กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--EXIM BANK
EXIM BANK บรรลุเป้าหมายการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2549 เร่งพัฒนาธุรกิจบริการการส่งออก บริษัทการค้าระหว่างประเทศ และทีมที่ปรึกษาของ SMEs ไทยในเวทีการค้าระหว่างประเทศ พร้อมเดินหน้าผลักดันการพัฒนาตลาดทุนเอเชีย ตลอดจนการย้ายฐานการผลิตและการลงทุนของไทยในประเทศเพื่อนบ้าน
ดร.อภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK มีผลการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2549 เป็นที่น่าพอใจและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในแต่ละแผนยุทธศาสตร์ ประการแรก ยุทธศาสตร์การสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนเพื่อเพิ่มบทบาทของประเทศไทยในภูมิภาคเอเชีย EXIM BANK ได้ออกพันธบัตรสกุลเงินบาทของ EXIM BANK วงเงิน 3,200 ล้านบาทเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปปล่อยกู้ให้กับโครงการในประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งเตรียมสนับสนุนให้การไฟฟ้าลาวออกพันธบัตรสกุลเงินบาทเพื่อระดมเงินทุนสำหรับใช้ในโครงการพัฒนาเขื่อนและโรงไฟฟ้าพลังน้ำของลาว นอกจากนี้ EXIM BANK ยังมีความร่วมมือกับองค์กรการเงินในต่างประเทศเพื่อทำการศึกษาและพัฒนาการออกพันธบัตรสำหรับโครงการลงทุนต่างๆ ในเอเชีย
ประการที่สอง ยุทธศาสตร์การส่งเสริมและสนับสนุนการขยายตัวของการลงทุนไทยในต่างประเทศ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2549 EXIM BANK อนุมัติวงเงินสินเชื่อและค้ำประกันให้แก่นักธุรกิจไทยที่ไปลงทุนหรือให้บริการในต่างประเทศ ทั้งธุรกิจลงทุน รับเหมาก่อสร้าง งานบริการ และการสนับสนุนโครงการครัวไทยสู่โลก เป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 3,255 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 65 ของเป้าหมายปี 2549 ขณะเดียวกัน EXIM BANK ได้ร่วมมือกับพันธมิตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันให้โครงการทำฟาร์มสัญญา (Contract Farming) และการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (Factory Relocation) ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงครึ่งปีหลัง
ประการต่อไป ยุทธศาสตร์การส่งเสริมและสนับสนุนการขยายตัวของการส่งออกทั้งในตลาดเดิม ตลาดใหม่ และตลาด FTA ในช่วงครึ่งแรกของปี 2549 EXIM BANK อนุมัติวงเงินสินเชื่อและวงเงินรับประกันการส่งออกเพื่อสนับสนุนผู้ส่งออกทั้งสิ้น 13,444 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 57.7 ของเป้าหมายปี 2549 อีกทั้ง EXIM BANK ยังมุ่งมั่นในการสร้างและพัฒนาศักยภาพของผู้ส่งออกโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและแข่งขันได้มากยิ่งขึ้นในตลาดโลก โดยจัดให้มีบริการสนับสนุนทางการเงิน การจัดอบรมให้ความรู้ และการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการส่งออก รวมทั้งอยู่ในระหว่างการเตรียมจัดตั้งศูนย์ข้อมูลการตลาดเพื่อการส่งออกและการลงทุนไทยในต่างประเทศ ในการกระตุ้นการส่งออกไปตลาดใหม่และตลาด FTA เพิ่มมากขึ้นนั้น ในช่วงครึ่งแรกของปี 2549 EXIM BANK ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ซื้อหรือธนาคารผู้ซื้อในต่างประเทศให้แก่ผู้ส่งออกภายใต้โครงการทางการเงินพิเศษในปี 2549 จำนวน 251 ราย ใน 61 ประเทศ เพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้ส่งออกไทยในการเริ่มทำการค้ากับผู้ซื้อรายใหม่หรือขยายปริมาณการค้ากับผู้ซื้อรายเดิม
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2549 EXIM BANK ได้ทบทวนแผนยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ และแผนงาน โดยเพิ่มบทบาทของ EXIM BANK ในด้านการพัฒนาภาคส่งออกของไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจัดหาแนวทางและมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ส่งออกไทย อาทิ การสนับสนุนการขยายสินเชื่อไปสู่ธุรกิจบริการการส่งออก (Service Providers for Exports) ซึ่งทำหน้าที่ให้บริการแก่ภาคการผลิตเพื่อส่งออก ครอบคลุมผู้ให้บริการในกิจกรรมต่างๆ ที่มีส่วนสนับสนุนและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ส่งออก ตั้งแต่การจัดการวัตถุดิบ การผลิต การตลาด ตลอดจนการขนส่งและการกระจายสินค้าถึงมือผู้บริโภค ทั้งนี้ เนื่องจากภาคบริการการส่งออกดังกล่าวมีความสำคัญต่อการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานของสินค้าไทย รวมถึงช่วยลดต้นทุนการผลิตให้แก่ผู้ส่งออก อันจะส่งผลให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ในระยะยาว
EXIM BANK จะร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนเพื่อจัดหาแนวทางสนับสนุนให้เกิดบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (Trading Company) ของไทย ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการบุกและกระจายสินค้าไทยสู่ตลาดโลก รวมทั้งช่วยให้ผู้ประกอบการไทยที่ยังไม่พร้อมจะเป็นผู้ส่งออกสามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้ นอกจากนี้ EXIM BANK จะมุ่งสร้างและพัฒนาผู้ส่งออกรายใหม่ โดยการสนับสนุนให้ผู้ส่งออก SMEs ของไทยมีบริษัทที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ อาทิ การจัดทำบัญชีและการจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำหน้าที่พี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือให้ธุรกิจ SMEs ของไทยมีความเข้มแข็งและพร้อมจะเติบโตต่อไปอย่างมั่นคง
ทั้งนี้ ในครึ่งแรกของปี 2549 EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 142 ล้านบาท ยอดเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2549 มีจำนวน 58,893 ล้านบาท
เกี่ยวกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2536 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2542 ทำหน้าที่ให้บริการทางการเงินในการส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออก การนำเข้าสินค้าหรือบริการที่ใช้ในการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก และการลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยและนักลงทุนไทยในต่างประเทศ และสนับสนุนการได้มาซึ่งเงินตราต่างประเทศหรือประหยัดเงินตราต่างประเทศ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1140—6