ครบทุกปั๊มรายแรกทั่วประเทศแล้ว “แก๊สโซฮอล์ 95” ปตท. ตั้งแต่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป

ข่าวทั่วไป Thursday September 28, 2006 13:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ก.ย.--ปตท.
เตรียมพร้อมรองรับความต้องการ และสอดคล้องกับนโยบายในการยกเลิกเบนซิน 95 ต้นปีหน้า
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะที่ ปตท. เป็นผู้นำด้านพลังงานของประเทศและเป็นผู้ริเริ่ม คิดค้นและพัฒนาพลังงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสนองโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยได้พัฒนาและเป็นบริษัทน้ำมันรายแรกที่จำหน่ายน้ำมัน “แก๊สโซฮอล์” ซึ่งเป็นพลังงานทดแทนที่สามารถผลิตได้เองในประเทศ เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ อีกทั้งเป็นตอบสนองความต้องการใช้ของผู้บริโภค และเป็นการเตรียมความพร้อมในการยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ตามนโยบายของภาครัฐที่กำหนดไว้ในต้นปีหน้า (เดือน ม.ค.2550) ดังนั้นนับตั้งวันที่ 1 ตุลาคม ศกนี้ เป็นต้นไป ในสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. ทุกแห่ง พร้อมให้บริการน้ำมัน “พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส” ครบทั่วทั้งประเทศแล้วกว่า 1,200 แห่ง นับได้ว่า ปตท. มีจำนวนสถานีบริการฯ ที่พร้อมให้บริการมากที่สุดในประเทศ (คิดเป็น 36% ของสถานีบริการฯ โดยรวม) ขณะเดียวกัน ปตท. ได้เตรียมความพร้อมโดยร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตเอทานอลเพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบผลิตแก๊สโซฮอล์ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในทุกพื้นที่อีกด้วย
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน กล่าวต่อไปว่า ปตท. นอกจากเป็นบริษัทน้ำมันรายแรกที่จำหน่ายน้ำมัน “แก๊สโซฮอล์” แล้ว จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่องจนมาเป็น “พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส” สูตรใหม่ ไปไกลกว่าเดิม มีคุณสมบัติพิเศษช่วยเพิ่มความสะอาดเครื่องยนต์ เพิ่มประสิทธิภาพและระยะทางการใช้งาน ประหยัดเชื้อเพลิงได้ 1-3% ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ฯ จน ปตท. มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 (อยู่ที่ 42%) นอกจากนี้ “พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95” ยังมีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ถึงลิตรละ 1.50 บาท ด้วย ขณะเดียวกันยังเป็นการช่วยยกระดับราคาพืชผลทางการเกษตร ลดมลภาวะทางอากาศ โดยช่วยลดการนำเข้าน้ำมันและสารเพิ่มค่าออกเทนจากต่างประเทศได้ด้วย
นายชัยวัฒน์ เปิดเผยต่อไปว่า ปตท. พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพลังงานทดแทน ต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและแบ่งเบาภาระของผู้บริโภคและประเทศชาติในช่วงวิกฤติราคาน้ำมันแพง โดยกำลังเร่งดำเนินการขยายสถานีบริการพลังงานทดแทนอื่นๆ อีกด้วย นอกเหนือจากน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ได้แก่ ก๊าซเอ็นจีวี ซึ่งขณะนี้มีสถานีบริการฯ 70 แห่ง และภายในต้นปีหน้า( ปี 2550) จะมีครบ 200 แห่ง ซึ่งมีแผนขยายให้ถึง 740 แห่ง ในปี 2553 สำหรับในส่วนของการให้บริการน้ำมันไบโอดีเซล ปัจจุบันมีจำนวนสถานีบริการฯ 26 แห่ง และจะขยายให้ครบ 100 แห่ง ในสิ้นปี 2549 นี้ เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ประชาชนให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ มากยิ่งขึ้นเช่นกัน
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
โทรศัพท์ 0 2537 2532, 2538
ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปตท.
โทรสาร 0 2537 2572, 2517

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ