กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2553 ส่วนกลาง ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมประสานให้จังหวัดจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในลักษณะเดียวกัน เพื่อบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยแล้งให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการติดตามการคาดหมายลักษณะอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้มีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ประกอบกับประเทศไทยได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ตั้งแต่ปลายฤดูฝน ปี 2552 ทำให้มีปริมาณฝนน้อยกว่าปกติ จึงคาดว่าในช่วงฤดูร้อน
ปี 2553 หลายพื้นที่ของประเทศไทยจะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เพื่ออุปโภค บริโภค รวมทั้งน้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณนอกเขตชลประทาน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2553 ส่วนกลาง ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และประสานให้จังหวัดจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในลักษณะเดียวกัน เพื่อทำหน้าที่เตรียมการรับมือภัยแล้งดังนี้ จัดทำบัญชีพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง บัญชีข้อมูลแหล่งน้ำ แผนเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง แผนแจกจ่ายน้ำ และกำหนดจุดแจกน้ำ พร้อมทั้งจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ สำหรับบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งให้พร้อมใช้งานได้ทันที ตรวจสอบแหล่งน้ำ ภาชนะเก็บกักน้ำให้อยู่ในสภาพใช้การได้อย่างเพียงพอ รวมถึงขุดลอกแหล่งน้ำให้สามารถเก็บกักน้ำได้มากขึ้น หากสถานการณ์ภัยแล้งส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรให้ประสานไปยังสำนักฝนหลวงและการบินเกษตรจัดทำฝนหลวงในทันทีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย สำหรับด้านการให้ความช่วยเหลือ ให้จังหวัดพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และความเหมาะสมของพื้นที่ หากสถานการณ์ภัยแล้งสร้างความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้างให้ขอความช่วยเหลือไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอสนับสนุนงบกลางให้ความช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องกำหนดมาตรการและระดมความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนจัดหาภาชนะเก็บกักน้ำและใช้น้ำอย่างประหยัด รวมทั้งวางแผนกิจกรรมการใช้น้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต้นทุนน้ำในพื้นที่ และนโยบายการจัดสรรน้ำของจังหวัด ส่วนเกษตรกรให้งดเว้นการทำนาปรังและเลือกปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยหรือพืชชนิดอื่นทดแทนในช่วงฤดูแล้ง หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง สามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป