กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--กรมธนารักษ์
กรมธนารักษ์ผนึกกำลังกรมที่ดินนำร่องพัฒนาระบบไอทีเชื่อมโยงฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ พร้อมรับมือพ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯฉบับใหม่
กรมธนารักษ์ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือกับกรมที่ดิน นำร่องพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเชื่อมโยงข้อมูลแผนที่ ข้อมูลราคาซื้อขายที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด เพื่อนำมาปรับปรุงระบบประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ ใช้เป็นฐานในการคำนวณค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม รวมถึงการประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หากมีการประกาศใช้พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2553) ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายเทวัญ วิชิตะกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ ลงนามบันทึกข้อตกลง (Memorandum Of Understanding: MOU) ร่วมกับนายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน นำร่องพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านแผนที่ ทะเบียนที่ดิน ราคาซื้อขายที่ดิน สิ่งปลูกสร้างและห้องชุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้บริหารจากกรมธนารักษ์และกรมที่ดินร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้
นายเทวัญ กล่าวว่าเพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลและสร้างความพร้อมด้านข้อมูลการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะสามารถรองรับพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หากมีการประกาศใช้
ในปีนี้ ดังนั้น กรมธนารักษ์จึงได้ร่วมมือกับกรมที่ดิน จัดทำบันทึกข้อตกลงขอใช้ข้อมูลที่ดินฯ เชื่อมโยงเครือข่ายฐานข้อมูลของทั้ง 2 หน่วยงานด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้เกิดความถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยกรมธนารักษ์จะขอใช้ข้อมูลจากกรมที่ดิน ได้แก่ แผนที่ ข้อมูลทะเบียนที่ดิน ข้อมูลอาคารชุด รวมทั้งข้อมูลราคาซื้อขายเพื่อทำการวิเคราะห์ราคาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และปรับปรุงราคาประเมินให้เป็นปัจจุบัน แล้วจัดทำบัญชีกำหนดราคาประเมินอสังหาริมทรัพย์ต่อไป ส่วนกรมที่ดินก็จะนำบัญชีกำหนดประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ที่มีทั้งที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และห้องชุดจากกรมธนารักษ์ไป เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินการคำนวณค่าธรรมเนียมสำหรับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
นายเทวัญ กล่าวต่ออีกว่า กรมธนารักษ์มีหน้าที่ในการประเมินราคาที่ดิน สิ่งปลูกสร้างและห้องชุดครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศให้สะท้อนมูลค่าตลาด เป็นที่ยอมรับ เชื่อถือ ได้มาตรฐาน เพื่อประโยชน์ในการนำไปใช้คำนวณค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม โดยจะมีการดำเนินการประเมินราคาและประกาศใช้ราคาประเมินรอบละ 4 ปี ปัจจุบันใช้รอบบัญชีปี พ.ศ.2551-2554 ซึ่งการที่ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมธนารักษ์กับกรมที่ดินในวันนี้ จะทำให้กระบวนการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ของกรมธนารักษ์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ราคาประเมินมีคุณภาพสะท้อนราคาตลาด สำหรับในปีงบประมาณ 2553 กรมธนารักษ์มีแผนที่จะเตรียมความพร้อมข้อมูลด้านแผนที่ ราคาซื้อขายและสำรวจการใช้ประโยชนที่ดินทั่วประเทศเป็นจำนวนประมาณ 7 ล้านแปลง และปีงบประมาณ 2554 จะดำเนินการจัดทำบัญชีกำหนดราคาประเมินที่ดินทั้งหมด 30 ล้านแปลงทั่วประเทศ ก่อนมีการประกาศใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2555 ต่อไป