กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--กรมป่าไม้
กรมป่าไม้เสนอความร่วมมือกรมศุลกากรตรวจสอบการนำเข้าไม้จากต่างประเทศป้องกันการลักลอบสวมตอเข้ามาในไทย พร้อมเอาผิดจนท.รัฐที่เกี่ยวข้องต้องถูกลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง
นายฉัตรชัย รัตโนภาส อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยต้องมีการนำเข้าไม้จากต่างประเทศประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากนโยบายปิดป่าภายในประเทศส่งผลให้ไม้ในประเทศมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ อย่างไรก็ตามปัจจุบันไทยมีการนำเข้าไม่จากประเทศต่างๆ อาทิ อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย และพม่า ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าในส่วนของประเทศพม่ามักจะประสบปัญหาในเรื่องการลักลอบสวมตอ มีการนำไม้จากไทยมาทำเป็นไม้ที่นำเข้าจากพม่า ดังนั้นเพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าของไทย กรมป่าไม้จึงได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการนำเข้าไม้โดยเฉพาะตามแนวตะเข็บชายแดน
นอกจากนี้ กรมป่าไม้จะได้ขอความร่วมมือไปยังกรมศุลกากร เพื่อเข้าไปช่วยเหลือในด้านการให้ข้อมูลการนำเข้าไม้ที่ถูกต้อง เนื่องจากกรมป่าไม้จะมีความรู้ในด้านลักษณะของไม้แต่ละประเภทที่นำเข้าว่าเป็นไม้แปรรูปหรือสิ่งประดิษฐ์ และถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยผ่านมาพบว่ามีการอำพรางไม้นำเข้าว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์เพื่อสวมตอเข้ามาในเมืองไทย ซึ่งสร้างความเสียหายให้ประเทศปีละไม่ต่ำว่า 10 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นอกจากการเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการตรวจจับแล้ว กรมป่าไม้จะเร่งเพิ่มมาตรการขั้นเด็ดขาดในด้านกฏหมายกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วย หากเจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องอาจต้องมีการลงโทษทางวินัยขั้นร้ายแรง
“เนื่องจากไทยยังต้องนำเข้าไม้จากต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ในขณะนี้เป็นการนำเข้าจากอินโดนีเซีย และลาว ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีมาตรการควบคุมที่เข้มงวดและดำเนินการตรวจสอบให้ละเอียด ทั้งนี้ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการสอมตออย่างในอดีต” อธิบดีกรมป่าไม้กล่าว--จบ--