กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
คำแนะนำการลงทุน Gold Futures
GFG10 ซื้อในช่วงราคา 17320 - 17370 ขายในช่วงราคา 17450 - 17470
GFJ10 ซื้อในช่วงราคา 17460 - 17500 ขายในช่วงราคา 17580 — 17640
SWING TRADER
ทิศทางทองคำอยู่ในช่วงของไร้ทิศทาง(SIDE WAY) เนื่องจากถูกกดดันจากFEDประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย แนะนำเข้าซื้อและเข้าขายGFJ10ตามแนวรับและแนวต้านที่ให้ไว้ และควรจะปิดสถานะGFG10 เนื่องจากจะหมดอายุสัญญา 25/02/2010
GFJ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 17480 รอขายที่ระดับ 17680
ปัจจัยสำคัญ
High Light
? ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน 0.25% เป็น 0.75% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 ก.พ.เป็นต้นไป ซึ่งความเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นหนึ่งในแผนการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากตลาดการเงินและภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น
? ดอลลาร์ถูกกดดันอย่างหนักหลังจากเฟดคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานในสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับสูงในอีก 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้ภาคเอกชนของสหรัฐระมัดระวังเรื่องการจ้างงาน และการที่เศรษฐกิจและตลาดจ้างงานสหรัฐจะกลับคืนสู่ภาวะปกติได้นั้น ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง โดยเฟดคาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 9.5-9.7% ในปีนี้
GOLD Market Recap : 18/02/2010
MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,104 $ ส่วน Gold Future G10 เปิดที่ 17,460 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 17,400 ปรับลง 150 บาท จากวันทำการก่อน ตลาดทองคำในช่วงนี้มีทิศทางเป็นขาลง โดยช่วงเช้าราคาทองคำยังปรับลงอย่างต่อเนื่อง สมาคมค้าทองแท่งปิดตลาดช่วงเช้าที่ 17,350 ปรับลง 50 บาท ราคาทองคำต่างประเทศระหว่างวันเคลื่อนไหว sideway อยู่ระหว่าง 1,102 — 1,106 $ โดยในช่วงบ่ายราคาทองคำต่างประเทศยังคงแกว่งตัวในทิศทาง sideway ประมาณ 1,099-1,104 $ โดยปิดตลาด Gold Future G10 ปิดตลาดที่ 17,420 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำช่วงบ่าย เท่าเดิม อยู่ที่ราคา 17,350 บาท นักลงทุนยังคงเข้าซื้อขายค่อนข้างคึกคัก แม้ว่าตลาดยังคงแกว่งตัวในทิศทางsideway
NIGHT RECAP:
ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1105 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1098 - 1106 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1104 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1106 - 1124 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1100 เหรียญ
ข้อมูลทองคำวันนี้
? ราคาสมาคม เปิดที่ 17,300 — 17,400
? ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,105
? อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 33.22 — 33.33
? GFG10 Hi- Low 17,480 - 17,350 ปิดที่ 17,420
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,118.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.40 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,098.10-1,124.60 ดอลลาร์ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าซัพพลายทองคำในตลาดจะเพิ่มขึ้นและอาจฉุดราคาทองคำอ่อนตัวลงด้วย หลังจากมีรายงานว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตรียมนำทองคำสำรองออกขายในตลาดเปิดเพื่อระดมทุนในการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือด้านการเงิน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ปิดบวก 83.66 จุด หรือ 0.81% แตะที่ 10,392.90 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.24 จุด หรือ 0.66% ปิดที่ 1,106.75 จุด หลังจากสหรัฐเผยข้อมูลด้านการผลิตที่สดใส ซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 และช่วยลดปัจจัยลบจากการที่บริษัท วอล-มาร์ท เปิดเผยยอดขายที่หดตัวลง
น้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 1.73 ดอลลาร์ หรือ 2.24% ปิดตลาดที่ 79.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. เนื่องจากนักลงทุนไม่ให้น้ำหนักกับรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ แต่หันไปขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงข้อมูลภาคการผลิตและภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลจากตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวสูงขึ้น
กองทุน SPDR Gold Trust
SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ . 19 ก.พ. ไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1,109.42 ตัน
USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวผันผวนเมื่อคืนนี้ โดยดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับยูโร แต่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังค์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
? สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า อังกฤษมียอดขาดดุลงบประมาณ 4.3 พันล้านปอนด์ (6.7 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมียอดเกินกุล 2.8 พันล้านปอนด์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีหดตัวลง 11.8% จากปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในส่วนของสวัสดิการสำหรับประชาชนที่ว่างงานทะยานขึ้น
? เฟดคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานในสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับสูงในอีก 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้ภาคเอกชนของสหรัฐระมัดระวังเรื่องการจ้างงาน และการที่เศรษฐกิจและตลาดจ้างงานสหรัฐจะกลับคืนสู่ภาวะปกติได้นั้น ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง โดยเฟดคาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 9.5-9.7% ในปีนี้ นอกจากนี้ เฟดคาดว่าความไม่แน่นอนในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกเสียจากว่าตลาดแรงงานจะฟื้นตัวขึ้นและภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อจะบรรเทาลง ทั้งนี้ เฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวราว 2.8-3.5% ในปีนี้ และคาดว่าจะขยายตัวราว 3.4-4.5% ในปีหน้า ก่อนที่เศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวได้ตามปกติในปี 2555
? ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน 0.25% เป็น 0.75% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 ก.พ.เป็นต้นไป ซึ่งความเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นหนึ่งในแผนการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากตลาดการเงินและภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เฟดเรียกเก็บจากธนาคารพาณิชย์ซึ่งกู้ยืมโดยตรงจากเฟด
? กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 12 ก.พ. พุ่งขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล แตะที่ 334.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.2 ล้านบาร์เรล
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคแห่งนี้ขยายตัวขึ้นแตะระดับ 17.6 จุดในเดือนก.พ. จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 15.2 จุด ส่วนภาคการผลิตในรัฐนิวยอร์กมีการขยายตัวด้วยเช่นกัน โดยดัชนี Empire State Manufacturing Index เดือนก.พ.พุ่งขึ้นแตะระดับ 24.91 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 18 จุด และมากกว่าเดือนม.ค.ที่