ก.ล.ต. ส่งผลการตรวจสอบบัญชีของ POWER ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และสั่งการให้ POWER แก้ไขงบการเงินและจัดให้มีการสอบบัญชีพิเศษ

ข่าวทั่วไป Thursday November 9, 2006 10:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--ก.ล.ต.
สืบเนื่องจากการตรวจสอบงบการเงินประจำปี 2547 ของบริษัทเพาเวอร์-พี จำกัด (มหาชน) (“POWER”) ในระหว่างที่บริษัทดังกล่าวขอให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพิจารณาย้ายหลักทรัพย์ POWER ออกจากหมวดบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูการดำเนินงานกลับเข้าไป
ซื้อขายในหมวดปกติ ก.ล.ต. พบการรับรู้รายได้บางรายการมีความคลุมเครือไม่ชัดเจนที่อาจเป็นการรับรู้รายได้ไม่ถูกต้องตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งหากไม่มีรายการดังกล่าว งบการเงินประจำปี 2547 ของ POWER จะยังไม่เป็นไปตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการย้ายกลับไปอยู่ในหมวดปกติ ซึ่งกำหนดว่าต้องมีผลการดำเนินงานทั้งปีมีกำไร หรือมีกำไรจากการดำเนินงาน 3 ไตรมาสติดต่อกัน ก.ล.ต. จึงได้สั่งให้ POWER จัดให้มีผู้สอบบัญชีดำเนินการตรวจสอบพิเศษ (special audit) รายการต้องสงสัยดังกล่าว ซึ่งแม้ผลการตรวจสอบพิเศษในครั้งนั้นจะไม่สามารถสรุปได้ว่า รายการต้องสงสัยดังกล่าวไม่ถูกต้องตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป แต่ก็ได้ตั้งข้อสังเกตไว้หลายประการ
จากการตรวจสอบของ ก.ล.ต. ต่อมา ปรากฏพยานหลักฐานที่น่าเชื่อได้ว่า รายได้ที่ POWER รับรู้ไว้ส่วนหนึ่ง รวม 10.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 43 ของกำไรจากการดำเนินงาน มิได้มีการให้บริการจริง จึงไม่สามารถที่จะรับรู้รายได้ดังกล่าวในงบการเงินประจำปี 2547 ได้ตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป การกระทำดังกล่าวทำให้งบการเงินของ POWER แสดงฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานดีกว่าความเป็นจริง โดยน่าเชื่อว่า ผู้บริหารของ POWER 3 ราย ได้แก่ (1) นายราชศักดิ์ สุเสวี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (2) นายพงษ์ศักดิ์ คงปัญญากุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการเงินและการบัญชี และ (3) นางสาวศิริพร ตั้งมิตรประชา ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ มีส่วนรู้เห็นและมีส่วนร่วมในการจัดทำบัญชีของ POWER ไม่ถูกต้อง ไม่ตรงต่อความเป็นจริง เพื่อลวงบุคคลใดๆ ซึ่งการกระทำดังกล่าว เข้าข่ายเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 312 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบุคคลข้างต้น รวมทั้งผู้สนับสนุนในการกระทำผิดอีก 1 ราย คือ
นายคมกริช ลือจรรยา ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้พิจารณาสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้สั่งการให้ POWER แก้ไขงบการเงินประจำปี 2547 ปี 2548 ไตรมาสที่ 2 ของ ปี 2549 และจัดให้มีผู้สอบบัญชีตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษสำหรับรายการรายได้อื่นที่ยังมีความคลุมเครือว่าจะสามารถบันทึกบัญชีรับรู้เป็นรายได้ตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปได้หรือไม่ เป็นการเพิ่มเติมด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ