กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทยช่วยเหลือทางการเงินแก่ลูกค้าทุกรายที่ประสบอุทกภัยทางภาคเหนืออย่างเต็มที่ โดยขยายเวลาชำระหนี้และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อใช้ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและเป็นทุนหมุนเวียน พร้อมยกหนี้ให้กับลูกค้าที่เสียชีวิต พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยอย่างต่ำ 6 เดือน โดยติดต่อได้ที่สาขาที่ใช้บริการ
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากที่ได้เกิดเหตุการณ์ดินโคลนถล่มและอุทกภัยในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ และธนาคารได้ให้สาขาสำรวจความเสียหายของลูกค้า เพื่อกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินนั้น ขณะนี้ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยจะขยายเวลาการชำระหนี้และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้าทุกรายที่ได้รับความเสียหาย ในรายที่เป็นลูกหนี้ก่อนวันที่ 23 พฤษภาคม 2549 เพื่อให้มีเงินทุนในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ใช้หมุนเวียนในการฟื้นฟูกิจการ และใช้จ่ายตามความจำเป็น
“ลูกค้าของธนาคารที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่อยู่ในเขตจังหวัดสุโขทัย และอุตรดิตถ์ โดยลูกค้ารายที่มีต้นเงินกู้คงค้างกับธนาคารต่ำกว่า 200,000 บาท ธนาคารยกหนี้ให้ในกรณีลูกค้าเสียชีวิต ขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไปอีก 3 ปี พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยให้ 1 ปี สำหรับลูกค้ารายที่มีต้นเงินกู้มากกว่า 200,000 บาท ธนาคารจะขยายเวลาชำระหนี้ โดยพิจารณาตามความเสียหาย พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน”
อย่างไรก็ตาม หากลูกค้ารายใดที่ได้รับความเสียหายรุนแรง ธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาตามความจำเป็นและความเดือดร้อน รวมถึงความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งลูกค้าสามารถติดต่อได้ที่สาขาของธนาคารที่ใช้บริการสินเชื่ออยู่
นายอภิศักดิ์ ได้กล่าวต่อไปว่า ธนาคารยังได้ให้ความร่วมมือกับทางการ โดยให้สาขาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย แพร่ น่าน ลำปาง และตาก จำนวน 22 แห่ง ทำหน้าที่เป็น “ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กระทรวงการคลัง” โดยทำหน้าที่ประสานกับคลังจังหวัดในการรวบรวมปัญหาทั้งที่เป็นลูกหนี้สถาบันการเงินและประชาชนทั่วไป
ส่วนการเปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทางภาคเหนือที่ธนาคารได้เปิดรับบริจาคมาตั้งแต่เกิดอุทกภัยในเดือนพฤษภาคมนั้น ธนาคารยังคงเปิดรับบริจาคไปจนถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2549 โดยธนาคารได้นำเงินบริจาคในงวดแรกจำนวน 1,346,500 บาท มอบให้กับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลสมทบทุนมูลนิธิฯ
ฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์ / โทร. 0-2208-4174-7