กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
การแข่งขันฟุตบอลประเพณีชิงโล่พระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯครั้งที่43ระหว่าง มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน โดยในครั้งนี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 13กุมภาพันธ์2553ณ สนามกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา เริ่มจาก ในช่วงเวลา 10.00 น. ของวันที่ 13กุมภาพันธ์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาได้มีพิธีปล่อยขบวนพาเหรด ณ บริเวณหน้าอาคารเฉลิม พระเกียรติ ประธานในพิธี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เศาวนิต เศาณานนท์ ได้ กล่าวให้โอวาทว่า การที่ทั้งสอง มหาวิทยาลัยได้รับพระมหา กรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรด กระหม่อมพระราชทานโล่รางวัล มาเป็นมิ่งมหามงคลนั้น เป็นความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติยศอย่างสูง ควรที่เราทุกคนจะน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ด้วยการดำเนินการจัดการแข่งขันฟุตบอลประเพณีด้วยความสมัครสมานสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีน้ำใจเป็นนักกีฬาทั้งผู้จัด ผู้แข่งขัน และผู้ชม เพื่อให้การแข่งขันฟุตบอลประเพณีดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและสมศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอให้้นักกีฬา กองเชียร์ และนักศึกษาที่ร่วมขบวนพาเหรดทุกคนทำหน้าที่เป็นตัวแทน ของมหาวิทยาลัยรักษากฎกติกามารยาทและมีความอดทน แสดง สปิริตของนักกีฬา เพื่อนำชัยชนะให้เป็นเกียรติภูมิแก่มหาวิทยาลัยพร้อมกันนี้อธิการบดีได้มอบพวงมาลัยให้แก่ทีมนักกีฬาแล้วมอบธง มหาวิทยาลัยให้แก่นายกองค์การนักศึกษา จากนั้นเมื่อเวลา 11.30 น. ขบวนพาเหรดจึงเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ไปรวมกับขบวนพาเหรดของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เพื่อตรงสู่ตัวเมืองโคราชให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมชื่นชมโล่พระราชทานฯ และริ้วขบวนอันสวยงามที่สร้างสรรค์ ขึ้นด้วยมันสมองและสองมือของ นักศึกษาทั้งสองสถาบัน พร้อมด้วย การบรรเลงเพลงนำขบวน จาก วงโยธวาธิตโรงเรียนโชคชัยสามัคคี และโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย แล้ว ขบวนจึงเคลื่อนเข้ามายังสนามกีฬา เทศบาลนครนครราชสีมา
ต่อมาในเวลา 14.30 น. รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน รองศาสตราจารย์ ดร.วินิจ โชติสว่าง ประธานในพิธีเดินทางมาถึง กองเชียร์ทั้งสองสถาบันได้ ร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา และเพลงภูมิแผ่นดิน เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ต่อจากนั้นทั้งสองสถาบันร้องเพลงประจำ สถาบันของอีกฝ่าย โดยทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ร้องเพลงมาร์ชมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาก่อน แล้วต่อด้วย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร้องเพลงมาร์ชมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เพื่อสร้างความรักความสามัคคีให้เกิดแก่ ทั้งสองสถาบัน ต่อด้วยการแสดงจากเชียร์ลีดเดอร์ของทางมหาวิทยาลัย ราชภัฏนครราชสีมา และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เมื่อการแสดงของเชียร์ลีดเดอร์จบลง จึงเริ่มเข้าสู่พิธีอัญเชิญ โล่พระราชทานฯ ขึ้นสู่แท่นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ โดย อาจารย์ผู้อัญเชิญโล่พระราชทานฯ ฝ่ายชายจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน คือ รองศาสตราจารย์สมสิน วางขุนทด ส่วนฝ่ายหญิงจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมทรง อัศวกุล จากนั้นประธานในพิธีได้เปิดการแข่งขันด้วยการตีฆ้องและปล่อยผ้าแพร
เวลา 15.00 น. ได้มีการปล่อยตัวนักกีฬาเข้าสู่สนามแข่งขัน โดยนักกีฬาทั้งสองฝ่ายต่างได้นำดอกกุหลาบมามอบให้แก่กันและกัน ซึ่งเป็นการแสดงความรักความมีน้ำใจต่อกัน และเมื่อการแข่งขันได้เริ่มขึ้น ทั้งสองทีมปะทะแข้งได้อย่างถึงใจคนดู ด้วยลีลาการเตะที่พร้อมด้วย ทักษะและความชำนาญในการแข่งขัน แต่ในช่วงเวลาครึ่งหลังเพียง ไม่กี่นาทีนักเตะจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เตะเข้า ประตูนำไปก่อน 1: 0 ทีมนักเตะจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา รุกอย่างหนักจนเกือบได้ประตูหลายครั้ง แต่ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสานสกัดได้ตลอด หมดเวลาการ แข่งขันจึงทำให้มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลอีสานชนะมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาไปด้วย คะแนน 1: 0 จึงทำให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานได้ครองโล่ พระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการแข่งขันฟุตบอล ประเพณี ครั้งที่ 43 การแข่งขันฟุตบอลประเพณีชิงโล่พระราชทานพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ ในครั้งนี้เป็นประเพณีและเป็นการสร้างความรัก สานความสามัคคีของพี่น้องสองราช "ราชภัฏ-ราชมงคล" ครั้งที่ 43 จึงจบลงด้วยดีเช่นเคย แล้วพบกันใหม่ในปีหน้ากับการแข่งขันฟุตบอล ประเพณีชิงโล่พระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ครั้งที่ 44 โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาเป็นเจ้าภาพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 044-254000 nrrupr@gmail.com