กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--IR PLUS
ซินเน็ค (ประเทศไทย) โชว์ผลงานปี 52 ยอดเยี่ยมกำไรพุ่ง 64.88% ทะลุ 202.76 ลบ.จากที่ปีก่อนทำได้ 122.98 ลบ. "สุพันธุ์ มงคลสุธี" เผยปั๊มกำไรโตสวนตลาดไอทีที่ติดลบได้เพราะรายได้เพิ่มเกือบ 17% จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแต่เพียงผู้เดียวมากขึ้น ในขณะที่คุมต้นทุนอยู่หมัด สะท้อนให้กำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องได้สำเร็จ มั่นใจปีนี้ยังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมต่อได้ เหตุตลาดไอทีเริ่มฟื้นตัว-ได้งบไทยเข้มแข็งหนุน ด้านบอร์ดใจป้ำอนุมัติจ่ายปันผลเพิ่มอีก 0.14 บ./หุ้น รวมจ่ายทั้งปี 0.22 บ./หุ้น นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและซีอีโอ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำปี 2552 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ว่าบริษัทฯ มีผลประกอบการเติบโตอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับปี 2551 โดยในงบการเงินรวมบริษัทฯมีกำไรสุทธิรวม 202.766 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 64.88 เมื่อเทียบกับงวดปี 2551 ซึ่งมีกำไรสุทธิรวม 122.98 ล้านบาท
เขากล่าวว่าสาเหตุของการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิดังกล่าว เนื่องมาจากรายได้จากการขายและบริการรวมของบริษัทในปี 2552 มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2551 ถึงร้อยละ 16.73 โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 13,427.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่ทำได้ 11,503.35 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับราคาขายของสินค้าให้สูงขึ้นและการได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแต่เพียงผู้เดียวมากยิ่งขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสามารถควบคุมให้ลดลงได้ไม่ผันแปรไปตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและการดำเนินงานในปี 2552 ให้ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2551 เป็นจำนวน 12.45 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.52 ซึ่งค่าใช้จ่ายหลักที่บริษัทสามารถควบคุมให้ลดลงได้ ได้แก่ ค่าขนส่งสินค้าลดลงร้อยละ 3 ค่าการตลาดส่งเสริมการขายลดลงร้อยละ 29 และค่าล่วงเวลาลดลงร้อยละ 45 จึงสะท้อนให้กำไรขั้นต้นในปี 2552 เติบโตขึ้นจากปีก่อนถึง ร้อยละ 9.99 จึงส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างโดดเด่นดังกล่าว
"ในปี 52 ถือว่าซินเน็คฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเพราะเราผลักดันให้กำไรเติบโตได้อย่างโดดเด่นได้ถึงร้อยละ 64.88 ถึงแม้ว่าธุรกิจไอทีชะลอตัวลงอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 1/2552 ทำให้ผลประกอบการในงวดครึ่งปีเติบโตได้ไม่สูงนัก แต่เนื่องจากบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การขยายธุรกิจรองรับสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที ทำให้ บริษัทฯ สามารถเติบโตต่อเนื่องได้อย่างโดดเด่นทั้งรายได้และกำไร ซึ่งกลยุทธ์หลักที่นำมาใช้ คือ การสนับสนุนด้านการเงินให้กับลูกค้าต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าจากบริษัทฯ ได้มากกว่าเดิม นอกจากนั้นยังได้นำสินค้าใหม่เข้ามาจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นทำให้ฐานลูกค้าขยายตัวมากขึ้นกว่าเดิม และประการสำคัญ ซินเน็คฯ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแต่เพียงผู้เดียวมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเมื่อรวมกับแผนการหันมาสร้างการรับรู้และจดจำในสัญลักษณ์ Trusted by SYNNEX เพื่อเป็นสัญญลักษณ์การจัดจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และการบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ในกลุ่มผู้บริโภคจนช่วยให้ร้านค้าสามารถจัดจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น ดังนั้นเมื่อมีการปรับลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งค่าขนส่ง การตลาด และการบริหารจัดการภายใน จึงทำให้ผลประกอบการออกมาในทิศทางที่ดีดังกล่าว"
นายสุพันธุ์กล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2553 ว่า มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากปี 2552 ได้ เนื่องจากได้เห็นสัญญาณบวกสนับสนุนอย่างชัดเจนโดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่จะสนับสนุนให้ตลาดสินค้าไอทีพลิกกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง และมีปัจจัยบวกจากกการเปลี่ยนเทคโนโลยี platform ใหม่ของ CPU intel และการเปิดตัวซอฟต์แวร์ใหม่ อย่าง Microsoft window 7 เข้ามากระตุ้นการใช้งานอุปกรณ์ไอทีของผู้บริโภค มีงบประมาณในโครงการไทยเข้มแข็งเข้ามาสนับสนุนการใช้สินค้าไอทีในสถานศึกษาสนับสนุนให้ยอดขายสินค้าของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับในปีนี้เราจะให้ความสำคัญกับการให้บริการหลังการขายอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น และมุ่งขยายสาขาทั้งศูนย์บริการ และร้าน Cnex shop ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกของซินเน็คฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และเพิ่มรายได้ไปในเวลาเดียวกัน จึงคาดว่าจะทำให้รายได้ในปี 2553 เติบโตจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 15% ทะลุ 15,000 ล้านบาท ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลประจำปี 2552 เพิ่มอีกหุ้นละ 0.14 บาท ดังนั้น เมื่อรวมกับที่จ่ายในงวดระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2552 ทำให้ทั้งปี ซินเน็คฯ จ่ายปันผลรวมทั้งสิ้นหุ้นละ 0.22 บาท หรือคิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) 8.46%