ก.ไอซีที ระดมความเห็นการปรับแก้ “กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์”

ข่าวทั่วไป Wednesday February 10, 2010 11:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--ก.ไอซีที นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนา เรื่อง “กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ : ความจำเป็นในการปรับแก้ เพื่อตอบโจทย์ภาครัฐและภาคธุรกิจ” ว่า วัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนาในครั้งนี้เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544 และ(ฉบับที่2) พ.ศ.2551 อีกทั้งเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นในการปรับปรุงกฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายในอนาคต และนำความคิดเห็นข้อเสนอแนะต่างๆที่ได้จากการระดมความคิดเห็นไปใช้ในการปรับปรุงและยกร่างกฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มีความครอบคลุมและชัดเจนมากยิ่งขึ้นในทางปฏิบัติ ดังนั้น การสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ จึงถือว่าเป็นแนวทางสำคัญในการระดมความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่จะช่วยให้การปรับแก้กฎหมายสามารถตอบโจทย์การนำไปใช้อย่างเหมาะสม และจะเป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดอันจะนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายได้อย่างแท้จริงในทางปฏิบัติต่อไป “โดยที่ผ่านมา มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2545 เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งประธานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และมีการปรับปรุงแก้ไขอีกครั้งเพื่อให้การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในรูปของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยมีผลบังคบใช้ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 อย่างไรก็ตาม จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการทำธุรกรรมต่างๆ ที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้การบังคับใช้กฎหมายได้ประสบกับปัญหาในหลายๆ ด้านด้วยกัน เช่น ธุรกิจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนธุรกิจบริการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งยังขาดความชัดเจนเกี่ยวกับอำนาจในการทำคำสั่งทางปกครอง นอกจากนี้ ยังมีประเด็นในด้านการกำหนดรูปแบบและอำนาจหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาทบทวนรูปแบบและอำนาจหน้าที่ของสำนักงานฯ เพื่อให้การดำเนินงานของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีความคล่องตัว สามารถขับเคลื่อนภารกิจและผลักดันนโยบายและยุทธศาสตร์ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม” นายธานีรัตน์ กล่าว นายธานีรัตน์ กล่าวต่ออีกว่า กลุ่มเป้าหมายหลักที่สำคัญในการสัมมนาครั้งนี้ คือ กลุ่มผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในส่วนของภาครัฐ สำหรับประเด็นในการสัมมนาฯ ประกอบด้วย การนำเสนอสาระสำคัญของกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และประเด็นปัญหาที่ควรเสนอให้มีการแก้ไขปรับปรุง ตลอดจนการเสวนาเพื่อระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมทั้งเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาการบังคับใช้กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จากผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมฯ ร่วมกับผู้เข้าร่วมสัมมนา สำหรับการสัมมนาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาและปรับปรุงกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกระทรวงฯ ได้ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติจัดทำขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้เป็นแนวทางแก้ปัญหาในเรื่องการตีความ การบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งเพื่อเสนอแนะความจำเป็นและความเหมาะสมในการอนุวัติการตามอนุสัญญาว่าด้วยการใช้การติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ในสัญญาระหว่างประเทศ (United Nations Convention on the Use of Electronic Communications in International Contracts) ตลอดจนเสนอแนะความจำเป็นและความเหมาะสมในการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ให้สามารถรองรับพันธกรณีตามอนุสัญญาฯ ดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนทางกฎหมายและการพาณิชย์ในการทำสัญญาระหว่างประเทศด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 021416747 MICT

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ