กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ดร.สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ (Bond Electronic Exchange หรือ BEX) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติรับตั๋วเงินคลัง 3 รุ่นและพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 1 รุ่นที่ออกใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2549 เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดตราสารหนี้ รวมมูลค่า 33,000 ล้านบาท ให้เริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 20 และ 21 กุมภาพันธ์ 2549 ตามลำดับ
ตั๋วเงินคลังที่จะเข้าจดทะเบียนใหม่ 3 รุ่นล่าสุด เป็นตั๋วเงินคลังอายุไม่เกิน 6 เดือน ไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย เป็นตั๋วเงินระยะสั้นที่ออกโดยกระทรวงการคลัง เริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2549 ประกอบด้วย
1. “TB06322C” อายุ 28 วัน มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 22 มี.ค. 2549
2. “TB06524B” อายุ 91 วัน มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 24 พ.ค. 2549
3. “TB06823A” อายุ 182 วัน มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 23 ส.ค. 2549
สำหรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นพันธบัตรงวดที่49/4/364D ใช้ชื่อว่า “CB07222A” มูลค่า 14,000 ล้านบาท อายุ 364 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 22 ก.พ. 2550 เริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549
การเข้าจดทะเบียนของตั๋วเงินคลังและพันธบัตรธปท. จะส่งผลให้มูลค่าคงค้างรวมทั้งหมดตราสารหนี้จดทะเบียนในBEX เพิ่มขึ้นเป็น 2.712 ล้านล้านบาท
ตั๋วเงินคลังและพันธบัตรธปท. ที่เข้าจดทะเบียนล่าสุดใน BEX เป็นตราสารหนี้ระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี ซึ่งจะทยอยเข้าจดทะเบียนใน BEX โดยผลการประมูลตราสารหนี้ประเภทต่างๆ จะมีการเผยแพร่ผ่านระบบ SETSMART เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th เว็บไซต์เซ็ทเทรด ดอท คอม www.settrade.com และเว็บไซต์ตลาดตราสารหนี้ www.bex.or.th
ผู้สนใจลงทุนในหุ้นกู้และพันธบัตรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือติดต่อตลาดตราสารหนี้ (BEX) ที่โทร. 0 2229-2782-91
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797--จบ--