กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยให้ทราบหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามความเห็นที่ประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ที่มีรองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) เป็นประธานคณะกรรมการ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกรณ์ จาติกวณิช) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์) เป็นกรรมการ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 ได้มีมติให้กำหนดมาตรการเร่งรัดหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (วงเงิน 199,960 ล้านบาท) เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับระยะเวลาตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ที่กำหนดให้กระทรวงการคลังกู้เงินได้ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ดังนี้
1. กรณีหน่วยงานยังไม่ได้เสนอขอจัดสรร ให้เร่งดำเนินการจัดส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553
2. กรณีหน่วยงานได้รับการจัดสรรเงินแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงนามในสัญญา ให้เร่งดำเนินการ ลงนามในสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2553
หากไม่สามารถดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดตามข้อ 1 และ 2 ให้ยุติโครงการเพื่อสามารถนำเงินจากโครงการดังกล่าว ไปให้โครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการมากกว่า แต่ไม่ได้รับอนุมัติ (ยกเว้น กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 ให้ขยายเวลาการยื่นคำขอจัดสรรต่อสำนักงบประมาณต่อไปก่อน)
3. เพื่อให้สามารถติดตามและรายงานผลโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการบันทึกข้อมูลแผนงาน งวดงาน และงวดเงินตามระบบ Projects Financial Monitoring System (PFMS) ที่กระทรวงการคลังกำหนดทุกโครงการ ภายหลังจากได้รับจัดสรรเงินแล้ว และ/หรือลงนามในสัญญาแล้ว ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังใช้ข้อมูลการรายงานจากระบบ PFMS เป็นข้อมูลการพิจารณาความก้าวหน้าของโครงการ หากไม่มีการบันทึกข้อมูลถือว่าโครงการดังกล่าวยังไม่มีการดำเนินงาน และให้ยุติโครงการ เพื่อสามารถนำเงินจากโครงการดังกล่าว ไปให้โครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการมากกว่าแต่ไม่ได้รับอนุมัติต่อไป
สำหรับการเบิกจ่ายเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 สรุปได้ดังนี้
รอบที่ 1 (วงเงิน 199,960 ล้านบาท)
1. หน่วยงานได้รับจัดสรรแล้ว จำนวน 15,852 โครงการ จำนวนเงิน 158,784 ล้านบาท ลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน 6,238โครงการ จำนวนเงิน 110,044 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว จำนวน 34,767.15 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.90 ของจำนวนเงินจัดสรร โดยยังมีหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรแล้วแต่ยังไม่ลงนามในสัญญา จำนวน 9,614 โครงการ จำนวนเงิน 48,604 ล้านบาท แบ่งเป็น
1.1 ได้รับจัดสรรแล้วไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 2,226 โครงการ จำนวนเงิน 12,787 ล้านบาท
1.2 ได้รับจัดสรรแล้วเกิน 15 วันทำการ จำนวน 7,388 โครงการ จำนวนเงิน 35,816 ล้านบาท
2. หน่วยงานที่ยังไม่ขอจัดสรร ประกอบด้วย หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงกลาโหม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข
รอบที่ 2 (วงเงิน 149,999.84 ล้านบาท) หน่วยงานได้รับจัดสรรแล้ว จำนวน 20,351 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้วจำนวน 11,524 ล้านบาท
กรมบัญชีกลาง
โทร. (02) 273-9101