กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--บัตรกรุงไทย
เคทีซีลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับเจซีบีเพื่อร่วมมือขยายฐานบัตรเครดิตข้ามชาติ ผงาดสู่ตลาดเอเชีย ตั้งเป้าสมาชิกบัตรโตเพิ่ม 1 ล้านใบ ภายใน 2 ปี
เคทีซี ผู้นำธุรกิจบัตรเครดิตของไทย และเจซีบี ผู้ให้บริการเครือข่ายระบบชำระเงินชั้นนำของโลก ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อร่วมมือในการออกบัตรและรับบัตรเจซีบี เน้นลูกค้าระดับพรีเมี่ยมและไลฟ์สไตล์เฉพาะกลุ่มตามสไตล์เคทีซี พร้อมอวดโฉมปลายปี 2549 นี้ มั่นใจประสิทธิภาพของระบบ และการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพของเจซีบี จะช่วยสร้างเครือข่ายและเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์เคทีซี เตรียมบุกขยายฐานสมาชิกโตเหนือคู่แข่งขัน ตั้งเป้า โตเพิ่มอีก 8 แสน - 1 ล้านใบ ภายในปี 2550
ดร.พงศธร สิริโยธิน ประธานกรรมการ "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า "การที่เคทีซีตกลงใจร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจกับเจซีบี ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นผู้ให้บริการด้านระบบที่เปี่ยมคุณภาพ และมีร้านค้าเครือข่ายอีกกว่า 13 ล้านแห่งทั่วโลก ซึ่งเมื่อผนวกเข้ากับสิทธิประโยชน์อันหลากหลายของบัตรเคทีซีที่มีอยู่เดิม จะยิ่งเป็นการเพิ่มคุณค่าของบัตรเคทีซีให้อยู่เหนือกว่าและมีความแตกต่างจากคู่แข่งขันรายอื่น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเคทีซีมีเป้าหมายที่จะเจาะตลาดกลุ่มใหม่ๆ มาโดยตลอด เราจึงคาดหวังว่าฐานสมาชิกบัตรของเราจะเติบโตขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้เคทีซีครองความเป็นผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตของไทยอย่างต่อเนื่อง"
"สำหรับความร่วมมือกับเจซีบีในการออกบัตรเครดิตที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ จะเป็นบัตรเฉพาะกลุ่มตามไลฟ์สไตล์ของผู้ถือบัตรที่มีรายได้ระดับกลางถึงสูง โดยคาดว่าภายในปี 2550 จะมีสมาชิกให้ความสนใจสมัครบัตรสูงถึง 8 แสน - 1 ล้านใบ นอกจากนี้เรายังเตรียมที่จะมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆให้กับสมาชิกบัตรในประเทศไทยเช่นเดียวกับที่เจซีบีจะเป็นผู้มอบสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ญี่ปุ่น เราจึงคาดหวังว่าจะสามารถดึงดูดผู้ถือบัตรเจซีบีกว่า 50 ล้านคนในประเทศญี่ปุ่นให้มาเที่ยวและใช้จ่ายผ่านบัตรในประเทศไทยอีกด้วย" ดร.พงศธร กล่าวเสริม
มร. ฮิโรยา โนบูฮารา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า "เจซีบีมีความยินดีที่จะได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับเคทีซี บริษัทบัตรเครดิตอันดับหนึ่งของไทย ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร ผมเชื่อว่าเคทีซีและพันธมิตรที่มีอยู่ในขณะนี้ จะช่วยส่งเสริมธุรกิจของเจซีบีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี ความร่วมมือที่เกิดขึ้นนี้จะช่วยผลักดันให้เครือข่ายของเจซีบีแผ่ขยายออกไปกว้างขึ้น เราเชื่อว่าสมาชิกบัตรเจซีบีในไทย ทั้งสมาชิกปัจจุบันและสมาชิกใหม่ จะได้รับประโยชน์และความสะดวกสบายที่ยิ่งใหญ่และเหนือกว่า"
เคทีซีเป็นองค์กรที่มีระบบการบริหารงานแบบล้ำยุค มีกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างจากคู่แข่งขันรายอื่น เน้นให้บัตรเครดิตสามารถตอบสนองผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้คอนเซปท์ "Make Sense" และยังครองความเป็นผู้นำในวงการบัตรเครดิตด้วยฐานสมาชิกบัตรมากกว่า 1.2 ล้านใบ ในขณะที่ประเทศไทยมีประชากรรวมถึง 64 ล้านคน แต่มีบัตรเครดิตในประเทศเพียง 8 ล้านใบ นั่นหมายความว่าตลาดบัตรเครดิตของไทยยังสามารถเติบโตได้อีกมาก เคทีซีมีพันธมิตรร้านค้าในเครือข่ายมากกว่า 12,000 ราย หรือคิดเป็นประมาณ 8% ของตลาดโดยรวม และในปี 2549 นี้ ร้านค้าส่วนใหญ่ของเคทีซีก็จะถูกรวมเข้ากับร้านค้าของเจซีบีในประเทศไทยด้วย
"ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย ถือเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ของ เจซีบี การทำบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือกับเคทีซีในครั้งนี้ มีความสำคัญอย่างมากต่อกลยุทธ์การดำเนินงานโดยรวมของเจซีบี เนื่องจากจำนวนสมาชิกบัตรเจซีบีในเอเชียที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นที่คาดการณ์ว่ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตร และร้านค้าที่รับบัตรเจซีบีทั่วทั้งภูมิภาคจะเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน" มร.โนบูฮารา กล่าวเพิ่มเติม
เจซีบีเริ่มเข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2532 โดยในช่วงแรกเป็นการให้บริการแก่ชาวญี่ปุ่นและผู้ถือบัตรเจซีบีอื่นๆ ที่เดินทางมายังประเทศไทย โดยร่วมมือกับธนาคารรายใหญ่ เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกรุงเทพ เจซีบีเริ่มออกบัตรในปี 2533 และพยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางด้านธุรกิจกับพันธมิตรในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องภายใต้สโลแกน "Respect Thailand" โดยมุ่งหวังที่จะครองส่วนแบ่งทางการตลาดของบัตรเครดิตไทยให้ได้ 10% ภายในปี 2553 ดังนั้นการเข้าทำบันทึกความเข้าใจกับเคทีซีเพื่อออกบัตรและรับบัตรในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
เคทีซี
ผู้นำด้านธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคที่ครบวงจร มีนโยบายการให้บริการและการบริหารอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพเทียบเท่าระดับสากล โดยเน้นความโปร่งใส มีเป้าหมายชัดเจน และเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่เดือนธันวาคม 2539 ปัจจุบันมีพนักงานรวมทั้งสิ้นกว่า 800 คน มีจำนวนบัตรเครดิตเคทีซีมากกว่า 1.2 ล้านใบ ซึ่งสมาชิกบัตรสามารถรับความสะดวกสบายจากร้านค้าที่รับบัตรจำนวนกว่า 146,000 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งการใช้บริการผ่านเครือข่ายสาขาธนาคารกรุงไทย ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศเป็นจำนวนกว่า 600 สาขา และจำนวนตู้เอทีเอ็มที่สามารถใช้ในการเบิกถอนเงินสดจากบัตรกว่า 1,000 เครื่อง นอกจากนี้ เคทีซีได้เปิดศูนย์บริการการเงินครบวงจร KTC Boutique Branch จำนวน 16 แห่ง และ Touch Point 35 แห่ง เพื่อรองรับการขยายฐานธุรกิจและบริการซึ่งครอบคลุมธุรกรรมการเงินและบริการด้านอื่นๆ อาทิ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อเจ้าของกิจการ ระบบการชำระเงินทางอิเล็คทรอนิคส์ การรับชำระค่าบริการรายเดือน และการเป็นพันธมิตรกับองค์กรธุรกิจชั้นนำต่างๆ เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์แก่สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีและผู้บริโภคทั่วไป ท่านสามารถรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ktc.co.th
เจซีบี
เจซีบีเป็นแบรนด์บัตรเครดิตระดับโลก และยังเป็นผู้ออกบัตรและรับบัตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เจซีบีเริ่มธุรกิจบัตรในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2504 และขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศในปี 2524 ปัจจุบันเจซีบีมีเครือข่ายร้านค้าถึง 13.2 ล้านรายใน 190 ประเทศและพื้นที่ใกล้เคียง มีการออกบัตรเจซีบีใน 19 ประเทศ โดยมีผู้ถือบัตรมากถึง 55.99 ล้านคน เจซีบีดำเนินกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจให้เติบโตในระดับนานาชาติ ด้วยการเข้าเป็นพันธมิตรกับธนาคารและสถาบันการเงินชั้นนำกว่า 350 ล้านแห่งทั่วโลก เพื่อให้ครอบคลุมผู้ค้าจำนวนมากและฐานสมาชิกที่กว้างกว่าเดิม เจซีบีดำเนินธุรกิจโดยยึดปรัชญา "Service from the heart" ซึ่งถือเป็นพันธสัญญาว่าบริษัทจะให้บริการที่มีคุณภาพและรวดเร็วเสมอ พร้อมๆกับการสร้างอนาคตร่วมกับลูกค้า ร้านค้าและพันธมิตร ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.jcb-global.com/english หรือ www.jcbcorporate.com/english/
ออกข่าวในนาม:
ฝ่ายสื่อสารองค์กรและธุรกิจสัมพันธ์
บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
รายละเอียดเพิ่มเติม
กัณฑรัตน์ เจิมจิตรผ่อง โทรศัพท์ 02-665-5057
สุชาดา วีระสกุลรักษ์ โทรศัพท์ 02-665-5732
โทรสาร 02-665-5046
อีเมล์ ktc_pr@ktc.co.th--จบ--