กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--บ้านพีอาร์
“สถานีต่อไป สถานีนี้ปลายทางหมอชิตครับ” เสียงของ ด.ช. ฌอนฟาม บรอดเวล หนุ่มน้อยที่รับหน้าที่เป็นวิศวกรควบคุมการเดินรถของรถไฟฟ้า ที่จำลองมาจากกล่องกระดาษเชิญชวนให้ต้องเดินเข้ามาที่ห้องอนุบาล 3/2 โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ ซึ่งวันนี้มีกิจกรรมจัดนิทรรศการการเรียนรู้แบบโครงงาน “Project Approach” ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งวันนี้เราจะตามไปดูกันว่าน้องๆได้เรียนรู้อะไรกันบ้างภายใต้ชื่อโครงงาน “รถไฟฟ้า มาหานะเธอ”
ในการเรียนรู้แบบโครงงาน “Project Approach” จะใช้เวลาทั้งหมด 7 สัปดาห์ โดยคุณครูจะเป็นผู้คอยแนะนำนักเรียนให้มีกิจกรรมต่างๆ เพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้ ในครั้งแรกนั้นคุณครูจะให้นักเรียนออกมาเสนอหัวข้อที่สนใจหรือที่อยากจะเรียนรู้ โดยเป็นการพูดคุยกันในชั้นเรียน เด็กๆได้เสนอมาหลากหลายหัวข้อ อาทิเช่น เรื่อง กระเป๋า, รถไฟฟ้า, ดอกไม้, กังหัน, ฟุตบอล และวัดพระแก้ว ซึ่งจากการสำรวจและให้โหวตแล้วพบว่า เรื่อง “รถไฟฟ้า” มีคะแนนโหวตความสนใจมากที่สุดถึง 9 คน โดยน้องไพน์ เด็กหญิงพัณณิน นิมิตรวานิช ได้ให้เหตุผลถึงความสนใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง “รถไฟฟ้า” ไว้อย่างน่าเอ็นดูว่า “เพราะรถไฟฟ้าวิ่งได้เร็ว เร็วกว่ารถอื่นๆ ถ้าคนใช้รถไฟฟ้ามากๆ รถก็จะไม่ติด”
เมื่อเลือกหัวข้อที่จะเรียนรู้ได้แล้ว เด็กๆ ก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อที่ต้องการจะศึกษา จากประสบการณ์เดิมที่ได้เคยสัมผัส ซึ่งส่วนมากแล้วเด็ก ๆ ต่างก็เคยได้นั่งรถไฟฟ้ากันมาแล้วทั้งสิ้น หลังจากเล่าแบ่งปันประสบการณ์เดิมกันแล้ว เด็กก็ช่วยกันตั้งคำถามที่ต้องการอยากรู้เกี่ยวกับ “รถไฟฟ้า” ก่อนที่จะเริ่มทำการสืบค้นหาข้อมูล ได้แก่ ใครเป็นคนสร้างรถไฟฟ้า? ทำไมต้องชื่อว่ารถไฟฟ้า? รถไฟฟ้าทำมาจากอะไร ต้องมีรางเหมือนรถไฟธรรมดาไหม? แล้วรถไฟฟ้าต้องเติมน้ำมันไหม? วิธีการนั่งรถไฟฟ้าต้องทำอย่างไร?
ในสัปดาห์ต่อมาของการเรียนรู้ ถึงเวลาที่เด็ก ๆ ได้ออกไปสืบค้นเรื่องราวของรถไฟฟ้ากันอย่างจริงจัง ซึ่งน้องๆต่างก็สืบค้นทำการบ้านมาล่วงหน้าทั้งจากการให้คุณพ่อคุณแม่พาไปทดลองนั่งรถไฟฟ้า นำแผนที่การเดินรถของรถไฟฟ้าและบัตรโดยสารแบบเติมเงินที่ใช้หมดแล้วมาประกอบการเรียนรู้ โดยคุณครูประจำชั้นได้เชิญคุณทัสสนี อุดมกฤตยาชัย ผู้เชี่ยวชาญงานออกแบบระบบอาณัติสัญญาณ สำหรับรถไฟฟ้ามาเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่เด็ก ซึ่งเด็กๆ ตื่นเต้นและสนุกกันมาก โดยน้องเจินเจิน ด.ญ. ศศิญดา เตมียะประดิษฐ์ สรุปสิ่งที่ได้รู้เพิ่มเติมจากการฟังบรรยายว่า “รถไฟฟ้าต้องมี 2 หัว สำหรับขับไปและขับกลับ ใช้คอมพิวเตอร์ในการควบคุมรถ แยกคนขับเป็นสัดส่วนไม่ปนกับผู้โดยสาร รถไฟฟ้าจะเดินหน้าและถอยหลัง เลี้ยวไม่ได้ มีรางบังคับให้แล่นตามราง และเขาไม่ใช้น้ำมันเพราะทำให้เกิดภาวะโลกร้อน "พี่ๆทราบมั้ยค่ะว่า คุณซีเมนส์เป็นคนสร้างรถไฟฟ้า แล้วก็เปิดบริษัทซีเมนส์ผลิตรถไฟฟ้า ที่ชื่อรถไฟฟ้า เพราะต้องใช้พลังงานจากไฟฟ้า และวิ่งได้เร็ว วิ่งได้สะดวก และลดภาวะโลกร้อน ประหยัดน้ำมัน รถไฟฟ้ามีประตู 2 ด้าน เพราะว่าบางสถานีเปิดไม่เหมือนกัน" น้องเบลล์ ด.ญ. ณัฐนันท์ เพชรกูล หันมาถามผู้เขียนและเล่าความรู้ที่ได้จากการบรรยายให้ผู้เขียนฟัง จากนั้นเด็กๆ ก็ช่วยกันต่อ LEGO รถไฟฟ้าที่คุณครูไก่ได้ใจดีซื้อมาให้เล่น รวมกันกับอุปกรณ์จำลองที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าที่ผู้ปกครองของเด็กๆ นำมาให้อย่างสนุกสนาน
สัปดาห์ต่อไป คุณครูพาเด็กออกไปทัศนศึกษาที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยน้องเบลล์ ด.ญ. ณัฐนันท์ เพชรกูล เล่าให้เราฟังว่า “นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสนุกมากค่ะ มันวิ่งเร็วกว่า BTS ตั๋วโดยสารก็มีทั้งแบบเหรียญและบัตร ก่อนเข้าที่ชานชาลาต้องเอาเหรียญไปแตะที่เครื่อง ที่รถไฟฟ้าใต้ดินมีประตู 2 ชั้น เปิดพร้อมกันให้คนได้เข้าไปนั่ง”
สัปดาห์สุดท้ายของการเรียนรู้ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ระยะที่ 3 คือ ระยะสรุป เด็ก ๆ จะได้ร่วมกันสรุปถึงสิ่งต่างๆ ที่เด็ก ๆ สงสัยและร่วมกันจัดนิทรรศการภายในห้องให้ได้ชมกัน โดยเด็กๆให้ร่วมมือกันสร้างรถไฟฟ้าจำลองขนาดใหญ่ ทำบัตรโดยสารจำลอง ของที่ระลึกกับผู้ที่เข้าชมนิทรรศการ และบางส่วนก็ได้ช่วยกันต่อ LEGO จำลองเพื่อแสดงนิทรรศการซึ่งทำให้ผู้เข้าชมต่างทึ่งกับความสามารถที่เกินตัวของเด็ก ๆ ทั้งหลาย ภายในงานมีทั้งคุณลุงวิศวกรรถไฟฟ้าและเหม่ยลี พระนางตัวน้อยจากภาพยนตร์เรื่องดัง "รถไฟฟ้า มาหานะเธอ" เดินแนะนำผู้ปกครองที่เข้ามาชมนิทรรศการกันอย่างแข็งขัน ก่อนกลับเด็กๆ ยังกำชับด้วยว่า ต้องช่วยกันรณรงค์ให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้ากันเยอะๆ รถจะได้ไม่ติดและเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยค่ะ เราผู้ใหญ่ทั้งหลายก็อย่าลืมหันมาใช้บริการรถไฟฟ้ากันให้มากขึ้นนะคะ จะได้ช่วยกันรักษ์โลกค่ะ…
ความเป็นมานิทรรศการ Project Approach
เด็ก ๆ ทุกคนของโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ จะใช้เวลา 7 สัปดาห์ในการเรียนรู้โครงงาน Project Approach โดยแต่ละห้องจะตกลงเลือกเรื่องที่เด็กสนใจอยากเรียนรู้กันห้องละหนึ่งเรื่อง หลังจากนั้นเด็ก ๆ ได้เรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลายควบคู่ไปกับการเรียนรู้ตามหลักสูตรวิชาต่าง ๆ ของโรงเรียน การเรียนรู้เรื่องที่เด็ก ๆ เลือกตามแบบ Project Approach นั้น เด็ก ๆ ได้คิดและทำการสืบค้นหาข้อมูลด้วยตนเอง ทำกิจกรรมเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ สรุปข้อมูลและเผยแพร่ให้เพื่อนในห้องได้รับรู้ เพื่อพิจารณาข้อมูลและเรียนรู้ร่วมกันมาโดยตลอด เมื่อเด็ก ๆ พอใจในข้อมูลที่รวบรวมได้แล้ว เด็กและครูช่วยกันจัดนิทรรศการแสดงให้เห็นวิธีการคิด การเรียนรู้ และข้อมูลที่สืบค้นมาได้ รวมถึงรวบรวมผลงานจากกิจกรรมที่เด็ก ๆ ร่วมกันทำ เพื่อจัดแสดงถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียนห้องอื่น ผู้ปกครอง เพื่อน ๆ นักวิชาการจากต่างโรงเรียน หรือญาติ เข้าชมนิทรรศการ ดูผลงาน ความสามารถ และให้กำลังใจเด็ก ๆ ซึ่งทุกคนตั้งใจกันอย่างมากที่จะนำเสนอสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท บ้านพีอาร์ จำกัด
ฝ่ายประชาสัมพันธ์โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ โทร. 086 785-7454