กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--โตโยต้า มอเตอร์
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม 2553 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 49,560 คัน เพิ่มขึ้น 54.5% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 20,721 คัน เพิ่มขึ้น 53.2% รถเพื่อการพาณิชย์ 28,839 คัน เพิ่มขึ้น 55.4% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 24,648 คัน เพิ่มขึ้น 53.5%
ประเด็นสำคัญ
1.) ตลาดรถยนต์เดือนมกราคมมีปริมาณการขาย 49,560 คัน เพิ่มขึ้น 54.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี อย่างไรก็ดีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นมาสูงมากนั้นเกิดจากภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์การเงินในสหรัฐอเมริกาเมื่อครึ่งปีหลังของปี2008 เริ่มเห็นสัญญาณของการคลายตัวและดีขึ้นเป็นลำดับ โดยรถยนต์นั่งเติบโต 53.2% รถเพื่อการพาณิชย์เติบโต 55.4% โดยเฉพาะรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้ เติบโตถึง 53.5% ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก ภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่มีสัญญาณฟื้นตัวจาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำ สินค้าทางการเกษตรที่มีราคาดีขึ้น การฟื้นตัวของการส่งออก รวมถึงการแนะนำสินค้าใหม่และกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่งผลให้งานมอเตอร์เอ็กซ์โปในช่วงปลายปีที่ผ่านมามียอดจองสูงที่สุดและเริ่มทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อระบบเศรษฐกิจ ตลอดจนตลาดรถยนต์
2.) ตลาดรถยนต์ในเดือน กุมภาพันธ์ คาดว่าปริมาณการขายยังคงดีอย่างต่อเนื่อง จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมกราคมที่สูงถึง 71.9 สูงสุดในรอบ 21 เดือน การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มาตรการต่อเนื่องต่างๆของภาครัฐที่มุ่งกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดรถยนต์ ประกอบกับข้อมูลสถิติการขายที่เดือนกุมภาพันธ์จะมียอดขายเป็นอันดับ 2 ของไตรมาสแรก แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ภายในประเทศช่วงปลายเดือนอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคและภาคการลงทุน สำหรับกรณีเรียกรถกลับมาตรวจสอบแก้ไขในต่างประเทศนั้น คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์เมืองไทยมากนัก เนื่องจากผู้ผลิตแต่ละค่ายได้ออกมาให้รายละเอียดและอธิบายแก่ลูกค้าอย่างเข้าใจ ประกอบกับมาตรฐานการผลิต ที่มีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เชื่อว่าสามารถสร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภคได้ในที่สุด
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม 2553
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 49,560 คัน เพิ่มขึ้น 54.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 20,289 คัน เพิ่มขึ้น 50.8% ส่วนแบ่งตลาด 40.9% ส่วนต่าง — คัน
อันดับที่ 2 อีซูซุ 10,168 คัน เพิ่มขึ้น 42.7% ส่วนแบ่งตลาด 20.5% ส่วนต่าง 10,121 คัน
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 7,701 คัน เพิ่มขึ้น 45.2% ส่วนแบ่งตลาด 15.5% ส่วนต่าง 12,588 คัน
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 20,721 คัน เพิ่มขึ้น 53.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,665 คัน เพิ่มขึ้น 28.5% ส่วนแบ่งตลาด 49.8% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 7,059 คัน เพิ่มขึ้น 42.2% ส่วนแบ่งตลาด 34.1% ส่วนต่าง 1,606 คัน
อันดับที่ 3 มาสด้า 1,583 คัน เพิ่มขึ้น 447.8% ส่วนแบ่งตลาด 7.6% ส่วนต่าง 7,082 คัน
3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 24,648 คัน เพิ่มขึ้น 53.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 10,442 คัน เพิ่มขึ้น 73.3% ส่วนแบ่งตลาด 42.4% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 อีซูซุ 9,472 คัน เพิ่มขึ้น 41.3% ส่วนแบ่งตลาด 38.4% ส่วนต่าง 970 คัน
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,644 คัน เพิ่มขึ้น 73.2% ส่วนแบ่งตลาด 6.7% ส่วนต่าง 8,798 คัน
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 2,371 คัน
โตโยต้า 1,142 คัน — มิตซูบิชิ 741 คัน - อีซูซุ 428 คัน — ฟอร์ด 60 คัน
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 22,277 คัน เพิ่มขึ้น 53.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,300 คัน เพิ่มขึ้น 79.8% ส่วนแบ่งตลาด 41.7% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 อีซูซุ 9,044 คัน เพิ่มขึ้น 40.4% ส่วนแบ่งตลาด 40.6% ส่วนต่าง 256 คัน
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,642 คัน เพิ่มขึ้น 36.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.43% ส่วนต่าง 7,658 คัน
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 28,839 คัน เพิ่มขึ้น 55.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,624 คัน เพิ่มขึ้น 73.2% ส่วนแบ่งตลาด 40.3% ส่วนต่าง - คัน
อันดับที่ 2 อีซูซุ 10,168 คัน เพิ่มขึ้น 42.7% ส่วนแบ่งตลาด 35.3% ส่วนต่าง 1,456 คัน
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,655 คัน เพิ่มขึ้น 32.3% ส่วนแบ่งตลาด 5.7% ส่วนต่าง 9,969 คัน