กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--ธนชาต
บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทฯและบริษัทย่อย ในไตรมาส 1 ของปี 2549 มีกำไรสุทธิ 748 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 8.9% โดยการเพิ่มขึ้นของกำไรมาจากการที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของกลุ่มธนชาตขยายตัวถึง 42% สำหรับผลประกอบการของธนาคารธนชาต ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีกำไร 50.4 ล้านบาท ลดลง จากงวดเดียวกันของก่อน 68.09% เนื่องจากการรับโอนธุรกิจเช่าซื้อมาจาก บริษัท ทุนธนชาต ซึ่งตามวิธีการบันทึกบัญชีธนาคารต้องบันทึกค่าใช้จ่ายด้านเช่าซื้อที่เกิดขึ้นทั้งหมดทันที ขณะที่รายได้จะทยอยรับรู้ตามงวดที่รับชำระ
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (Suphadej Poonpipat, President&CEO, Thanachart Capital Public Company Limited) เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ณ สิ้นไตรมาส 1 ของปี 2549 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิก่อนสอบทานเท่ากับ 748 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 8.9% โดยการเพิ่มขึ้นของกำไรส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ถึง 42.0% ซึ่งส่งผลให้รายได้จากการให้เช่าซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้น 40.2%
สำหรับผลประกอบการของธนาคารธนชาต ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีกำไร 50.4 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 68.09% เนื่องมาจากการรับโอนการดำเนินธุรกิจเช่าซื้อมาจาก บริษัท ทุนธนชาต ซึ่งตามวิธีการบันทึกบัญชีที่ถือปฏิบัตินั้น ธนาคารต้องบันทึกค่านายหน้าและค่าใช้จ่ายเช่าซื้อทั้งหมดทันที ณ วันที่เกิดรายการ ขณะที่การรับรู้รายได้ตามสัญญาเช่าซื้อจะทยอยรับรู้ตามงวดที่รับชำระ ส่งผลให้ในช่วงแรกที่ธนาคารดำเนินธุรกิจเช่าซื้อมีค่าใช้จ่ายดำเนินการสูง ในขณะที่รายได้ที่รับรู้อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองฯ ที่เกิดขึ้นจากการให้สินเชื่อเช่าซื้อ รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขยายสาขาของธนาคารอีกมาก ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีสาขาอยู่ 77 สาขา
นายศุภเดช กล่าวอีกว่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2549 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 261,086 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเฉพาะของบริษัท ทุนธนชาต ณ สิ้นไตรมาส 1 ของปี 2549 เท่ากับ 15.0% ซึ่งสูงกว่าอัตราขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ที่ 8.0%
เผยแพร่ข่าวโดย กลุ่มธนชาต
ข้อมูลเพิ่มเติม ศตวรรษ เสือแก้ว, ขนิษฐา ไกรดานนท์
0-2658-1444 ต่อ 3021