กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--IR PLUS
บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ หรือ SENA สร้างความประทับใจผู้ถือหุ้น ประกาศจ่ายเงินปันผลรอบปี 2552 เพิ่มอีกหุ้นละ 0.0927 บาท จากก่อนหน้านี้ได้จ่ายเป็นงวดระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.076 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนมากถึง 8.83% ดีกว่าฝากแบงก์ “ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” ระบุผลงานน่าพอใจทั้งกำไรและรายได้ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนแผนงานปี 2553 พร้อมลงสนามแข่งขันแม้ภาครัฐไม่ต่ออายุมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ มั่นใจผลักดันรายได้เติบโตอีก 20% แตะระดับ 1,500 ล้านบาท จากแผนการเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่องและจัดโปรโมชั่นที่โดนใจลูกค้า
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)(SENA) เปิดเผยว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2553ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2552 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.1687บาทต่อหุ้นคิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) 8.83% ทั้งนี้บริษัทฯ ได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 0.076 บาท เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2552 ดังนั้นจึงเหลือเงินปันผลที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมในอัตรา หุ้นละ 0.0927 บาท และอนุมัติวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2553 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของ พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 13 พฤษภาคม 2553 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 26 พฤษภาคม 2553
สำหรับผลประกอบการรอบปี 2552 ของ SENA บริษัทมีกำไรสุทธิ 287 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่มีกำไรสุทธิ 279 ล้านบาท
“ในปีที่ผ่านมา SENA ทำได้ดีกว่าที่วางเป้าหมายเอาไว้ จากเดิมโดยทั้งกำไรและรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของรายได้นั้นจากเดิมวางเป้าหมายไว้ที่ระดับ 1,200 ล้านบาท แต่สามารถทำได้ถึง 1,330 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการต่างๆ ของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งเป็นผลมาจากการเลือกทำเลที่ตั้งที่ดี โดยคำนึงถึงความสะดวกในการคมนาคมและลักษณะการดำเนินชีวิตของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม และรูปแบบบ้านและการจัดแบ่ง Function พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านได้อย่างเป็นสัดส่วนและตรงต่อความต้องการอยู่อาศัยของลูกค้ามากที่สุด และจากผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ถือหุ้นได้เพราะอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของ SENA อยู่ในระดับสูงถึง 8.83% ”
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ แม้ว่าภาครัฐจะไม่ต่ออายุมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ แต่ SENA ก็ไม่มีความกังวลต่อประเด็นดังกล่าว อีกทั้งยังมีความพร้อมที่จะรับมือกับการแข่งขันที่คาดว่าจะรุนแรงมากขึ้นด้วย โดยจุดเด่นของ SENA คือมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งภายหลังจากการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินมากพอสำหรับการขยายธุรกิจ ผุดโครงกรใหม่ๆ และมีโอกาสซื้อที่ดินในทำเลที่ดีแต่ราคาไม่แพงเพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต นอกจากนั้นยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่อเนื่องนานถึง 5 ปีในช่วงระหว่างปี 2553-2557 โดยจะจ่ายภาษีนิติบุคคลในอัตราร้อยละ 25 จากปกติทั่วไปที่ต้องจ่ายร้อยละ 30
นอกจากนี้การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยังทำให้ชื่อเสียงของ SENA เป็นที่ยอมรับจากลูกค้า และรู้จักกันในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญโครงการประเภทคอนโดมิเนียมทั้งแบรนด์ เดอะคิท และ เดอะ แคท ก็ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI อีกด้วย ทำให้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพแต่ราคาไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง เมื่อผนวกกับการบริการที่ดี เข้าใจความต้องการของลูกค้า และสถานที่ตั้งของโครงการที่ดี จึงถือเป็นจุดทีได้เปรียบของ SENA
“SENA มีความพร้อมที่จะรับมืออย่างเต็มที่ โดยในปีนี้เตรียมที่จะเปิดโครงการใหม่ๆ อีกหลายโครงการ พร้อมทั้งเตรียมจัดโปรโมชั่นใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายและรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้มั่นใจว่าในปี 2553 ในด้านผลประกอบการจะมีอัตราการขยายตัวอีกประมาณ 20% มีรายได้แตะระดับ 1,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog)ประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง” ดร.เกษรา กล่าวในที่สุด
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
IR PLUS : คุณปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) โทร.02-554-9394 หรือ 085-133-0184 E-mail : phapada@irplus.in.th