กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--ธนาคารนครหลวงไทย
ธนาคารนครหลวงไทยรุกสินเชื่อบ้านต่อเนื่องเสนอโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก เริ่มต้นที่ 1.75% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน ระยะเวลากู้นาน 30 ปี พร้อมมอบส่วนลดดอกเบี้ยอีก 0.25% สำหรับลูกค้าที่กู้สินเชื่อเคหะพร้อมทำประกันชีวิตที่คุ้มครองวงเงินกู้ทั้งจำนวน เล็งปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่ม 2-3 หมื่นล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาคทั่วประเทศ
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารเสนอโปรโมชั่น “สินเชื่อบ้านธนาคารนครหลวงไทย” (SCIB Home Loan) แก่ลูกค้ารายย่อยที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับบ้านใหม่ในโครงการที่ธนาคารร่วมสนับสนุน ดอกเบี้ยพิเศษ 2 ทางเลือก ได้แก่ ทางเลือกที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก ปีที่ 1 เท่ากับ 1.75% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 5.00% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ลบ 1.00% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ทางเลือกที่ 2 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว 2 ปีแรก คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 3.00% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี ระยะเวลาการกู้สูงสุด 30 ปี สามารถเลือกรับเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2553
พร้อมกันนี้ ธนาคารยังมอบส่วนลดดอกเบี้ยในปีแรกลงอีก 0.25% จากทุกเงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่กู้สินเชื่อเคหะพร้อมทำประกันชีวิตที่คุ้มครองวงเงินกู้ เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าสินเชื่อรายย่อยอย่างต่อเนื่องตามแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ 3 ปีของธนาคารระหว่างปี 2551-2553 รวมทั้งเพื่อรองรับกับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นจากที่ภาวะเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นซึ่งจะส่งผลในเชิงบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ
นายอภิชาติ อรรฆย์ฐากูร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อเคหะ กล่าวว่า ในปี 2553 ธนาคารตั้งเป้าที่จะปล่อยสินเชื่อเคหะใหม่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับปีก่อนนี้ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางทั้งที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมทั้งมีแผนที่จะขยายฐานสินเชื่อเคหะไปยังกลุ่มลูกค้าผู้กู้รายย่อยและผู้ประกอบการกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคตามจังหวัดใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนบริการทางการเงินแบบครบวงจรอย่างต่อเนื่อง และการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการจัดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในรูปแบบสวัสดิการเพื่อพนักงานและลูกจ้างประจำขององค์กรภาครัฐและเอกชนอีกด้วย
“สำหรับแนวโน้มการจัดรูปแบบแพคเกจหรือเงื่อนไขการเสนอสินเชื่อในส่วนของสถาบันการเงินน่าจะมีความท้าทายเพิ่มมากขึ้นที่จะต้องบริหารจัดการเรื่องต้นทุนทางการเงินให้เหมาะสมกับภาวะตลาดแต่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้กู้ให้ได้ โดยคาดว่าการเสนออัตราดอกเบี้ยประเภทคงที่และมีระยะเวลาคงที่ตั้งแต่ 1-3 ปี จะเป็นรูปแบบที่เห็นมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางกับดอกเบี้ยที่มีการวิเคราะห์ว่าน่าจะมีแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลังและเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่ผู้กู้มักจะใช้เป็นเกณฑ์ตัดสินใจเลือกรูปแบบสินเชื่อในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยปรับขึ้น” นายอภิชาติ กล่าว