กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--บ้านพีอาร์
ขอต้อนรับคุณเข้าสู่ เบเกอรี่เฮ้าส์ อนุบาลกุ๊กไก่ ชั้น2/3 กับโครงการ Project Approach ซึ่งเป็นการสอนให้เด็กสืบค้น หาความรู้อย่างลุ่มลึกในสิ่งที่เด็กสนใจ และเป็นการบูรณาการทุกวิชาเข้าไปอย่างแยบยล เด็กเรียนรู้โดยการได้ปฏิบัติจริง และเรียนรู้ทุกวิชาอย่างสนุกสนาน ในเทอมนี้ ห้องอนุบาล 2/3 จะเรียนรู้เรื่อง “เค้ก” จากมติเอกฉันท์ของเด็ก ๆ ด้วยคะแนนเสียงโหวต 11 เสียง ชนะเรื่องช้างที่มีเพียง 8 เสียงในการโหวตเรื่องที่อยากทำ เป็นการซึมซับประชาธิปไตยเข้าสู่ใจดวงน้อย ๆ ก่อนเริ่มต้นเรียนรู้เรื่องเค้กกันอย่างจริงจัง คุณครูได้มอบหมายให้เด็กไปหาสิ่งที่สงสัยเกี่ยวกับเค้กจากในเว็บไซต์ เพื่อมาเป็นประเด็นในการต่อยอดความรู้ ซึ่งเด็กๆ ก็ไปหากันมาอย่างมากมายและแลกเปลี่ยนความรู้เป็นบทสนทนากันในห้องเรียนอย่างน่ารัก นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นในสัปดาห์แรกเท่านั้น
สัปดาห์ต่อมาความสนุกเริ่มขึ้น เมื่อเด็กช่วยกันนำส่วนผสมในการทำเค้กและเค้กมาจากบ้าน เพื่อให้เพื่อนๆ ร่วมทำและร่วมทานกัน อาทิ ไข่ไก่ เนย น้ำตาลทราย น้ำตาลไอซิ่ง แป้งเค้ก ผงฟู หนังสือสอนการทำเค้กอย่างง่าย ๆ เมื่อมีของอยู่ตรงหน้าแล้ว คำถามก็ไหลออกมาเป็นสายน้ำ “ทำไมเค้กต้องมีเนย” และก็ได้คำตอบว่า”เนยเป็นไขมันชนิดหนึ่ง ทำด้วยนม เนยทำให้นุ่ม สีเหลืองได้มาจากเนย เนยทำให้หอม มัน เค็ม” อีกหนึ่งข้อสงสัยว่า เค้กมีส่วนผสมอะไรบ้าง ได้คำตอบมาว่า “ครีม ครับ” จากน้องปั้น “วนิลา ช็อคโกแลต ถั่ว” จากน้องเคน “ใส่แป้ง ใส่น้ำ”จากน้องคิม “ใส่คุกกี้ ใส่สตอเบอร์รี่ มีเค้กผลไม้ ใส่น้ำตาลจะได้หวาน ใส่ไข่ ใส่ผงฟู ใส่นม” จาก น้องข้าวปั้น เห็นรึยังว่าความรู้ล้วนๆ นอกจากเด็ก ๆ จะสืบค้นเรื่องเค้กด้วยตนเองแล้ว คุณครูยังเชิญอาจารย์ศันสนีย์ ทิมทอง(ครูบิ๋ม) ผู้เชี่ยวชาญอาหารนานาชาติ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต มาเป็นวิทยากรให้เด็ก ๆ ได้ซักถาม และยังสาธิตการทำเค้กช็อกโกแล็ต และการแต่งหน้าเค้กอีกด้วย ทำให้เด็ก ๆ ได้ความรู้มากมาย อาทิ นมจะทำให้ขนมฟู อร่อย เนยและไข่ จะทำให้เค้กเรานุ่ม เป็นต้น โดยน้องแมท ได้ช่วยเล่าเสริมถึงสิ่งที่ครูบิ๋มสอนไว้ดังนี้
“ครูบิ๋มมาสอนพวกเราทำขนมเค้ก ต้องอบขนม 170 องศา แล้วครูก็ใส่แป้งลงไปกับโกโก้ แล้วให้เด็ก ๆ ดู แล้วก็เอาแป้งกับโกโก้ไปใส่เครื่องตีไข่ แล้วก็ปั่นไปที่เลขเบอร์ 5 แล้วปั่นไปเรื่อย ๆ จากนั้นใส่น้ำตาลลงไป แล้วตักใส่แม่พิมพ์ ถึงจะนำไปเข้าเตาอบ พอเค้กสุกก็เอาออกมาแต่งหน้าเค้กครับ เนื้อมันจะเป็นสีดำอร่อยมาก ๆ ครับ” น้องแมทเล่าเหมือนเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์ผ่านมาสามสัปดาห์แล้ว
นอกจากนี้เด็ก ๆ ยังได้ทำการสำรวจครูและบุคลากรในโรงเรียนว่าชอบรับประทานเค้กอะไรมากที่สุด โดยเด็ก ๆ ไปสัมภาษณ์แล้วกลับมาทำ chart เปรียบเทียบร่วมกันว่าเค้กที่มีคนชอบมากที่สุด คือเค้กอะไร เด็ก ๆ ได้ช่วยกันนับและสรุปผลออกมาว่าเค้กยอดนิยมคือ เค้กช็อกโกแลต คะแนนรวมได้ 30 คะแนน เค้กสตอรเบอร์รี่ได้ 20 คะแนน เค้กส้มได้ 20 คะแนน และเค้กเนยได้ 8 คะแนน จากนั้นเด็ก ๆ ก็ช่วยกันระดมความคิดว่าจะทำเค้กช็อกโกแลตไปขาย จากนั้นก็ช่วยกันฝึกทำเค้กช็อกโกแล็ตกันหลายรอบมาก เพราะเชื่อว่าถ้าทำจนอร่อยแล้วจะได้ขายดี และก่อนที่เด็ก ๆ จะไปขายขนมเค้ก ครูได้นำสตางค์ชนิดต่าง ๆ มาให้เด็กดูและเรียนรู้ค่าของเงิน 1-10 บาท เมื่อคุณครูและบุคลากรในโรงเรียนซื้อขนมเค้กแล้วจ่ายสตางค์ เด็ก ๆ จะได้รู้จักเหรียญ 1-10 บาท และทอนสตางค์ได้ถูกต้อง นับเป็นการสอดแทรกวิชาคณิตศาสตร์ให้เด็ก ๆ โดยไม่รู้ตัว เด็กได้เรียนรู้ การชั่ง ตวง วัด การนับ รูปทรงเมื่อต้องทำการจำลอง เงินตรา บวกลบเลขอย่างง่ายๆ เมื่อต้องทอนเงิน
“เหรียญสิบมีเลข 1 กับ 0 เหรียญมันเป็นวงกลม มีสีทองตรงกลางด้วย” น้องธีร์เล่าให้ฟัง น้องเคนเสริมเรื่องเหรียญว่า “เหรียญ 10 กับ 5 กับ 1 บาท มันใหญ่ไม่เท่ากัน แต่ทุกเหรียญมีในหลวงหมดเลย”
การเรียนรู้นอกสถานที่เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับเด็กๆ ร้าน Fairy Cakes & Patisserie เป็นร้านขายขนมเค้กเล็ก ๆ ย่านซอยศาลาแดง สีลม เป็นสถานที่ ๆ คุณครูจะพาเด็กๆไปทัศนศึกษา เพื่อเรียนการทำเค้กของจริง เมื่อมาถึงร้านเค้กเจ้าของร้านคือ คุณสุจิตรา ไบเธอร์ หรือคุณบี๋ ได้เริ่มสอนเด็กทำ Cup cake โดยไม่ต้องใช้เนยแต่ใช้น้ำมันแทน และไม่ใช้เครื่องตีไข่ แต่ใช้มือตีเบา ๆ ขั้นตอนแรกคือ การผสมแป้ง และให้เด็กทุกคนลองตีแป้ง หยอดส่วนผสมใส่ถ้วยกระดาษ พาขนมไปอบในเตาอบอันใหญ่ จนถึงขั้นตอนแต่งหน้าเค้ก เด็กเห็นการเปลี่ยนแปลงของส่วนผสมเค้ก โดยการคน การใช้ความร้อน การละลาย การแข็งตัว การฟูของแป้ง ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของวิชาวิทยาศาสตร์นั่นเอง เมื่อขนมอบเสร็จแล้ว เด็กทุกคนสวมบทบาทเป็นนักศิลปะ โชว์ฝีมือแต่งหน้าเค้กกันอย่างเต็มที่ มีเลอะเทอะกันบ้างแต่ทุกคนก็ได้เรียนรู้อย่างสนุก กลับมาที่โรงเรียนก็มีเรื่องคุยกันต่ออีกมากมาย จนถึงขนาดช่วยกันแต่งเพลงและท่าเต้นเพลง เค้ก เค้ก เค้ก กันอย่างครื้นเครง และนี่คือ ผลงานเพลงที่น้อง ๆ ช่วยกันแต่ง เป็นคำสัมผัสง่าย ๆ และชัดเจนในเนื้อหา ช่วยกันร้องตามได้เลยค่ะ
เพลง เค้ก เค้ก เค้ก
เค้ก เค้ก เค้ก เค้กมันต้องมีไข่(ข้าวปั้น)
เค้ก เค้ก เค้ก เค้กต้องมีแป้ง (เคน)
เค้ก เค้ก เค้ก เค้กต้องมีน้ำตาล (ม่อน)
ทุกคนสุขสำราญ เมื่อได้กินเค้กเอย
เมื่อทุกอย่างดำเนินมาจนได้เวลาที่เด็กทุกคนได้เรียนรู้เรื่องเค้กกันอย่างเต็มอิ่ม จนสามารถเป็นวิทยากรตัวน้อยถ่ายทอดเรื่องที่ได้ศึกษา ค้นคว้าและทดลองทำจริงมาแล้ว นิทรรศการ Project Approach ของโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ จึงถูกจัดขึ้นด้วยการรวมเรื่องต่าง ๆ ของทุกห้องมาแสดงให้ผู้ปกครองได้รับรู้ รับฟังกับประสบการณ์เด็กที่เด็ดเกินคาด โดยเด็ก ๆ ได้เสนอไอเดียกับคุณครูประจำชั้นว่า จะจัดนิทรรศการเป็นร้านขายเค้ก ใช้กล่องกระดาษทำเป็นร้านเค้กเหมือนร้านแฟรี่ เค้กที่ไปทัศนศึกษามา และจะทำบัตรเชิญเป็นรูปเค้ก รวมทั้งของที่ระลึกผู้เข้าร่วมชมงานเป็นรูปเค้กที่ทำจากกระดาษพับ หลายคนอาสาจะเป็นวิทยากร บ้างอาสาสมัคทำบัตรเชิญ บางส่วนอาสาจัดห้อง
ในที่สุดห้องเรียนก็ถูกดัดแปลงเป็นห้องนิทรรศการ ตกแต่งด้วยสิ่งที่เด็กๆสร้างสรรค์กันขึ้นมาไม่ว่าจะเป็น เค้กแต่งงานจำลอง เตาอบจำลอง เค้กช็อคโกแลต จำลองและแต่งหน้าเค้กให้ดูกันสด ๆ เลย น้องเจอรี่เป็นผู้บอกสูตรเค้กให้กับผู้ปกครอง น้องเอิรธ์อธิบายต้นกำเนิดเค้กให้ฟัง น้องข้าวปั้นสาธิตการแต่งหน้าเค้กให้ได้ชมกัน ผู้ปกครองดูมีความสุขที่เห็นเด็ก ๆ ถ่ายทอดความรู้ได้ สมัยนี้ใครจะเชื่อว่าเด็กอนุบาลทำเค้กทานเองได้แล้ว แล้วในอนาคตเด็ก ๆ โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ อาจจะเติบโตไปเป็นเชฟขนมมืออาชีพก็ได้ใครจะรู้...
ความเป็นมานิทรรศการ Project Approach
เด็ก ๆ ทุกคนของโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ จะใช้เวลา 7 สัปดาห์ในการเรียนรู้โครงงาน Project Approach โดยแต่ละห้องจะตกลงเลือกเรื่องที่เด็กสนใจอยากเรียนรู้กันห้องละหนึ่งเรื่อง หลังจากนั้นเด็ก ๆ ได้เรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลายควบคู่ไปกับการเรียนรู้ตามหลักสูตรวิชาต่าง ๆ ของโรงเรียน การเรียนรู้เรื่องที่เด็ก ๆ เลือกตามแบบ Project Approach นั้น เด็ก ๆ ได้คิดและทำการสืบค้นหาข้อมูลด้วยตนเอง ทำกิจกรรมเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ สรุปข้อมูลและเผยแพร่ให้เพื่อนในห้องได้รับรู้ เพื่อพิจารณาข้อมูลและเรียนรู้ร่วมกันมาโดยตลอด เมื่อเด็ก ๆ พอใจในข้อมูลที่รวบรวมได้แล้ว เด็กและครูช่วยกันจัดนิทรรศการแสดงให้เห็นวิธีการคิด การเรียนรู้ และข้อมูลที่สืบค้นมาได้ รวมถึงรวบรวมผลงานจากกิจกรรมที่เด็ก ๆ ร่วมกันทำ เพื่อจัดแสดงถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียนห้องอื่น ผู้ปกครอง เพื่อน ๆ นักวิชาการจากต่างโรงเรียน หรือญาติ เข้าชมนิทรรศการ ดูผลงาน ความสามารถ และให้กำลังใจเด็ก ๆ ซึ่งทุกคนตั้งใจกันอย่างมากที่จะนำเสนอสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท บ้านพีอาร์ จำกัด โทร. 02 292-9383
ฝ่ายประชาสัมพันธ์โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ โทร. 081 944-1972