กระทรวงการคลังเยี่ยมชมโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์

ข่าวทั่วไป Thursday February 11, 2010 11:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--กรมสรรพสามิต วันนี้ เวลา 13.20 น. นายแพทย์ พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย ดร. อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อธิบดีกรมสรรพสามิต คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน ได้เยี่ยมชม การดำเนินงานของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ณ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายแพทย์ พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังจากเยี่ยมชมโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ว่าสินค้าสรรพสามิตประเภทน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันเป็นสินค้าที่กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บรายได้ภาษีสูงที่สุดในจำนวนสินค้าที่มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตทั้งหมดประมาณ 90,000 ล้านบาทในปี 2552 ดังนั้น จึงควรศึกษาภาพรวมของธุรกิจน้ำมันทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มของธุรกิจน้ำมัน การส่งออกน้ำมัน โดยเฉพาะระบบการควบคุมการเคลื่อนย้ายน้ำมันของกรมสรรพสามิต ทั้งนี้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีสัดส่วนการชำระภาษีสรรพสามิตสูงสุด ประมาณ 18,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.16 ของรายได้ภาษีสรรพสามิตน้ำมันทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่มีกระบวนการผลิตที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ ยังเป็นโรงกลั่นน้ำมันแห่งแรกที่สามารถกลั่นน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลได้ตามมาตรฐานยูโร 4 ซึ่งเป็นมาตรฐานเกี่ยวกับการแก้ไขและป้องกันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ดร. อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่ากรมสรรพสามิตได้พยายามบริหารการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตให้เป็นไปตามเป้าหมาย ควบคู่กับการสร้างมาตรฐานและสร้างความเป็นธรรม กล่าวคือ 1. สนับสนุนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการให้มีศักยภาพทางการแข่งขันเพิ่มขึ้น อาทิ การยกเว้นภาษีสำหรับน้ำมันที่ส่งออกนอกราชอาณาจักร ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันที่จำหน่ายให้เรือประมงในเขตต่อเนื่อง (น้ำมันเขียว) และภาษีสำหรับน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบในการผลิตในโรงอุตสาหกรรมน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมขั้นต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พื้นฐานในอุตสาหกรรมต่างๆ ของประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมภายในประเทศให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ 2. สร้างความรัดกุมในระบบควบคุมการบริหารการจัดเก็บภาษีน้ำมัน โดยกำหนดให้มี การซีล (Seal) ท่อทางรับจ่ายน้ำมันของรถขนส่งทั้งหมดก่อนการเคลื่อนย้ายน้ำมันออกจากโรงกลั่นไปยังด่านพรมแดนระหว่างประเทศ และการติดตามการเคลื่อนย้ายน้ำมันทั้งรับเข้าและจ่ายออกจากคลังน้ำมันชายฝั่งแบบ Real Time ผ่านศูนย์ปฏิบัติการน้ำมัน (Operation Room) 3. การอนุญาตให้จัดตั้งคลังก๊าซ LPG ลอยน้ำ (Floating Storage) เพื่อรองรับการนำเข้าก๊าซจากต่างประเทศในส่วนที่เกินความสามารถรองรับก๊าซนำเข้าของคลังน้ำมันบนบก โดยเรือลำเลียงที่มีการผสมผลิตภัณฑ์ Propane และ Butane เป็นก๊าซ จะต้องจดทะเบียนเป็นโรงอุตสาหกรรมตามกฎหมายสรรพสามิต ซึ่งปัจจุบัน บมจ.ปตท.ได้จดทะเบียนเรือลำเลียงเป็นโรงอุตสาหกรรม จำนวน 19 ลำ เพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงที่คลังก๊าซบนบกไม่สามารถรองรับก๊าซที่นำเข้าจากต่างประเทศได้ ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2552 กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีจากน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันได้รวม 91,058.54 ล้านบาท สูงกว่าปีงบประมาณ 2551 จำนวน 23,847.15 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.48 (ปีงบประมาณ 2551 เก็บได้ 67,211.39 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็นน้ำมันที่ผลิตในประเทศ จำนวน 89,817.50 ล้านบาท และน้ำมันที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ จำนวน 1,241.04 ล้านบาท สำหรับในปีงบประมาณ 2552 กรมสรรพสามิตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดในคดีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันได้รวม 1,096 คดี ค่าเปรียบเทียบปรับรวม 47.01 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าภาษี 7.844 ล้านบาท โดยของกลางแบ่งเป็น น้ำมันโซลเว้นท์ จำนวน 1.54 แสนลิตร คิดเป็นมูลค่าภาษี 0.55 ล้านบาท น้ำมันดีเซล จำนวน 6.91 แสนลิตร คิดเป็นมูลค่าภาษี 3.67 ล้านบาท น้ำมันเบนซิน จำนวน 4.53 แสนลิตร คิดเป็นมูลค่าภาษี 3.171 ล้านบาท และน้ำมันเตา จำนวน 1.51 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่าภาษี 0.453 ล้านบาท “จากการมาเยี่ยมชมการดำเนินธุรกิจน้ำมันของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ในครั้งนี้ ประกอบกับแนวโน้มที่ดีขึ้นของสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ กรมสรรพสามิตคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตจากน้ำมันและผลิตภัณฑ์ได้ตามเป้าหมาย คือ 149,000 ล้านบาท” อธิบดี กรมสรรพสามิตกล่าว นอกจากนี้รายได้ภาษีสรรพสามิตใน 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 (ตุลาคม 2552 — มกราคม 2553) กรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีได้รวม 134,873 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนจำนวน 60,664 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.75 (ปีก่อนเก็บได้ 74,209 ล้านบาท) ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมสรรพสามิต โทร. 02 241 4778 Website: www.excise.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ