กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงตรวจเยี่ยมการปฏิบัติราชการกทม. พร้อมฟังสรุปการทำงานของสายด่วน 1555 และศูนย์รักษาความปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร เชื่อมการทำงานภาครัฐและประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสและเหตุต้องสงสัยที่อาจส่งผลกระทบต่อความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพฯ ผ่านสายด่วนโทร.1555 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติราชการของกรุงเทพมหานคร และศูนย์รักษาความปลอดภัยกรุงเทพมหานคร (ศรภ.กทม.) ซึ่งตั้งอยู่ ณ ห้องสุทัศน์ 1 ชั้น 2 ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) พร้อมทั้งมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ในการเตรียมรับสถานการณ์ความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้น และเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวกรุงเทพฯ โดยมี พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ และ ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.พงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยข้าราชการ ชั้นผู้ใหญ่ของกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับ
ปลัดกรุงเทพมหานครได้บรรยายสรุปถึงการดำเนินงานศูนย์รักษาความปลอดภัยกรุงเทพมหานคร (ศรภ.กทม.) ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 53 ภายหลังได้รับมอบหมายจากรัฐบาล เพื่อทำหน้าที่ในการรับแจ้งข่าวสารจากประชาชนกรณีขอให้ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย การขู่วางระเบิด บุคคลต้องสงสัย ฯลฯ ผ่านช่องทางหมายเลขโทรศัพท์ 1555 ของกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งต่อข้อมูลไปยังศูนย์เหตุด่วนเหตุร้าย (191) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) ศูนย์รับแจ้งเหตุด้านความมั่นคง (สวนมิกสกวัน) ศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ (ศป.ข.) และสำนักงานเขตพื้นที่ โดยมีนายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์ฯ
ทั้งนี้ รองนายรัฐมนตรี ได้กำชับให้ ศรภ.กทม. เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในชุมชนทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นเดียวกับช่วงสงกรานต์ปีที่ผ่านมา ตลอดจนจัดเตรียมบุคลากรและระบบรายงานข่าวสารให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริง ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล และเกิดการเข้าใจผิด อย่างไรก็ตามขอให้ทุกคน ทุกฝ่ายอย่าได้กังวลกับเหตุการณ์ต่างๆ เนื่องจากหากเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายขึ้น รัฐบาลจะจัดชุดจู่โจมเคลื่อนที่เร็วเพื่อเข้าระงับเหตุภายในเวลา 15 นาที โดยขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสและเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่
สำหรับกรณีการแจ้งเหตุอันเป็นเท็จผ่านสายด่วน 1555 นั้น ปลัดกทม. ยืนยันว่า กทม. จะมีหน่วยคัดกรองข่าวสาร เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด โดยมอบให้ผู้อำนวยการเขตทำหน้าที่ดูแล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ กทม. ได้จัดสัมมนาอาสาสมัครรักกรุงเทพ ซึ่งจะมีผู้นำชุมชน สื่อมวลชน ประชาชน และเจ้าหน้าที่กว่า 3,000 คน เข้าร่วมที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย—ญี่ปุ่น) เพื่อเป็นเครือข่ายแจ้งข่าวให้กับทางราชการอีกทางหนึ่งด้วย