SECC ปลื้มผลงานโดดเด่นทั้ง Q3 และงวด 9 เดือน เหตุปรับแผนธุรกิจได้สอดคล้องความต้องการลูกค้า มั่นใจปีนี้รายได้โตเกิน20% จากปีก่อนที่ทำได้ 2,500 ลบ.

ข่าวทั่วไป Tuesday November 14, 2006 15:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส
ผลงานไตรมาส 3/49 ของ SECC สุดเจ๋ง โชว์กำไร 19.41 ลบ.ส่วนงวด 9 เดือนกำไร 108.97 ลบ.เพิ่มขึ้นช่วงเดียวกันของปีก่อนหายห่วง 50.34% และ 169.36% ระบุเป็นผลงานจากการปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ภายหลังราคาน้ำมันพุ่งและภาครัฐปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต มั่นใจปีนี้หนุนรายได้เข้าเป้าโต 20% จากปีก่อนได้แน่
นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ บมจ.เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน)(SECC) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3/2549 มีกำไรสุทธิ 19.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นไตรมาส 3/2548 ที่มีกำไรสุทธิ 12.91 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 50.34 % ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 108.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 40.45 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 169.36%
ความสำเร็จของผลประกอบการในไตรมาสนี้เป็นผลมาจาก บริษัทได้ปรับโครงสร้างทางธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างทันท่วงที หลังจากที่ภาครัฐได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาษีสรรพสามิต รถยนต์ และราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
เขากล่าวว่า ในช่วงก่อนหน้านี้ลูกค้านิยมรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ ซี.ซี.ค่อนข้างสูง อาทิ รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อเอนกประสงค์ (SUV) รถยนต์ตรวจการณ์เอนกประสงค์ (off-road) แต่หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นและโครงสร้างภาษีรถยนต์หันมาเก็บภาษีเป็นขั้นบันไดตามจำนวน ซี.ซี.ของเครื่องยนต์ จึงทำให้ลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้รถยนต์ที่มี ซี.ซี.ต่ำลงแต่ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น อาทิ กลุ่มรถยนต์นั่งเอนกประสงค์ (MPV) รถยนต์ไฮบริด ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมกับพลังงานเชื้อเพลิง ถือเป็นรถยนต์รุ่นประหยัดพลังงานซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถนำเข้ารถยนต์รุ่นใหม่มาตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ทัน จึงทำให้รายได้และกำไรเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ประกอบกับธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์นำเข้าของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างกว้างขวางมาเป็นมาเวลานานทั้งในเรื่องมาตรฐานสินค้า การให้บริการก่อนและหลังการขาย รวมทั้งศูนย์บริการที่มีมาตรฐานและทันสมัยสามารถไว้วางใจได้ และธุรกิจที่เป็นระบบมีแบบแผนแน่นอน จึงทำให้ธุรกิจจัดจำหน่ายรถยนต์นำเข้าของ SECC แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นในตลาดอย่างสิ้นเชิง ประกอบกับมีโชว์รูมกระจายอยู่ถึง 7 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้บริการได้อย่างสะดวกและมั่นใจในคุณภาพ ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคงแม้ว่าธุรกิจนี้จะมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง
ทั้งนี้ การมุ่งปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าเชื่อว่าจะช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในปีนี้รายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% เมื่อเทียบกับปี 2548 ที่มีรายได้ 2.5 พันล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ณัฐพงษ์ ใจแกล้ว
081-4010226

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ