กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าฯ
นายนิทัศน์ ภัทรโยธิน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลจะนำข้าวเข้ามาระบายผ่าน AFET โดยทยอยขายเป็นรายเดือน จะเป็นผลดีต่อตลาดข้าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากการประมูลข้าวผ่าน AFET ก่อให้เกิดการแข่งขันในการเสนอราคาค่อนข้างสูง เนื่องจาก การประมูลดังกล่าวเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการค้าข้าวทุกคน มีสิทธิในการเข้าร่วมประมูล จึงมีผู้เข้าร่วมประมูลจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเป็นผู้ส่งออก ผู้ประกอบการโรงสี ผู้ประกอบการข้าวถุง ตลอดจนผู้ค้าข้าว(หยงข้าว) รวมถึงผู้ที่ได้รับใบอนุญาตค้าข้าวอื่นๆ สามารถมีส่วนร่วมได้ ผู้เข้าร่วมประมูลจึงเสนอราคาที่แข่งขันกันมากตามความต้องการใช้ข้าวของแต่ละคน แต่ละสถานที่ตั้งของคลังสินค้า จนบางคลังมีการเสนอราคาที่เท่ากันหรือต่างกันน้อยมาก ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2552 เป็นต้นมา กระทรวงพาณิชย์ได้ประมูลข้าว เพื่อระบายผ่าน AFET ไปแล้วไม่น้อยกว่า 1 ล้านตัน และส่งมอบข้าวไปแล้วประมาณ 7 แสนตัน โดยที่ผ่านมาได้มีการประมูลข้าวสูงสุดถึง 260,000 ตันต่อครั้งการประมูล ผู้ที่ร่วมประมูลข้าวผ่าน AFET ดังกล่าวต่างพอใจในวิธีการ เนื่องจาก เป็นการทยอยขายข้าวของรัฐ โดยผู้ที่ไม่ชนะการประมูลมีโอกาสที่จะเข้าร่วมประมูลในครั้งต่อไปได้ ในขณะเดียวกัน การกำหนดราคาขายโดยอิงราคา AFET ทำให้มีการกำหนดราคาขายข้าวของรัฐโดยกลไกการซื้อขายล่วงหน้า ส่งผลให้ราคาในแต่ละช่วงเวลาสอดคล้องกับสภาวะตลาดที่แท้จริง อีกทั้งการระบายข้าวผ่าน AFET ด้วยราคาดังกล่าว ซึ่งเป็นราคาตลาด ไม่ทำให้ราคาของตลาดข้าวได้รับผลกระทบจากอุปทานที่อาจเพิ่มขึ้นจากการระบายข้าวของรัฐ ดังนั้นหากรัฐบาลจะนำข้าวจำนวน 2 ล้านตันมาระบายผ่าน AFET หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็น โบรกเกอร์ ผู้จัดการกองทุน AFET และสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า มีความพร้อมที่จะร่วมกันสนับสนุนนโยบายดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
นายนิทัศน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประมูลผ่าน AFET นี้นอกจากจะได้ประโยชน์ทางตรงในการระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลตามกลไกราคาแล้ว ยังมีผลทำให้ผู้ประกอบการที่ร่วมประมูลและหน่วยงานภาครัฐ ต่างมีความรู้ ความเข้าใจ ในกลไกการซื้อขายล่วงหน้ามากขึ้นจากประสบการณ์จริง ในการเข้ามาซื้อขายล่วงหน้า ทำให้สามารถเข้ามาใช้ AFET ป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาได้มากขึ้น โดยขณะนี้การซื้อขายล่วงหน้าใน AFET มีทั้งผู้ซื้อผู้ขาย ที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าจริง เข้ามาซื้อขายในตลาดโดยเฉลี่ยประมาณ ร้อยละ 50 ของปริมาณการซื้อขายใน AFET ทั้งหมด ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่ราคาเบี่ยงเบนไปจากสภาวะของตลาด เพียงแค่ในช่วงระยะเวลาอันสั้น ผู้ประกอบการเหล่านี้ย่อมรู้ถึงความเบี่ยงเบนดังกล่าว ก็จะเข้ามาซื้อขาย โดยอาศัยความไม่สมดุลดังกล่าวสร้างผลตอบแทน จนทำให้ราคากลับสู่ดุลยภาพอีกครั้ง
นอกจากกลไกการแข่งขันใน AFET แล้ว ผู้ซื้อผู้ขายสามารถมีความมั่นใจในกลไกของราคาในตลาด เนื่องจาก AFET และสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ต่างมีหน่วยงานที่คอยตรวจสอบ เพื่อให้การซื้อขายใน AFET มีความเป็นธรรมแก่ทุกคน” นายนิทัศน์ กล่าวในที่สุด
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณอิสราพร กิจไพฑูรย์
ฝ่ายการตลาด
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET)
โทร 0-2263-9888, 0-2251-9535
หรือ www.afet.or.th