กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--IR PLUS
TNDT ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง โชว์ผลงานปี 52 กำไรทะลุ 65.12 ลบ. หรือ 0.65 บ./หุ้น เพิ่มขึ้นจาก ปีก่อนที่ทำได้ 50.79 ลบ. หรือ 0.51 บ./หุ้น ส่งผลให้บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลทันที 0.26 บ./หุ้น " ชมเดือน ศตวุฒิ " เผยเป็นผลจากทำรายได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่คุมต้นทุนได้ผล และได้รับยกเว้นภาษีตามสิทธิ BOI มั่นใจปีนี้ยังโชว์ฟอร์มสวย หลังจากงาน ตปท.เริ่มเติบโตชัดเจน
นางสาวชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT กล่าวถึงผลประกอบการประจำปี 2552 ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 295.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่ทำได้ 249.32 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 65.12 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.65 บาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 14.33 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 28.21 จากปีก่อนที่ทำได้ 50.79 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.51 บาท โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น สนับสนุนให้รายได้เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน ในขณะที่สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นตามการเติบโตของรายได้ และบริษัทฯ จ่ายภาษีเงินได้ลดลงอันเนื่องจากได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ นิติบุคคลจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
"ในปีที่ผ่านมาถือเป็นความสำเร็จที่ TNDT สามารถผลักดันทั้งรายได้และกำไรให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ตามที่เราได้เคยพูดไว้กับทั้งนักลงทุนและผู้ถือหุ้น หลังจากที่ได้พยายามทำงานกันอย่างหนักต่อเนื่องตลอดทั้งปี และในปีนี้ก็เช่นเดียวกันเรายังคงเดินหน้าผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีให้กับทั้งผู้ถือหุ้นและนักลงทุน รวมทั้งเพื่อให้บริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต "
นางสาวชมเดือนกล่าวอีกว่า จากกำไรที่เติบโตขึ้นดังกล่าว ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2553 ที่ผ่านมา ที่ประชุมจึงได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2552 ในอัตราหุ้นละ 0.26 บาท โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2552 ไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2552 จึงยังคงต้องจ่ายสำหรับงวด 6 เดือนหลังของปี 2552 อีกในอัตราหุ้นละ 0.16 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิที่ได้รับยกเว้นภาษีจากสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุน ( BOI ) ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2553 โดยคณะกรรมการจะเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติ ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2553 ในวันที่ 26 เมษายน 2553นี้
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปีนี้ กรรมการผู้จัดการ TNDT กล่าวว่า ยังคงตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 360 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่ 300 ล้านบาท เนื่องจากในปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงมีงานในมือ (Backlog) อยู่กว่า 200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเตรียมเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานในต่างประเทศ เช่น ประเทศลาว สิงคโปร์ พม่าและเวียดนาม เป็นต้น เพื่อกระจายความเสี่ยงและขยายฐานรายได้ในอนาคต
'ปีนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดคาดหรือไม่มีอะไรที่รุนแรง โดยเฉพาะปัจจัยทางการเมืองเข้ามากระทบ รายได้คงเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ที่ 360 ล้านบาท ส่วนงานในต่างประเทศก็ยังคงเข้าไปทำอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นลาว พม่า สิงคโปร์ ซึ่งตอนนี้สัดส่วนก็ไม่เกิน 5% ' นางสาวชมเดือน กล่าว
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) ได้ออกบทวิเคราะห์ถึงบริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) ว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 4/2552 ที่ออกมาถือว่าดี โดยกำไรทั้งปีมากกว่าที่คาดไว้ (คาดกำไรปี 52 ที่ 60.1 ล้านบาท) สาเหตุหลักเนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 4 ดีกว่าที่คาดไว้มาก
สำหรับในปี 53 มองว่างานของบริษัทฯ จะยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง โดย Backlog ในมือประมาณ 200 ล้านบาท ที่จะรับรู้ในปีนี้จะเป็นฐานให้รายได้ในปีนี้เติบโต เมื่อบวกกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคาดว่าจะส่งผลดีต่องานในอนาคตของบริษัทฯ ด้วย โดยคาดปี 53 บริษัทจะมีกำไร 70.4 ล้านบาท (EPS 0.70 บาท/หุ้น) ดังนั้นจึงประเมินราคาปัจจัยพื้นฐานปี 53 ที่ 5.30 บาท แนะนำ “ซื้อ”
ข้อมูลบริษัทบริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน)
บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT ผู้ประกอบธุรกิจการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Nondestructive Testing - NDT) ซึ่งเป็นวิธีการทดสอบเพื่อหาจุดบกพร่อง รอยแยก รอยรั่ว การปนเปื้อน ความผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อถูกกระทบโดยปัจจัยแวดล้อมและความไม่สมบูรณ์ของ วัสดุอุปกรณ์ ส่วนประกอบหรือโครงสร้างต่าง ๆ โดยที่ทั้งก่อน ขณะปฏิบัติการและภายหลังการทดสอบ จะไม่มีส่วนทำให้ชิ้นงานมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์หรือคุณสมบัติ
โดยตัวอย่างของการทดสอบด้วย NDT อาทิเช่น การตรวจสอบและทดสอบระบบความปลอดภัยต่อการใช้งานของอุปกรณ์ ระบบท่อลำเลียง น้ำมัน ก๊าซ สารเคมี ทั้งทางบกและทางทะเลภาชนะรับแรงดันสูง อาทิเช่น ถังบรรจุก๊าซ NGV (Natural Gas Vehicle) LPG (Liquid Petroleum Gas) หม้อต้มไอน้ำ(Boiler) รวมถึงการตรวจสอบและทดสอบโครงสร้างโลหะเหล็กขนาดใหญ่ ซึ่งกลุ่มลูกค้าโดยส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นกลุ่มลูกค้าภายในประเทศ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตปิโตรเลียม ซึ่งได้แก่ การผลิตและสำรวจน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมก่อสร้าง เป็นต้น
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
IR PLUS: คุณฉัฐวีณ์ จิราวัฒนพงศ์ (ก้อ) โทรศัพท์ 02-554-9396
E-mail : chatthavee@irplus.in.th