HBIRM เผยจดทะเบียนนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรเกิดยาก ชี้ผู้ซื้อกังวลบทลงโทษ-ค่าใช้จ่ายเพิ่มและมีทางเลือกบริหารชุมชน

ข่าวอสังหา Monday February 8, 2010 10:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--พีอาร์ บูม HBIRM เผยผู้ซื้อจัดสรรรุ่นใหม่เข้าใจบทบาทนิติบุคคลบ้านจัดสรร และมีทางเลือกในการบริหารและจัดการชุมชนให้น่าอยู่ ชี้ปัจจัยหลักที่ทำให้โครงการบ้านจัดสรรจำนวนมากไม่สามารถจดทะเบียนนิติบุคคลได้ เนื่องจากกังวลบทลงโทษตามกฎหมาย ค่าใช้จ่ายเพิ่ม และไม่รวมตัวจดทะเบียนอย่างจริงจัง นายธนันทร์เอก หวานฉ่ำ อดีตนายกสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชบี อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HBIRM) องค์กรผู้ให้บริการด้านบริหารชุมชนที่มีประสบการณ์ในการบริหารหมู่บ้านจัดสรรและอาคารสูงกว่า 15 ปี เปิดเผยถึงการเข้าไปทำหน้าที่ดูแลชุมชนโครงการจัดสรรและคอนโดมิเนียมมากกว่า 100 โครงการ ว่า มีทั้งโครงการที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และโครงการที่แต่งตั้งคณะกรรมการหมู่บ้าน ในจำนวนนี้มีหลายโครงการที่ต้องการจดทะเบียนนิติบุคคลแต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีอุปสรรคและปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะการไม่รวมตัวกันอย่างจริงจังของผู้ซื้อจัดสรรเอง รวมทั้งเรื่องคะแนนเสียงจากมติของที่ประชุมใหญ่ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง นอกจากนี้แล้วยังพบว่า ผู้ซื้อบ้านจัดสรรเคยชินกับการอยู่อาศัยในโครงการที่ไม่ต้องจ่ายหรือจ่ายค่าส่วนกลางในจำนวนที่ไม่มากนัก หากจัดตั้งเป็นนิติบุคคลบ้านจัดสรรแล้วกฎหมายได้ระบุบทลงโทษกับสมาชิกที่ค้างชำระค่าสาธารณูปโภค เช่น การถูกระงับบริการต่าง ๆ หรือแม้แต่การถูกอายัดโฉนดจากกรมที่ดิน เป็นต้น นายธนันทร์เอกกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันนี้มีโครงการจัดสรรหลายแห่งที่มีอุปสรรคเรื่องการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เนื่องจากผู้จัดสรรที่ดินไม่ได้มองเรื่องข้อดีของกฎหมายดังกล่าว โดยเฉพาะโครงการที่ต้องการพัฒนาเฟสต่อเนื่อง ซึ่งอาจมีปัญหาเรื่องการใช้ระบบสาธารณูปโภคบางอย่างร่วมกัน ทั้ง ๆ ที่การจดทะเบียนนิติบุคคลบ้านจัดสรรนั้น ช่วยให้ผู้จัดสรรไม่ต้องรับภาระในการดูแลสาธารณูปโภค เนื่องจากภาระดังกล่าวจะตกเป็นของผู้ซื้อหรือนิติบุคคล อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันนี้โครงการจัดสรรใหม่ ๆ ได้ให้ความสำคัญและมองการณ์ไกลในเรื่องการบริหารและจัดการชุมชนเป็นอย่างดี แต่ปัญหาเรื่องการขาดความรู้และความเข้าใจในกฎหมายดังกล่าว ก็เป็นอุปสรรคที่สำคัญที่ทำให้นิติบุคคลบ้านจัดสรรเกิดยาก ที่ผ่านมา HBIRM ได้พยายามรณรงค์และสร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการและผู้ซื้อจัดสรร โดยใช้บุคคลกรที่มีความรู้ด้านกฎหมายดังกล่าวโดยตรง แต่ก็ไม่อาจทำได้ในวงกว้างรวมทั้งไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นองค์กรภาคเอกชน ดังนั้น รัฐบาลจะต้องเพิ่มความถี่ในการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวให้มากกว่าที่เป็นอยู่ สำหรับโอกาสในการดำเนินธุรกิจด้านบริหารชุมชนนั้น นายธนันทร์เอกให้ความเห็นว่า แม้ว่าโครงการจัดสรรมีทางเลือกมากมายในการบริหารและจัดการภายในหมู่บ้านให้เป็นชุมชนที่น่าอยู่ แต่ก็ยังมีหมู่บ้านจัดสรรจำนวนมากที่กำลังต้องการมืออาชีพด้านดังกล่าวเข้าไปช่วยทำงาน โดยเฉพาะโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จในการบริหารและจัดการกันเอง เช่น ความไม่โปร่งใสในการทำงานของคณะกรรมการ หรือแม้แต่การไม่ให้ความร่วมมือของสมาชิกในหมู่บ้าน นอกจากนี้แล้วข้อมูลจากสำนักส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กรมที่ดิน เกี่ยวกับสถิติการออกใบอนุญาตให้จัดสรรที่ดินทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2538-2552 ทั้งสิ้นจำนวน 4,333 โครงการ โดยในปี 2552 นั้นมีทั้งสิ้น 322 โครงการ รวมทั้งอาคารชุดตั้งแต่ปี 2538-2552 ทั้งสิ้น 158,684 โครงการ โดยปี 2552 จำนวน ทั้งสิ้น 25,652 โครงการ ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ดีของธุรกิจบริหารชุมชน ทั้งนี้ อดีตนายกสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า การอยู่รวมกันในชุมชนขนาดใหญ่ หากไม่มีระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะตกแต่งบ้านให้สวยงามและมีราคาแพงเท่าใดก็ตาม หากสิ่งแวดล้อมไม่ดีและไม่มีความปลอดภัยก็ไม่อาจทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุขได้ ดังนั้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันเพื่อจัดการกับสาธารณูปโภค ซึ่งในเบื้องต้นนั้นสามารถทำได้จากการตั้งคณะกรรมการหมู่บ้าน ซึ่งโครงการจัดสรรส่วนใหญ่ก็เน้นเรื่องนี้กันอยู่แล้ว แต่จะไปรอดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารและจัดการที่ทำให้สมาชิกส่วนใหญ่ไว้วางใจ มิเช่นนั้นก็อาจมีปัญหาภายหลังได้ หากต้องการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลก็จะต้องรวมตัวกันให้มีเสียงไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ซื้อที่ดินทั้งหมด แล้วยื่นจดทะเบียนกับกรมที่ดิน วิธีนี้สามารถเลือกตั้งกรรมการขึ้นมาบริหารหรือจ้างบริษัทบริหารชุมชนเข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าวก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าสมาชิกในหมู่บ้านไม่ต้องการจ่ายค่าบำรุงสาธารณูปโภค ก็โอนให้เป็นสมบัติของหน่วยงานรัฐ เช่น เทศบาล อบต. หรือทางเขตเข้ามารับผิดชอบ แต่วิธีนี้จะทำให้ชุมชนกลายเป็นของส่วนรวมไปทันที สำหรับผู้ที่ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายนิติบุคคล รวมทั้งการบริหารชุมชน สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เอชบี อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HBIRM) โทรศัพท์ 0-2204-1077-82 บริษัท เอชบี อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HBIRM) ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 ดำเนินธุรกิจด้านการบริหารทรัพย์สิน ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์กว่า 15 ปี มีจุดเด่นเรื่องระบบการบริหารที่ได้มาตรฐานสากล และเทคโนโลยีการให้บริการที่ทันสมัย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสรรค์และดูแลคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่อาศัยมีความพึงพอใจและมีคุณภาพชีวิตที่ดี เน้นนโยบายการทำงานเรื่องความรับผิดชอบและสร้างสรรค์ภายใต้หลักการ “สังคม คุณภาพ” ทำให้ที่ผ่านมามีโครงการประเภทต่าง ๆ ให้ความไว้วางใจกว่า 100โครงการ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ