วกดแตะเบาๆ เกลี่ยให้เข้ากับสีผิว จากนั้นตามด้วยแป้งฝุ่น เพื่อให้ Concealer เซ็ทอยู่กับที่ จะออกมาแลดูเป็นธรรมชาติ ปกปิดสิว เตรียมผิว โดยทามอยส์เจอไรเซอร์ออยฟรี ที่ไม่ก่อให้เกิดสิว แล้วลงกันแดดออยฟรีเช่นกัน ลงรองพื้น Concealer โทนเหลือง โดยหากเป็นสิวตุ่มแดง ใช้ Concealer สีเดียวกับผิว แตะเกลี่ยให้รอบ สำหรับสิวตุ่มนูนขึ้นเยอะ ใช้ Concealer สีเข้มกว่าผิว 1 สเต็ป เพื่อลดความนูน เพิ่มความพรางตา หากเป็นสิวรอยดำใช้แบบเดียวกันกระ และสิวรอยหลุม ใช้ Pore Minicer Instant Perfector อุดหลุมสิว เกลี่ยขอบให้เรียบ แล้วใช้ Concealer สีเดียวกับสีผิว กดทับ แตะให้เนียน แล้วลงแป้งฝุ่น ที่สำคัญเวลาลงปกปิดต้องระวัง ทำอย่างเบามือ เทคนิค Power Rub Down สำหรับคนหน้ามัน เพื่อทำให้แป้งฝุ่นติดดีขึ้น พรางรูขุมขนด้วย โดยเคาะแป้งฝุ่นบนฝ่ามือ วนวอร์มรอบฝ่ามือ แล้วใช้มือกดแตะให้ทั่วแล้วปัดแป้งที่เหลือเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า เทคนิคนี้จะไม่ทำให้การแต่งหน้าดูหนา แต่ติดทนนาน เมคอัพก็ไม่เปลี่ยนสี อยู่ได้ตลอดวัน” ทุกความกังวลของผิวมีทางออก แล้วผิวของคุณล่ะพบความกระจ่างใส เนียนเรียบ สดใส อย่างมีสุขภาพดีแล้วหรือยัง และยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มดูแลผิวพรรณของคุณตั้งแต่วันนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : เครื่องสำอางคลีนิกข์ โทร. 02 624-6029 / 6031, www.clinique.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ