กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยข้อมูลโครงการศูนย์ธุรกิจตลาดทุน ย่านรัชดาภิเษก-ศูนย์วัฒนธรรมฯ เตรียมใช้เป็นศูนย์กลาง นวัตกรรมการเงินการลงทุนแบบครบวงจรแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย พร้อมพัฒนาสู่ระดับสากล พร้อมกันนี้ได้เชิญชวนพันธมิตรที่จะร่วมพัฒนาที่ดินส่วนหนึ่งประมาณ 9.66 ไร่ เพื่อร่วมพัฒนาโครงการฯ ตามเจตนารมณ์
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีนโยบายที่จะพัฒนาโครงการศูนย์ธุรกิจตลาดทุน ให้เป็นศูนย์กลางในการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินการลงทุนแบบครบวงจร ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาตลาดทุนไทย เพื่อการแข่งขันสู่ระดับสากลอย่างยั่งยืน เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย เทียบเท่า International Financial Center ในต่างประเทศ โดยจะใช้พื้นที่ย่านรัชดาภิเษก-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ประมาณ 14.9 ไร่ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อพัฒนาโครงการฯ ดังกล่าว โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นอาคารที่ทำการของตลท. ประมาณ 5.24 ไร่ และอีกส่วนหนึ่งประมาณ 9.66 ไร่ โดยเปิดให้พันธมิตรที่สนใจเข้าร่วมพัฒนาที่ดินตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ทั้งนี้ ตลท. ได้ตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายพัฒนาที่ดิน อาคารและสถานที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้น เพื่อทำการวิจัยทางการตลาด การวิเคราะห์ผลตอบแทนในด้านการเงินและสังคม รวมถึงการออกแบบผังแม่บท เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาแบบยั่งยืน ที่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
"สำหรับการก่อสร้างอาคารที่ทำการของ ตลาดหลักทรัพย์นั้น ได้ตั้งเป้าหมายที่จะให้เป็นอาคารที่จะรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ และธุรกรรมที่เติบโตขึ้นในอนาคต รวมทั้งเป็นศูนย์กลางของการจัดกิจกรรมด้านการเงินการลงทุน และการให้ความรู้ของตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตรในตลาดทุน” นางภัทรียากล่าว
ด้าน รศ.นิพัทธ์ จิตรประสงค์ กรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหนึ่งในคณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายพัฒนาที่ดิน อาคารและสถานที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า ในนามคณะกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่าการพัฒนาโครงการศูนย์ธุรกิจตลาดทุน ให้เป็นศูนย์รวมของหน่วยงาน และภาคธุรกิจที่สำคัญ ๆ ในตลาดทุนไทย และเป็นฐานในการพัฒนานวัตกรรมด้านการเงินและการลงทุนของประเทศ เป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งเสริมให้ตลาดทุนไทย มีศักยภาพที่แข็งแกร่ง นับเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ตลาดทุนไทยที่จะช่วยส่งเสริมการทำหน้าที่เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ
นอกจากนี้ โครงการศูนย์ธุรกิจตลาดทุน ยังมีจุดเด่นที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของเมือง พร้อมด้วยศิลปะและวิทยาการชั้นสูงที่เป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยี โดยมีความปลอดภัยและเสถียรภาพสูงสุด และมีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงการออกแบบและก่อสร้างที่ได้มาตรฐานด้านการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งจะสามารถรองรับการขยายตัว การแข่งขัน และการพัฒนา ตลาดทุนไทยสู่ระดับสากลได้ในอนาคต
รศ.มานพ พงศทัต อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในคณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายพัฒนาที่ดิน อาคารและสถานที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ตามผังแม่บทโครงการ ทั้งอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ และส่วนที่เป็นอาคารสำนักงานเชิงพาณิชย์ที่จะเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาประมูลขายหรือเช่านี้ จะเป็นอาคารที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยใช้มาตรฐานด้านการอนุรักษ์พลังงาน การป้องกันมลภาวะเป็นพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นอาคารสำนักงาน Grade A พร้อมมาตรฐานอาคารเขียว LEED Certified (Leadership of Energy and Environmental Design) ในระดับ Gold ขึ้นไป ที่รับรองโดย U.S. Green Building Council (USGBC) มาตรฐานของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ ยังเป็นอาคารที่มีระบบเทคโนโลยีแบบอัจฉริยะ มีความเสถียรมั่นคงของระบบพลังงาน และมีความปลอดภัยสูงต่อชีวิต ทรัพย์สิน และระบบฐานข้อมูลองค์กรอีกด้วย
ด้านนายวิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท วรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หนึ่งในคณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายพัฒนาที่ดิน อาคารและสถานที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวมีความน่าสนใจ และมีจุดเด่นแตกต่างจากโครงการอื่นๆ โดยนอกจากจะเป็นที่ตั้งของอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ แห่งใหม่ แล้ว โครงการมี แนวคิดที่จะเป็น Financial Hub ในย่านรัชดาภิเษก-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มเป็นศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District: CBD) แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ ที่ตั้งของโครงการศูนย์ธุรกิจตลาดทุน ยังสะดวกด้านการคมนาคม โดยตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยในอนาคตคาดว่าจะ เป็น Junction Hub จากทิศหลัก ๆ ของกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นทิศเหนือ ทิศใต้ ตะวันออก และตะวันตก ที่สามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายระบบรถไฟฟ้า BTS และระบบ Airport Link สู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยในอนาคต การรถไฟฟ้าฯ ยังมีกำหนดการที่จะก่อสร้างทางรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้ม (บางบำหรุ — ศูนย์วัฒนธรรมฯ — มีนบุรี) โดยจะบรรจบกับสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ เป็นสถานีสี่แยก ที่จะเชื่อมต่อการเดินทางจากทั้ง 4 ทิศของกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะทำให้ที่ตั้งของศูนย์ธุรกิจตลาดทุนแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางของเมืองอย่างแท้จริง
ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดโครงการศูนย์ธุรกิจตลาดทุน พร้อมข้อกำหนดในการประมูลขายหรือให้เช่าที่ดินบางส่วนในโครงการศูนย์ธุรกิจตลาดทุน ประมาณ 9.66 ไร่ เพื่อร่วมพัฒนาโครงการฯ ได้จาก www.set.or.th ตั้งแต่วันนี้-25 กุมภาพันธ์ 2553 โดยกำหนดยื่นซองประมูล 24 มีนาคม 2553
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229-2036 / กนกวรรณ เข็มมาลัย โทร. 0-2229-2048 / ณัฐยา เมืองแมน โทร. 0-2229-2043