ยูนิเวนเจอร์โชว์ศักยภาพผู้นำธุรกิจด้านการลงทุน เดินหน้ารับซื้อโครงการหวังสร้างกำไรแบบสวนกระแสหลังจากกำไรโตกว่า 35% ในปี 2548

ข่าวทั่วไป Friday March 24, 2006 11:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
-รุกซื้อโครงการที่ประสบปัญหาการเงินอีก 3 โครงการเพื่อลงทุนด้านอสังหาฯสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง-
ยูนิเวนเจอร์เดินหน้ารุกการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เชื่อมั่นของดียังขายได้หากมีการวางแผนด้านการตลาดและการขายให้ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างตรงจุด เจ้าของโครงการและเจ้าของที่ดินแห่เสนอโครงการให้ร่วมทุนอย่างต่อเนื่อง หลังประสบความสำเร็จจากการร่วมทุนกับปริญสิริก่อตั้งปริญเวนเจอร์ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
นางอรฤดี ณ ระนอง ประธานอำนวยการ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 1,107 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2547 ถึง 27% ทั้งนี้ทำให้ผลกำไรของบริษัทฯ ในปี 2548 เป็น 118 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ซึ่งมีผลกำไร 87 ล้านบาทถึง 36% นอกจากนี้ ยอดภาระหนี้ของบริษัทฯ ยังได้ลดลงเหลือเพียงอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 0.19 ซึ่งทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทฯ แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก พร้อมที่จะขยายการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัยพ์ที่ประสบปัญหาทางการเงิน เพื่อสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องในปี 2549”
โดยในปี 2549 ทางบริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเข้าซื้อโครงการที่มีปัญหาทางการเงินอีกไม่น้อยกว่า 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสร้างผลกำไรให้กับบริษัทฯ ไม่น้อยกว่า 30% โดยด้านนโยบายการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ คงเน้นด้านการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่น่าสนใจเข้าไปลงทุน และมีโครงการที่เริ่มประสบปัญหาทางการเงินเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันยูนิเวนเจอร์กำลังศึกษาโครงการที่มีเจ้าของโครงการหรือเจ้าของที่ดินเสนอให้ศึกษาเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะสรุปภายในครึ่งปีแรกนี้ประมาณ 1-2 โครงการ ส่วนธุรกิจอื่นๆ ของบริษัทฯ ก็ยังเดินหน้าไปด้วยดี ทั้งธุรกิจด้านการผลิตผงสังกะสีออกไซด์ ธุรกิจการบริหารงานและขายผลิตภัณฑ์ด้านที่จอดรถ ธุรกิจด้านที่ปรึกษาในการลงทุน และธุรกิจด้านที่ปรึกษาในการบริหารการใช้พลังงานอย่างมีศักยภาพ
สำหรับแนวโน้มด้านการลงทุนในปี 2549 นั้น ประธานอำนวยการ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) แสดงความเห็นว่า “ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ภาวะตลาดจะมีความไม่แน่นอนทางการเมือง และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น จะเป็นปัจจัยลบในการลงทุน แต่เรากลับเห็นว่าความต้องการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการระดับกลาง และที่อยู่อาศัยในเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นทางเดินรถไฟฟ้า ด้วยประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญด้านการเงิน และการร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่ผ่านมา เรายังได้มีโอกาสที่เจรจากับเจ้าของโครงการที่ประสบปัญหาด้านการเงิน เนื่องจากการขยายตัวที่มากเกินไป หรือขาดประสบการณ์ในเรื่องการบริหารจัดการด้านอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เราคิดว่ายังมีโอกาสอีกมากในการเข้าร่วมลงทุน หรือให้ความช่วยเหลือด้านการเงินกับโครงการต่าง ๆ อีกจำนวนมาก”
ในปี 2548 บริษัทฯได้ร่วมลงทุนกับบริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งบริษัท ปริญเวนเจอร์ จำกัด โดยทางยูนิเวนเจอร์จะเป็นผู้หาที่ดินจากการปรับโครงสร้างหนี้ ส่วนปริญสิริจะเป็นผู้พัฒนาโครงการ โดยได้เริ่มซื้อโครงการแรกที่เกิดจากการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ย่านสุวรรณภูมิมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ล่าสุด ในต้นปี 2549 บริษัทฯ ได้เป็นผู้เจรจาซื้อโครงการจากผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารพาณิชย์ เป็นโครงการย่านรังสิต เพื่อพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์มูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท
ด้านนายธนพล ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมเกี่ยวกับธุรกิจการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ว่า “โครงการล่าสุดของปริญเวนเจอร์ที่เราซื้อเข้ามาเมื่อต้นปี เป็นโครงการที่เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2547 และเริ่มประสบปัญหากับสถาบันการเงิน กรณีนี้นับเป็นตัวอย่างที่ดี ในการแสดงให้เห็นถึงการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ที่สร้างคุณค่าให้กับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นลูกหนี้ ธนาคาร หรือตัวผู้ซื้อเพื่อพัฒนาโครงการเอง ทั้งนี้เรามองว่า บริษัทฯ จะเป็นที่ปรึกษาในการปรับโครงสร้างหนี้ และหาทางออกให้กับเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ให้ การหาพันธมิตรร่วมทุน หรือการซื้อโครงการเพื่อพัฒนาต่อ ทั้งนี้ต้องตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์ร่วมกัน”
นายธนพล กล่าวเสริมว่า “โครงการที่ประสบปัญหาทางการเงินในขณะนี้อาจเกิดจากการขาดประสบการณ์ของผู้พัฒนาโครงการ หรือแม้กระทั่งผู้ที่มีประสบการณ์อยู่แล้ว แต่มีการขยายโครงการที่มากเกินกำลัง ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน กอร์ปกับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย และระเบียบการก่อสร้างใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ทำให้นักพัฒนาโครงการต้องมีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว จึงจะประสบความสำเร็จในโครงการ”
บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด(มหาชน) เป็นบริษัทที่มีธุรกิจในการลงทุนร่วมกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพหลายราย ทั้งนี้บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษาการเงินและการลงทุน โดยเฉพาะในธุรกิจอสังหาริมทรัยพ์ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ มีประสบการณ์ในการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่โครงการที่เป็น NPA และมีศักยภาพที่นำมาพัฒนาต่อจนประสบความสำเร็จแล้วมากกว่า 10 โครงการ โดยโครงการส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบอาคารชุด บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ โดยมียอดขายทั้งสิ้นมากกว่า 8,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมายูนิเวนเจอร์ได้ร่วมทุนกับบริษัทแอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบริษัทเยาววงศ์ฯ ก่อตั้งบริษัท แกรนด์ยูนิตี้ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 33.33% และได้ร่วมทุนกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัท แสนสิริ เวนเจอร์ จำกัด ซึ่ง ยูนิเวนเจอร์ ถือหุ้นอยู่ 49% และลงทุนร่วมกับบริษัท เอส. ยู.เอ็น แมเนจเม้นท์ จำกัด พัฒนาโครงการ ซัน สแควร์ สีลม ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ ซึ่งบริษัทฯถือหุ้นอยู่ 29.5% นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กินรี พร็อพเพอร์ตี้ และล่าสุดได้ร่วมทุนกับบริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งบริษัท ปริญเวนเจอร์ จำกัด โดยถือหุ้น 49% เพื่อพัฒนาโครงการบ้านย่านสุวรรณภูมิ และรังสิต มูลค่ากว่า 2,700 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
นางสาว รชนิภา วีรพลิน หรือ นางสาว ศิริพร สุเดชมาร์ค
บริษัท แบรนด์ ซาลอน จำกัด 02-934-8899, 01-720-5255, 06-602-8843

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ