ล้วงลึก 5 หนุ่มวง “Snail” Pank Rock หน้าใหม่ของวงการเพลงเมืองไทย ทำไมถึงชื่อวงว่า วง “Snail”

ข่าวทั่วไป Monday July 17, 2006 08:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--อาร์เอส
(อะตอม) คำว่า Snail แปลเป็นไทย แปลว่า “หอยทาก” ครับ ที่เราตั้งชื่อนี้กัน พวกผมมองว่า หอยทาก เป็นสัตว์ที่เชื้องช้า เป็นสัตว์ชั้นต่ำ เหมาะกับแนวดนตรีที่เราเล่น และแตกต่าง เรียกว่ามีความ Contrast กันในตัวเอง ที่แตกต่างกันคือ หอยทากเชื้องช้า แต่ดนตรีที่เราเล่นเป็นเพลงเร็วหมด เริ่มจากแต่งเพลง พวกเราแต่งเพลงเร็วหมดแล้ว ไม่มีเพลงช้า และเนื้อหาเพลงมีแต่ Negative
(โหน่ง) คือมันมีนัยยะ และหอยทาก ก็ดูเป็นสัตว์ชั้นต่ำ คือ มันเหมาะกับแนวดนตรีของเราที่เป็น Pank หลายคนมองว่า เป็นพวกสกปรก ต่ำ ซึ่งเป็นการมองจากภายนอกเท่านั้น อีกมุมหนึ่งคือ หอยทาก ไม่เคยทำร้ายใคร
(อะตอม) หอยทาก มีเปลือกคุ้มกันอยู่ เพราะภายในมันบอบบาง มันก็เหมือนพวกเรา ที่ภายนอกดูแข็งแกร่ง แต่ความจริงแล้วเป็นคนอ่อนแอ และที่ผมชอบอีกอย่างคือ การเดินทางของหอยทาก จะเป็นเส้นตรง
แนวเพลงในอัลบั้มนี้เป็นร็อคหนักๆ เลยหรือเปล่า
(อะตอม) อัลบั้มนี้ไม่ได้เป็นร็อคหนักๆ เพราะมีความเป็น Pop ค่อนข้างสูง แต่ว่ามีกลิ่น Pank ส่วนดนตรีก็จะเป็นดนตรีเร็วๆ มีจังหวะ เป็นดนตรีสนุกๆ มากกว่า
หลายคนมองว่า Pank จะเป็นร็อคหนักๆ ใช่หรือเปล่า
(จ้อง) ไม่หรอกครับ แต่ที่หนักจะเป็นเรื่องลุคส์ และเนื้อหาของเพลงมากกว่า ที่เสียดสีสังคม แต่ภาคของดนตรีจะไม่แรง และดิบเท่า Metal
(โหน่ง) Pank จะเน้นจังหวะเร็วๆ มากกว่า
(อะตอม) ที่เราพูดว่า Pank จะมีเนื้อหาของเพลงที่เสียดสีสังคมนั้น เป็นเรื่องของยุคก่อนนะครับ ส่วนในปัจจุบัน จะพูดถึงการใช้ชีวิตของวัยรุ่น ในเพลงเราก็จะหยิบชีวิตประจำวันมาแต่งเพลงมากกว่า
(จ้อง) อย่างสมัยก่อนที่ Pank แต่งเพลงเสียดสีสังคม เพราะว่าเมื่อก่อนมีการเหยียดผิวที่รุนแรงมาก การที่ทำสีผมของพวกเขา ก็เป็นการบ่งบอกว่า ทุกคนเสมอภาคกันหมด ไม่แบ่งแยก สีผิว ส่วนการเจาะ ก็เหมือนกับการบอกว่า พวกเขาสามารถอยู่กับความเจ็บปวดได้ครับ
(อะตอม) อย่างที่จ้องบอกครับ ถ้ามองลึกๆ แล้ว เมื่อก่อนทางอเมริกา เขาล่าเผ่าอินเดียนแดง ทางพวก Pank มองว่ามันเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ก็เลยไว้ผมแบบนี้ ทำสีแรงๆ เพื่อต่อต้านการล่าชนเผ่าอินเดียนแดง คือเมื่อก่อน Pank จะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเยอะมาก แต่ยุคหลังจะเน้นในเรื่องของดนตรีมากกว่า
ดนตรี Pank ที่พวกเรานำเสนอออกมามีรูปแบบอย่างไรบ้าง
(โหน่ง) ของเราเป็น Pank สนุกๆ เหมือนกับทำภาพยนตร์สักเรื่อง ที่มีหลากหลายอารมณ์ ที่มีทั้งเศร้า เครียด สนุกสนาน มีความรัก Pank ก็เหมือนกันครับ
(อะตอม) เพลงที่นำเสนอในอัลบั้ม ก็มาจากชีวิตของพวกเราครับ อย่างเพลง “ก่อการร้าย” ที่เห็นคนอื่นมีแฟนสวยก็อิจฉาเขา ตอนแต่งรู้สึกอย่างไร ตอนนี้ก็ยังรู้สึกอย่างนั้นอยู่ครับ (หัวเราะ) คือมันเป็นแค่ความรู้สึกนึกคิดเท่านั้นนะครับ เราไม่ได้ไปทำอะไรเขา ไม่ได้ไปแย่งแฟนคนอื่น
Pank ที่ถือเป็นต้นแบบของเราคือใคร
(อะตอม) คือเราชอบทั้ง Pank ของอังกฤษ และอเมริกา ครับ นี่ถือว่าเป็นต้นแบบของเรา แต่ที่เรานำมาทำในอัลบั้ม มันเป็นตัวของเรามากกว่าครับ พวกเราจะต่างจากคนอื่นคือ เราทำเพลงในอัลบั้มนี้ค่อนข้างนาน ทำการเองถึง 4 ปี ในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ฉะนั้นเพลงที่แต่งก็จะมีพัฒนาการ เหมือนกับวงที่เราชอบ แต่เราไม่ได้แต่งตามนั้นนะครับ เรียกว่าเป็นความใกล้เคียงทางอารมณ์มากกว่า
(โหน่ง) คือด้วยความที่เราทำอัลบั้มนี้ ถึง 4 ปี ทำให้อัลบั้มของเรามีความหลากหลาย หลายแขนง ทั้ง Pop Pank, Sket Pank, Pank Rock ครับ
(จ้อง) เพลงที่เราทำออกมา ที่ว่ามีความหลากหลาย แต่ทุกเพลงอยู่บนพื้นฐานของความเป็น Pank ครับ
เสน่ห์อะไรของ Pank ที่ทำให้เราชอบ
(อะตอม) ความสนุก และความจริงใจครับ คือพวกเราไม่ใช่พวกที่สามารถเขียนเพลงได้ออกมาเป็นกาพย์ เป็นกลอน แต่ในเพลงที่เราแต่งขึ้น เราเขียนออกมาตรงๆ จากความรู้สึก ก็เหมือนกับพวก Pank ที่พูดตรงๆ ไม่มีเปรียบเปรย และด้วยความที่อันนี้เป็นอัลบั้มแรก ซึ่งอัลบั้มต่อไป คงจะมีพัฒนาการที่มากขึ้นกว่านี้ครับ
(จ้อง) ส่วนผมชอบ Pank ตรงที่ ความง่ายครับ เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
(โหน่ง) ในวงของเรา ไม่มีใครเรียนในภาคดนตรีมาโดยตรง ยกเว้น อาร์ต มือกลอง ที่เรียนดนตรีมา ทำให้เวลาทำเพลง พวกเราไม่มีทฤษฎีมาตีกรอบ เราคิดได้อย่างอิสระ ออกมาจากความรู้สึกของพวกเราจริงๆ
(จ้อง) จุดดีของเวลาเล่นโชว์ พวกเราไม่ได้เรียนดนตรีมา ขึ้นเวทีไม่ต้องโซโลกระจาย อย่างเวลาไปดูเขาเล่นดนตรีกัน เห็นเขาโซโลกีต้าร์กันพริ้วมาก แต่คนดูไม่สนุก เราก็เลยคิดว่า ถ้าเราเล่นเราจะเน้นความสนุกมากกว่าครับ
อย่างงานทัวร์คอนเสิร์ตของอันเดอร์กราวน์ นี่เป็นมาอย่างไร
(อะตอม) การจัดคอนเสิร์ตของอันเดอร์กราวน์ จะมีการรวบรวมกลุ่มกันเอง โดยจะโพสต์ตามอินเตอร์เน็ต ว่าจะมีคอนเสิร์ตเล่นที่นั่นที่นี่ครับ คนที่เขาชอบแนวแบบนี้ก็จะไปกัน เงินที่นำมาใช้ในการจัดงานก็จะออกกันเองครับ เรียกว่าทำด้วยใจรักจริงๆ เพราะส่วนใหญ่แต่ละงานที่จัดขึ้นจะควักเนื้อกันซะส่วนใหญ่ แต่บางงานที่จัดขึ้นที่ต่างจังหวัดบางทีก็ขอสปอนเซอร์ มาช่วยสนับสนุนครับ
เวลาทัวร์คอนเสิร์ตของอันเดอร์กราวน์มีวงมาเล่นกันเยอะหรือเปล่า
(อะตอม) มีประมาณ 50-60 วง เลยครับ แต่ส่วนมากจะเป็นวง Metal เพลงที่เล่นเพลงของตัวเองบ้าง บางวงก็เล่นเพลง Cover แต่ส่วนใหญ่จะเล่นเพลง Cover มากกว่า เพราะเข้าถึงคนฟังได้ง่ายกว่าครับ
พูดถึงการทำเพลงในอัลบั้มนี้ เป็นอย่างไรบ้าง เพราะบอกว่าแต่ละคนไม่ได้เรียนดนตรีมาโดยตรง มีปัญหาบ้างหรือเปล่า
(อะตอม) มีปัญหาบ้างครับ แต่การแต่งเพลง พวกเราแต่งมาจากความรู้สึกของเราเอง มันก็เลยไม่ยาก แต่ในส่วนที่จะมาทำเป็นงานจริง ต้องเข้าห้องอัดอันนี้เป็นเรื่องยาก ดีที่ว่าเราได้ พี่บุญเกิด แซ่หลิว โปรดิวเซอร์ ที่แนะนำเรื่องการแต่งเพลงให้ทำให้เราสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น อะไรที่ผิดจากทฤษฎี พี่เกิดก็ช่วยแก้ให้ แต่ส่วนใหญ่ผิดไม่เยอะ เรียกว่าตบแต่งให้สวยงามขึ้นครับ ส่วนเรื่องการร้องเพลงก็จะดูเรื่องการคอนโทรลเสียง อย่างเพลงบางเพลงที่เราดีไซน์การร้องมา เขาก็บอกว่า การร้องอย่างนี้จะทำให้กินแรง กินเสียง แล้วก็ช่วยปรับให้พวกเรา
ในอัลบั้มนี้แต่งเพลงเองทั้งหมดเลยหรือเปล่า
(อะตอม) ในอัลบั้มนี้ เพลงที่พวกเราแต่งเองมีอยู่ 9 เพลงครับ นี่ยังไม่รวมกับที่ทำแล้ว โดนตัดอีกหลายเพลงเลยนะครับ
เพลงที่แต่งเองคือเพลงอะไร
(อะตอม) เพลง “ก่อการร้าย” ครับ เป็นเพลงตัดโปรโมทแรก แต่กว่าจะได้ออกมาเป็น “ก่อการร้าย” ที่ได้ฟังกันนั้น เปลี่ยนเนื้อมาหลายเนื้อมาก เพราะตอนแรกเราไม่เข้าใจในหลัก เพราะมันยังไม่สามารถสร้าง Impact ได้พอ เพราะเรามาจากอันเดอร์กราวน์ คือ พวกเราเป็นอินดี้อยู่ 2 ปี และมาอยู่ในระบบค่าย 2 ปี ทำให้เพลงที่เราแต่งออกมา ทั้งพี่บุญเกิด ที่เป็นโปรดิวเซอร์ และพี่โป่ง เองมองว่า เพลงยังไม่สามารถสร้าง Impact ได้พอ พี่ๆ เขาก็แนะนำเราว่าต้องเป็นอย่างนี้ ต้องทำอย่างนั้น เพราะในการทำเพลงมันก็มีหลักของมันอยู่ ซึ่งที่พวกเราแต่งกันออกมา มันมาจากความรู้สึกเพียงอย่างเดียว ไม่มีสูตร ไม่มีทฤษฎีเข้ามาเกี่ยวข้องเลย พี่ๆ เขาก็เลยให้โจทย์มา ผมก็แต่งเนื้อที่ 2 ออกมา เป็นเนื้อหาของแฟนที่ชอบโทรศัพท์มาตามจิกตลอดเวลา เราไม่ชอบ ปรากฏว่า มีเพลงแนวนี้ออกมาชนกันพอดี โหน่งก็เลยรับหน้าที่แต่งเพลงนี้เป็นเนื้อที่ 3 เลยได้มาเป็น “ก่อการร้าย” ครับ
(โหน่ง) คือ พอต้องแต่งเนื้อที่ 3 ขึ้นมา ผมก็มองว่า งั้นเรามาแต่งเพลง “ก่อการร้าย” ในมุมมองดีๆ บ้าง ผมก็มองว่างั้นแย่งแฟนชาวบ้านดีกว่า (หัวเราะ) เรื่องของความรักมันไม่ผิดนี่ครับ การแย่งชิงในเรื่องของความรักมันไม่ใช่ความผิด ผมก็เลยแต่งเพลงนี้ออกมาครับ
จุดเริ่มแรกของการรวมตัวเป็นวง Snail มีที่มาอย่างไรบ้าง
(จ้อง) เริ่มแรกพวกเราก็มีสมาชิก 5 คนครับ แต่ด้วยความจำเป็นบางอย่างทำให้เหลือกันอยู่ 3 คน คือ ผม โหน่ง แล้วก็อะตอม เราก็รู้สึกว่ามันไม่พอ คือเล่นได้แต่ไม่ดี พวกเรามองว่า เราเล่นสด อะไรที่มันเกินความสามารถ ทั้งเล่นทั้งร้อง มันทำให้เกิดอาการเกร็งก็เลยหาสมาชิกมาเพิ่ม ตอนนั้นเราก็กำลังทำเดโมเสนอค่ายอยู่ ทางพี่บุญเกิด ก็แนะนำกุ๊กเข้ามา เพราะกุ๊กเป็นลูกศิษย์ที่เรียนเบส กับพี่บุญเกิด ก็เลยได้เข้ามาอยู่ในวงด้วยกัน
(อะตอม) ส่วนอาร์ต ได้มาจากกุ๊กแนะนำ เขามาดูเราเล่นดนตรี และเขาก็มีความสามารถในด้านกลองได้ดี ตีกลองดี ซึ่งหาคนตีกลองแน่นๆ แบบนี้ได้ยากครับ ส่วนใหญ่คนจะตีกลองในจังหวะ Hip Hop มากกว่า และอาร์ตก็เรียนดนตรีมาด้วย ก็มาเสริมในวง ก่อนหน้าที่จะได้อาร์ตมาตีกลองให้ เราก็แคสติ้งหลายคนเหมือนกัน แต่ไม่ได้ ทั้งเรื่องการตีกลอง และนิสัยด้วย
งานดนตรี Pank ที่ค่อนข้างมีกลุ่มผู้ฟังในวงจำกัด เรามีการปรับอย่างไร
(กุ๊ก) ผมว่าเพลงของเราฟังได้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย เพราะมีความเป็น Pop, Rock
(อะตอม) เรื่องนี้ผมยกเครดิตให้กับทางค่ายเรียลแอนด์ชัวร์ครับ คือ หากเราไปอยู่ค่ายอื่น อาจทำให้เรามีข้อจำกัดมาก อย่างแรกเลย เรียลแอนด์ชัวร์ ไม่ได้มองคนที่หน้าตา แต่มองที่ฝีมือในการเล่นดนตรีมากกว่า ซึ่งทั้งพี่โป่ง และพี่บุญเกิด ก็เห็นความเป็นศิลปินในตัวพวกเรา มองแล้วน่าทำอัลบั้ม แต่ว่าในการทำอัลบั้ม พวกเราได้คุยกับทางค่ายแล้วว่าอันไหนรับได้ รับไม่ได้ ทำให้เราจูนเข้าหากันตรงกลาง ทำให้พวกเราภูมิใจมากๆ ที่ได้เกิดมาในภายใต้สังกัดเรียลแอนด์ชัวร์ และการแต่งตัวของพวกเรา แต่อยู่ภายใต้ขอบเขตที่เหมาะสม ทรงผม พวกเราก็ทำตามอย่างที่ชอบกัน ทางค่ายก็ให้อิสระเต็มที่ครับ
ความคาดหวังกับอัลบั้มนี้
(อะตอม) ตัวผมมองว่า ขอให้คนต่างจังหวัดได้รู้ว่าพวกเราเป็นแบบไหน ได้รู้ว่ามีวง Pank เกิดขึ้นเมืองไทย อย่างที่เราไปเล่นดนตรีที่เชียงใหม่ เด็กวัยรุ่นขับมอเตอร์ไซค์ผ่านไป แล้วตะโกนเรียกเราว่าเด็กแนว ผมอยากให้เขารู้ว่า คนที่แต่งตัวแบบนี้ เป็นพวก Pank ครับ
(โหน่ง) ผมอยากให้คนในหมู่กว้างรู้จักคำว่า Pank มากขึ้น อย่างน้อยดูจากพวกเราเป็น ตัวอย่าง และพวกเราก็พร้อมเป็นตัวแทน ที่พร้อมจะโดนตำหนิ และก็อยากให้มีวง Pank วงอื่นๆ ออกมาทำผลงานเพลงกันด้วย งานที่ออกมาจะได้มีความหลากหลายมากขึ้นครับ
(จ้อง) ผมคาดหวังเรื่องการโชว์ อยากให้มีคนไปดูพวกเราเล่นดนตรีกันเยอะๆ ครับ
(กุ๊ก) ผมอยากให้เด็กๆ ที่แต่งตัว Pank ร้องเพลง Pank เพราะส่วนใหญ่ผมเห็นหลายคนแต่งตัวเป็น Pank แต่ไปดูคอนเสิร์ตเกาหลี อยากให้พวกเขามาดูพวกเราเล่น จะได้รู้ว่าเพลง Pank จริงๆ เป็นอย่างไรมากกว่าครับ
(อาร์ต) ผมอยากให้แชร์กันดูมากว่า เพราะในเมืองไทย วง Pank ค่อนข้างหาลำบาก เพราะวง Pank ก็มีความน่ารักของมันครับ และฝากถึงเรื่องการแสดงสดอยากให้ติดตามกันดูครับ
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ